Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

1 เมษายน 2556 ข่าวค่ำ!! TECHTVTHAILAND โทรคมนาคมและการสือสาร 3 ข่าวเด่น ประจำวันที่ 01/04/2556 By So Magawn ( โส มกร )

ข่าวค่ำ!! TECHTVTHAILAND โทรคมนาคมและการสือสาร 3 ข่าวเด่น ประจำวันที่ 01/04/2556 By So Magawn ( โส มกร )

1.... ที่ประชุมTOTเปิดอก!!! ปีหน้ายอมรับขาดทุน2,200ล้านบาท // จะบ้าตาย3Gเฟสแรกยังไม่เสร็จ // ไร้ปัญญาสั่งลดรายจ่ายเหมือนเดิม
2.... นักวิชาการชี้(กสท.)ตะแบง!!กำลังทำผิดกม.หลายมาตรา!!(โดยเฉพาะช่อง5เนื้หาไม่ใช้TVสาธารณะ)จะทำอะไรถามคนไทยยัง!!
3.... แหล่งข่าวTOTชี้ TOTกำลังเจรจาเปลื่ยนสัปทานAISเป็นการให้เช่าเสาและสายเคเบิล ค่าTOTคงได้รายได้เท่าสป.!! (ล่าสุดรายงานลูกค้า3Gเรียงจากมากสุด i-mobile/TOT3G/tunetalk/365/MOJO)




1 เมษายน 2556 แหล่งข่าวTOTชี้ TOTกำลังเจรจาเปลื่ยนสัปทานAISเป็นการให้เช่าเสาและสายเคเบิล ค่าTOTคงได้รายได้เท่าสป.!! (ล่าสุดรายงานลูกค้า3Gเรียงจากมากสุด i-mobile/TOT3G/tunetalk/365/MOJO)

ประเด็นหลัก



However, a TOT source said AIS must guarantee that TOT's rent revenue will not be lower than the current annual concession revenue. The state agency receives about Bt20 billion in annual concession revenue from AIS, the country's largest cellular operator.

Yongyuth said the details of the joint venture had yet to be finalised, and one more partner might be needed. If the talks with AIS are successful, TOT will incorporate AIS' fibre network into Tower Co and will also discuss a possible partnership to offer 3G-2.1-gigahertz telecom services.

The TOT source added that the state agency is examining the legality of the plan to convert the AIS concession fees into tower rental fees under the joint-venture model.

TOT provides 3G service with five private partners: Samart Corp, Loxley, IEC, 365 Communication and M Consultant. As of March 28, the service had around 232,940 customers, of which 188,668 are prepaid. Of total prepaid customers, 53,359 belonged to TOT, 82,150 to Samart, 9,418 to IEC, 23,068 to Loxley, 12,275 to 365 Communication and 8,398 to M Consultant.


สำนักข่าวที่อ้างอิงในประเด็นนี้
http://www.nationmultimedia.com/business/TOT-eager-to-conclude-asset-rental-deal-with-AIS-30203101.html

______________________________________



ที่ประชุมTOTเปิดอก!!! ปีหน้ายอมรับขาดทุน2,200ล้านบาท // จะบ้าตาย3Gเฟสแรกยังไม่เสร็จ // ไร้ปัญญาสั่งลดรายจ่ายเหมือนเดิม

ประเด็นหลัก




ทั้งนี้ทีโอทียังได้ประมาณการรายในปี2556 ว่าจะมีกำไรประมาณ 4,957 ล้านบาทซึ่งเป็นรายได้จากค่าสัมปทาน และรายได้ที่สร้างขึ้นเอง แต่ในปี 2557 คาดว่าจะขาดทุนประมาณ 2,200 ล้านบาท เนื่องจากไม่มีในส่วนของสัมปทานแล้ว

นายยงยุทธ วัฒนสินธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนการหารายได้เสริม นอกจากการเร่งเครื่องเปิดให้บริการโทรศัพท์มือถือ 3G แล้วยังได้เจรจากับ บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอสในการคืนสิทธิ์เสาโทรคมนาคม จำนวน 13,000เสาทั่วประเทศ ก่อนการสิ้นสุดสัมปทานในปี 2558 เพื่อให้ทีโอที มีรายได้จากการใช้เสาโทรคมนาคม

ส่วนรูปแบบการหารายได้จากเสาโทรคมนาคมดังกล่าวนั้น ทีโอที จะทำในลักษณะการตั้งบริษัทกลางเพื่อบริหารจัดการ รวมถึงการแบ่งสัดส่วนรายได้ คาดว่าจะมีข้อสรุปภายในปีนี้อย่างแน่นอน

