Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

11 เมษายน 2556 (แก้ CAT TRUEผ่านไป282วันแล้ว) CAT คาดรายได้ 3G TRUE H หักค่าใช้จ่ายเหลือ 4,250 ล้านบาท // มีมติ ให้ตน มีอำนาจในการใช้3Gคลื่น 850 ให้สมบูรณ์ที่สุด // และให้อุปกรณ์สื่สาร เชื่อมต่อ 3G คลื่น 850


ประเด็นหลัก




ทั้งนี้มติบอร์ดกทค.ในการสั่งให้แก้ไขสัญญา 6 ประเด็น ได้แก่ 1.บริษัท กสท โทรคมนาคม ต้องสามารถนำคลื่นความถี่ย่าน800MHz (Band V) ไปใช้กับเครื่อง และอุปกรณ์ของตนเองหรือของบริษัทอื่นได้ 2. กสท ต้องเร่งรัดดำเนินการให้ตนเองสามารถควบคุมดูแลและบริหารจัดการคลื่นความถี่ ได้อย่างสมบูรณ์ผ่าน network operation (NOC) 3.กสท ต้องเร่งรัดดำเนินการให้ตนเองสามารถเข้าถึงข้อมูลการใช้งาน (call detail record (CDR)) เพื่อการควบคุมดูแลและบริหารจัดการคลื่นความถี่ด้วยตนเองอย่างสมบูรณ์ 4.กสทต้องเร่งรัดดำเนินการให้อำนาจของคณะกรรมการควบคุมการปฏิบัติงาน (Operation Supervision Committee) ตามสัญญามีความชัดเจน โดยแสดงให้เห็นถึงอำนาจในการบริหารจัดการคลื่นความถี่ของตนเองโดยชัดแจ้ง
     
       5. กสทต้องเร่งรัดดำเนินการให้ตนเองเป็นผู้ควบคุมและบริหารจัดการคลื่นความถี่ ด้วยตนเองอย่างสมบูรณ์ผ่านกระบวนการสร้างและจัดหาความจุของบริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย)โดยรวมถึงfrequency planning,network roll-out และnetwork operation และ6. กสทต้องเร่งรัดดำเนินการให้ตนเองเป็นผู้ควบคุมและบริหารจัดการคลื่นความถี่ ด้วย ตนเองอย่างสมบูรณ์ผ่านการเจรจาให้บริการบริการข้ามโครงข่ายภายในประเทศ (inbound domestic roaming) และการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมกับผู้ประกอบการรายอื่น
     
       นายกิตติศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในปี 2556 กสทจะมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์มือถือที่ทำสัญญาร่วมกับกลุ่มบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น ในโครงการโทรศัพท์มือถือ 3G HSPA บนคลื่นความถี่ 850 MHz และรายได้จาก 3G My ของ กสทในปีนี้รวมกันทั้งหมดราว 25,000 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มทรูจะได้สิทธิเป็นผู้ทำตลาดแบบขายส่งบนโครงข่ายที่บริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย)เป็นผู้สร้างขึ้นตามความต้องการของกสท โดยในสัญญาระบุให้ทรูได้สิทธิในความจุโครงข่ายทั้งหมด จำนวน 80%
     
       ดังนั้นในส่วนของกสทเองจะรับรู้รายได้จริงที่เข้าบริษัทคือตามสัดส่วนสัญญา 23% แต่เมื่อหักค่าเช่าอุปกรณ์ และการจ่ายค่าเช่าให้กับบีเอฟเคทีจะเหลือรายได้ 17% ซึ่งจะคิดเป็น 4,250 ล้านบาทโดยประมาณ ขณะที่รายได้รวมของ กสท ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 40,000 - 43,000 ล้านบาท

















____________________________________


‘กสท’รับรู้รายได้ ตามสัญญา3Gทรู ในไตรมาส3ปีนี้ ราว3.3พันล้านบ.



นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2556 กสท น่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G ภายใต้เทคโนโลยี เอชเอสพีเอ (HSPA) บนคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ที่ทำสัญญาร่วมธุรกิจกับบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยสัญญาฉบับนี้มีอายุ 14.5 ปี

“ในปีนี้ทรูฯจะรับรู้รายได้ราว 25,000 ล้านบาท ซึ่งตามสัญญากลุ่มทรูฯจะเป็นได้สิทธิเป็นผู้ทำตลาดแบบขายส่ง (โฮลเซล) บนโครงข่ายที่บริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) เป็นผู้สร้างขึ้น” นายกิตติศักดิ์ กล่าว

ในส่วนของ กสท เองจะรับรู้รายได้จริงเข้าบริษัทตามสัดส่วนในสัญญาคือ 23% แต่เมื่อหักค่าเช่าอุปกรณ์ และการจ่ายค่าเช่าให้กับ บีเอฟเคที แล้วจะเหลือรายได้ 17% ซึ่งเป็นการรับรู้รายได้ทางบัญชี ส่วนการรับรู้รายได้จะเกิดขึ้นจริงก็ต่อเมื่อ กสท มีการจ่ายค่าเช่าให้แก่ บีเอฟเคที แล้ว คาดว่าจะเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปีนี้ เป็นต้นไป

“การรับรู้รายได้จะเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป ซึ่งจะเหลือสุดท้ายเข้า กสท ราว 2,500-3,300 ล้านบาท” นายกิตติศักดิ์ กล่าว

ส่วนการแก้ไขสัญญาดังกล่าวให้เป็นไปตามมติ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.)นั้น ที่ผ่านมา กสท ได้ส่งรายละเอียดโครงการ 3G ไปให้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นผู้ตีความในสัญญาดังกล่าวว่า การดำเนินงานเข้าข่ายพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุน) หรือไม่ หลังจากนั้นจะต้องส่งแผน และแนวทางการแก้ไขสัญญาให้ กระทรวงไอซีที คาดว่าภายใน 3 เดือน ต่อจากนี้ กระบวนการแก้ไขสัญญาจะแล้วเสร็จ


http://www.naewna.com/business/48018


____________________________________________





กสท ชงครม.ของบ 2.9 หมื่นล้านหวังปลดล็อกมาตรา46


'ซีอีโอ กิตติศักดิ์' แย้มทำเรื่องของบ 2.9หมื่นล้านบาท หวังปลดล็อกมาตรา46 ตามคำสั่งกทค.ที่ระบุต้องบริหารจัดการคลื่นความถี่เอง คาดใช้เวลา3เดือนเสนอครม.อนุมัติ พร้อมประมาณการรายได้ธุรกิจโทรศัพท์มือถือปี 56 ของกสท ราว 4,000ล้านบาท
     
       นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม กล่าวว่าความคืบหน้าการแก้ไขสัญญาการให้บริการโทรศัพท์มือถือรูปแบบใหม่ 3G HSPA ระหว่างกลุ่มทรูกับกสท ตามมติของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.)ที่มีคำสั่งให้แก้ไขสัญญา 6 ประเด็นหลักเพื่อไม่ให้ขัดมาตรา 46 ของ พ.ร.บ.กสทช. ล่าสุดกสท เตรียมทำเรื่องขออนุมัติงบประมาณจำนวน 29,000 ล้านบาทเพื่อนำมาลงทุนวางสายไฟเบอร์ออฟติกระยะยาวสำหรับใช้ในโครงข่ายของบริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 14,000 ล้านบาท และค่าเช่าโครงข่ายจาก บีเอฟเคที ต่อปีอีกจำนวน15,000 ล้านบาท
     
       'กสทจะนำงบประมาณจำนวนดังกล่าวมาลงทุนสร้างโครงข่ายเป็นของตัวเองเพื่อที่จะบริหารจัดการได้เองตามที่บอร์ดกทค.สั่งมาก่อนหน้านี้'
     