สำหรับความคืบหน้าโครงการ 3G ล่าสุดทีโอที ได้ติดตั้งสถานีฐานแล้วเสร็จ 4,674 แห่ง และได้ทยอยเปิดให้บริการแล้ว 4,020 แห่ง คาดว่าภายในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน.นี้ จะสามารถติดตั้งสถานีฐานได้ครบ 5,320 แห่ง และพร้อมเปิดให้บริการซึ่งจะสามารถรองรับผู้ใช้บริการได้มากถึง 5 ล้านเลขหมาย

นายยงยุทธกล่าวว่า ส่วนการขยายโครงการ 3G เฟส 2 นั้น ในเบื้องต้นได้บริษัทที่ปรึกษาสำหรับโครงการดังกล่าวแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการขยายการติดตั้งสถานีฐานเฟส 2 ได้อย่างช้าไม่เกินต้นปี 2557 ซึ่งประมาณการติดตั้งสถานีฐานไว้จำนวน 7,500 สถานี และ 4G อีกจำนวน 2,000 สถานี ภายใต้งบประมาณการลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท

“ในตอนแรกที่เคยประมาณการในการติดตั้งสถานีฐานในเฟส 2 ไว้จำนวน?15,000 สถานีวงเงิน 30,000 ล้านบาทนั้นล่าสุดคาดว่าอาจจะไม่ต้องติดตั้งถึง 15,000 สถานีแล้ว เนื่องจากทีโอที ต้องได้เสาโทรคมนาคมคืนจากเอไอเอสอีกจำนวนหนึ่งด้วย” นายยงยุทธ กล่าว

ล่าสุดทีโอที ได้เปิดให้บริการ 3G ในจ.เชียงใหม่อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีสถานีฐาน 138 แห่ง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ทั้งหมด โดยมีเป้าหมายที่จะให้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือในจังหวัดเชียงใหม่ มีซิม 3G ทีโอที เป็นซิมที่ 2 ซึ่งจะเน้นการให้บริการอินเตอร์เนตเป็นหลัก




นายอุดม พัวสกุล ประธานบอร์ดบริษัท ทีโอที กล่าวว่าที่ประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ได้สั่งการให้นายยงยุทธ วัฒนสินธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่กลับไปจัดทำแผนปฏิบัติการปี 2556 ให้ชัดเจน และสามารถนำมาปฎิบัติการได้จริง และให้นำเสนอที่ประชุมบอร์ดในครั้งหน้าอีกครั้ง เนื่องจากแผนที่นำเสนอมานั้นเป็นแผนแบบกว้างๆ ที่ไม่เห็นแนวทางการทำงานที่ชัดเจนในการเพิ่มรายได้ อุดช่องโหว่ ลดรายจ่าย และสร้างรายได้จากทรัพย์สินที่มีอยู่ เพราะทีโอทีต้องเร่งหารายได้เข้ามาทดแทนส่วนแบ่งรายได้จากสัญญาสัมปทานที่จะหายไปในปี2557




นายยงยุทธ วัฒนสินธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในการเปิด TOT 3G Takeoff @ Chiangmail ซึ่งเชียงใหม่เป็นจังหวัดแรกที่ทาง ทีโอที ได้มีการติดตั้งสถานีฐานครบตามแผนการดำเนินการระยะที่ 1 จำนวน 138 สถานีฐาน ครบคลุมพื้นที่ตัวเมืองทั้งหมด โดยเฉพาะตัวเมืองชั้นใน และจากการตรวจสอบพบว่าคุณภาพสัญญาณอยู่ในระดับที่ดีมาก สำหรับการใช้งานเคลื่อนที่ รวมทั้งในสถานที่สำคัญและแหล่งท่องเที่ยว ของจังหวัดเชียงใหม่

นายยงยุทธ กล่าวต่อว่า ทีโอที ได้มีการปรับยุทธศาสตร์การตลาด โดยได้มีเข้าสู่ตลาดโทรศัทพ์เคลื่อนที่ แม้ว่าฐานลูกค้ามีจำนวนำไม่มาก หากเปรียบเทียบกับผู้ประกอบการที่ครองตลาดอยู่ แต่ทาง ทีโอที ได้มีการวางตำแหน่งของแบรนด์ 3 จี เป็นซินที่ 2 ที่ใช้กับ Mobile device ที่มีแนวโน้มการใช้งานเพิ่มมากขึ้น ด้วยการเน้นการใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลา ทั้งในการทำธุรกิจ การทำงาน และเพื่อความบันเทิง โดยได้มีการจัดโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยได้มีออกโปรโมชั่น จำนวน 2 แพคเกจ คือสำหรับลูกค้าทั่วไปสามารถทดลองใช้ในราคาถูก คือ Play sim ซิมการ์ดแบบเติมเงิน ราคา 95 บาท และเกิดใช้งานครั้งแรก มี Data ให้ถึง 500 MB และเมื่อเติมเง้น 100 บาท แรก จะได้เพิ่มเป็น 1,000 MB

และสำหรับลูกค้าเดิม ที่ใช้โทรศัพท์บ้าน หรือ อินเตอร์เน็ต สามารถขอเปิดใช้บริการโปรโมชั่น รายเดือน Nett 299 บาท ได้ทันที โดยผู้ใช้บริการสามารถเล่นอินเตอร์เน็ตบนเครือข่าย ทีโอที 3 จี ได้แบบไม่จำกัด จำนวน 2GB จากนั้นจะมีปรับความลงเป็นไม่เกิน 384 Kbps โดยทางทีโอทีเชื่อว่า โปรโมชั่นทั้งสอง โปร จะสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้


สำนักข่าวที่อ้างอิงในประเด็นนี้
http://www.naewna.com/business/46858
http://manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9560000039094
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130330/497936/%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8
%AD%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0
%B9%89%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A33%E0%B8%88%E0%B8%B5
%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8
%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88.html

______________________________________

นักวิชาการชี้(กสท.)ตะแบง!!กำลังทำผิดกม.หลายมาตรา!!(โดยเฉพาะช่อง5เนื้หาไม่ใช้TVสาธารณะ)จะทำอะไรถามคนไทยยัง!!

ประเด็นหลัก




เธอระบุว่า จะเสนอในการประชุม 7 ข้อ ที่ได้ระดมความเห็นจากนักวิชาการไปให้กับประธาน กสทช. โดยข้อ 1 เรียกร้องให้ กสท.ให้ผู้ประกอบการรายเดิมมีการปรับปรุงเงื่อนไขใหม่ ให้สอดคล้องหลักเกณฑ์ของทีวีสาธารณะ ไม่ใช่ออกอากาศในแบบเดิมที่ไม่ส่งเสริมการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ไม่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปี 50 ข้อ 2.กสท.ต้องตั้งเกณฑ์การตรวจสอบเจ้าของผู้ประกอบการรายเดิมหรือรายใหม่ และหน่วยงานรัฐที่จะขอมาจัดสรรคลื่นความถี่ทีวีสาธารณะ ต้องคำนึงถึงเจ้าของ หน้าที่ความจำเป็นที่ไม่ควรจะครอบงำหมด ไม่ใช่ดูแค่ตัวบทกฎหมาย เหล่านี้ยังไม่มีหลักเกณฑ์กติกาที่ชัดเจน

ข้อ 3 กสท.ต้องจัดทำคำนิยามบริการสาธารณะ ดูเนื้อหารายการพันธกิจสาระสำคัญของช่องต่างๆ ให้ชัดเจนของทั้ง 12 ช่อง ข้อ 4 กสท.ต้องคำนึงถึงความเป็นเจ้าของสำหรับภาคประชาชน เพื่อจะได้ใช้คลื่นความถี่ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ในพื้นที่การประกอบกิจการ ข้อที่ 5 กสท.ต้องกำหนดให้แต่ละช่องเสนอโครงสร้างการบริหารที่ต้องสะท้อนความเป็นอิสระจากภาคการเมือง ภาคธุรกิจ ข้อที่ 6 กสท.ต้องมีเกณฑ์การคัดเลือกคุณสมบัติผู้ได้รับการจัดสรรคลื่นความถี่สาธารณะออกมาเป็นประกาศ และข้อ 7 กสท.ควรชะลอผู้ได้รับการจัดสรรคลื่นความถี่ 12 ช่อง แล้วรับฟังความคิดเห็นข้อมูลรอบด้านจากทุกภาคส่วน แล้วนำมาเป็นข้อมูลในการใช้เป็นดุลยพินิจ


ข้อสรุปในเวทีเสวนาเห็นว่า กสทช.กำลังนำคลื่นฯสาธารณะของประชาชน ไปจัดสรรให้หน่วยงานที่อาจไม่ดำเนินการช่องทีวีดิจิทัล ในรูปแบบสาธารณะ ดังนั้นองค์กรสื่อและนักวิชาการสื่อในเวทีเสวนาได้ร่วมประกาศจุดยืนว่า หาก กสท.ไม่ทบทวนหลักเกณฑ์ให้ใบอนุญาตทีวีดิจิทัล สาธารณะ จะมีการรวมตัวองค์กรวิชาชีพสื่อ นักวิชาการสื่อ ภาคประชาสังคม และกลุ่มผู้ได้รับความเสียหายจากการจัดสรรคลื่นฯ ทีวีดิจิทัล สาธารณะ ยื่นฟ้องศาลปกครอง และยื่นถอดถอนกรรมการ กสทช.ทั้งคณะ 11 คนต่อสมาชิกวุฒิสภา