       การเสนอของบประมาณจำนวน 2.9 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3เดือนหรือปลายไตรมาส3 จะแล้วเสร็จเนื่องจากจะต้องทำโครงการเสนอกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) ภายในสิ้นเดือนเม.ย.นี้หลังจากนั้นเสนอต่อไปให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)และเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)ต่อไป
     
       'ในตอนนี้เรารอเพียงงบประมาณ2.9 หมื่นล้านบาท ที่กสทเพิ่งทำเรื่องขอไปใหม่ เพื่อนำมาปลดล็อกมาตรา46'
     
       ทั้งนี้มติบอร์ดกทค.ในการสั่งให้แก้ไขสัญญา 6 ประเด็น ได้แก่ 1.บริษัท กสท โทรคมนาคม ต้องสามารถนำคลื่นความถี่ย่าน800MHz (Band V) ไปใช้กับเครื่อง และอุปกรณ์ของตนเองหรือของบริษัทอื่นได้ 2. กสท ต้องเร่งรัดดำเนินการให้ตนเองสามารถควบคุมดูแลและบริหารจัดการคลื่นความถี่ ได้อย่างสมบูรณ์ผ่าน network operation (NOC) 3.กสท ต้องเร่งรัดดำเนินการให้ตนเองสามารถเข้าถึงข้อมูลการใช้งาน (call detail record (CDR)) เพื่อการควบคุมดูแลและบริหารจัดการคลื่นความถี่ด้วยตนเองอย่างสมบูรณ์ 4.กสทต้องเร่งรัดดำเนินการให้อำนาจของคณะกรรมการควบคุมการปฏิบัติงาน (Operation Supervision Committee) ตามสัญญามีความชัดเจน โดยแสดงให้เห็นถึงอำนาจในการบริหารจัดการคลื่นความถี่ของตนเองโดยชัดแจ้ง
     
       5. กสทต้องเร่งรัดดำเนินการให้ตนเองเป็นผู้ควบคุมและบริหารจัดการคลื่นความถี่ ด้วยตนเองอย่างสมบูรณ์ผ่านกระบวนการสร้างและจัดหาความจุของบริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย)โดยรวมถึงfrequency planning,network roll-out และnetwork operation และ6. กสทต้องเร่งรัดดำเนินการให้ตนเองเป็นผู้ควบคุมและบริหารจัดการคลื่นความถี่ ด้วย ตนเองอย่างสมบูรณ์ผ่านการเจรจาให้บริการบริการข้ามโครงข่ายภายในประเทศ (inbound domestic roaming) และการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมกับผู้ประกอบการรายอื่น
     
       นายกิตติศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในปี 2556 กสทจะมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์มือถือที่ทำสัญญาร่วมกับกลุ่มบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น ในโครงการโทรศัพท์มือถือ 3G HSPA บนคลื่นความถี่ 850 MHz และรายได้จาก 3G My ของ กสทในปีนี้รวมกันทั้งหมดราว 25,000 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มทรูจะได้สิทธิเป็นผู้ทำตลาดแบบขายส่งบนโครงข่ายที่บริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย)เป็นผู้สร้างขึ้นตามความต้องการของกสท โดยในสัญญาระบุให้ทรูได้สิทธิในความจุโครงข่ายทั้งหมด จำนวน 80%
     
       ดังนั้นในส่วนของกสทเองจะรับรู้รายได้จริงที่เข้าบริษัทคือตามสัดส่วนสัญญา 23% แต่เมื่อหักค่าเช่าอุปกรณ์ และการจ่ายค่าเช่าให้กับบีเอฟเคทีจะเหลือรายได้ 17% ซึ่งจะคิดเป็น 4,250 ล้านบาทโดยประมาณ ขณะที่รายได้รวมของ กสท ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 40,000 - 43,000 ล้านบาท

http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000043626



ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.