"กสท.ควรต้องทบทวนและเปิดเวทีฟังความเห็นสาธารณะ รวมทั้งทำหลักเกณฑ์ต่างๆ ให้เรียบร้อย ก่อนพิจารณาให้ใบอนุญาต ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ เวทีประชุมยังได้เรียกร้องให้ไทยพีบีเอส ที่ได้รับการจัดสรร 2 ช่องทีวีดิจิทัล สาธารณะ จาก กสท. ประกาศจุดยืนที่จะทำตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขทีวีสาธารณะ โดยเฉพาะช่องใหม่ ก่อนที่จะรับ ใบอนุญาตจาก กสทช." นายวิสุทธิ์กล่าว





นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เสนอ|ให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทบทวนมติคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ที่เห็นชอบให้ใบอนุญาตทีวีดิจิตอลประเภทสาธารณะแก่ช่อง 5 และช่อง 11 โดยไม่มีคำขอใบอนุญาต เพราะน่าจะผิดกฎหมายหลายมาตรา

ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นการจัดสรรคลื่นใหม่ ซึ่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรทัศน์ฯ มาตรา 11 ระบุว่า กสทช.ต้องกำหนดหลักเกณฑ์ความจำเป็นของผู้ขอรับใบอนุญาต แต่ปัจจุบัน กสทช.ยังไม่กำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าว จึงทราบได้อย่างไรว่าช่อง 5 และช่อง 11 จำเป็นต้องได้คลื่นทีวี


อย่างไรก็ตามแนวทางการพิจารณาให้ใบอนุญาตทีวีดิจิทัล สาธารณะ ซึ่งยังไม่กำหนดหลักเกณฑ์ แต่ได้ให้สิทธิฟรีทีวี อนาล็อก รายเดิมออกอากาศระบบดิจิทัล โดยยังไม่กำหนดระยะเวลาความจำเป็นในการใช้คลื่นฯ และปรับผังรายการให้เป็นไปตามกรอบทีวีสาธารณะ ซึ่งต้องนำเสนอผังรายการข่าวและสารประโยชน์ในอัตรา 70% อีกทั้งแนวทางการให้ใบอนุญาตกับ "รายใหม่" ยังไม่มีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ตามมาตรา28 พ.ร.บ. กสทช. พ.ศ.2553 ที่ระบุว่า "ให้ กสทช.จัดให้มีการรับฟังความเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนทั่วไป เพื่อนำความเห็นมาประกอบพิจารณาก่อนออกระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่ง เกี่ยวกับการกำกับดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมที่มีผลใช้บังคับเป็นการทั่วไปและเกี่ยวข้องกับการแข่งขัน หรือมีผลกระทบต่อประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ" ดังนั้นกรณีดังกล่าว อาจเป็นขั้นตอนการจัดสรรคลื่นฯใหม่ที่เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.กสทช.


นางเอื้อจิต วิโรจน์ไตรรัตน์ ผู้อำนวยการมูลนิธิสื่อมวลชนศึกษา (มีเดียมอนิเตอร์) กล่าวว่า จากการศึกษาผังรายการฟรีทีวีของมีเดียมอนิเตอร์ ม.ค.2556 พบว่าช่อง5 นำเสนอรายการข่าวและสารประโยชน์ 44% ขณะที่ตามกฎหมายสื่อสาธารณะต้องเสนอสัดส่วน 70% ทั้งยังมีเนื้อหาบันเทิงสูง ช่อง11เสนอข่าวและสารประโยชน์สัดส่วน 90% แต่เนื้อหารายการยังนำเสนอความคิดเห็นไม่




สำนักข่าวที่อ้างอิงในประเด็นนี้
http://www.ryt9.com/s/tpd/1620824
http://www.posttoday.com/%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8
%A5%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C/213513/%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%97-
%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%8E%E0%B
8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%94%E0%B8%B4%
E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8
%875-11
http://www.thairath.co.th/content/tech/336160
http://www.thairath.co.th/content/tech/336224
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130401/498056/%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8
%81%E0%B8%AA%E0%B8%97%E0%B8%8A.%E0%B8%8A%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B9%84
%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%
B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B0.html
http://www.isranews.org/เวทีทัศน์/item/20333-nbtc-dtv.html


ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.