Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

12 เมษายน 2556 แบรนด์มือถือแข่งเดือดรับ 3G 2100 พฤติกรรมผู้บริโภคนิยมแฟชั่นและฟังก์ชัน แถมชอบเครื่องที่กันน้ำกันฝุ่นได้เป็นอย่างดี


ประเด็นหลัก



ปีนี้เป็นปีทองของสมาร์ตโฟนอย่างชัดเจน จากคาดการณ์ตลาดรวมประมาณ 15 ล้านเครื่อง เป็นสมาร์ตโฟนประมาณ 7.8 ล้านเครื่อง เรียกว่ากินส่วนแบ่งมากกว่า 50% ไปแล้ว และไม่แน่ว่าอาจจะเติบโตขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ด้วยซ้ำ เพราะการมาถึงของบริการ 3จี และการขยายตัวของแอพพลิเคชัน

ที่สำคัญที่สุดคือ พฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคที่นิยมกันมากขึ้น เป็นทั้งแฟชั่นและฟังก์ชันไปพร้อมๆ กัน ดังนั้นภาพรวมในปีนี้แม้ก้อนเค้กสมาร์ตโฟนจะใหญ่ขึ้น แต่การแข่งขันก็มีแนวโน้มหนักหน่วงมากกว่าเดิม

ปัจจัยแรกที่ส่งเสริมการแข่งขันอย่างชัดเจน คือ การก้าวเข้ามาของระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟน 8 ที่ร่วมมือกับโนเกีย วางตลาดเครื่องโนเกียลูเมีย สร้างความฮือฮาได้พอสมควร ตามด้วยการทยอยเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ไฮเอนด์ของสารพัดแบรนด์ตั้งแต่ผู้นำตลาดจนถึงแบรนด์อื่นๆ










______________________________________________


แบรนด์มือถือแข่งเดือดรับฤดูร้อน


พฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคที่นิยมกันมากขึ้น เป็นทั้งแฟชั่นและฟังก์ชัน ทำให้การแข่งขันสมาร์ตโฟนมีแนวโน้มดุเดือด

ปีนี้เป็นปีทองของสมาร์ตโฟนอย่างชัดเจน จากคาดการณ์ตลาดรวมประมาณ 15 ล้านเครื่อง เป็นสมาร์ตโฟนประมาณ 7.8 ล้านเครื่อง เรียกว่ากินส่วนแบ่งมากกว่า 50% ไปแล้ว และไม่แน่ว่าอาจจะเติบโตขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ด้วยซ้ำ เพราะการมาถึงของบริการ 3จี และการขยายตัวของแอพพลิเคชัน

ที่สำคัญที่สุดคือ พฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคที่นิยมกันมากขึ้น เป็นทั้งแฟชั่นและฟังก์ชันไปพร้อมๆ กัน ดังนั้นภาพรวมในปีนี้แม้ก้อนเค้กสมาร์ตโฟนจะใหญ่ขึ้น แต่การแข่งขันก็มีแนวโน้มหนักหน่วงมากกว่าเดิม

ปัจจัยแรกที่ส่งเสริมการแข่งขันอย่างชัดเจน คือ การก้าวเข้ามาของระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟน 8 ที่ร่วมมือกับโนเกีย วางตลาดเครื่องโนเกียลูเมีย สร้างความฮือฮาได้พอสมควร ตามด้วยการทยอยเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ไฮเอนด์ของสารพัดแบรนด์ตั้งแต่ผู้นำตลาดจนถึงแบรนด์อื่นๆ

ดังนั้น ปีก่อนๆ หากมีผู้ใช้สมาร์ตโฟน 10 คนเดินมา อาจจะเป็นไอโฟน 8 คน แต่ในปีนี้อาจจะเห็นคนใช้ไอโฟนลดลงเหลือเพียง 45 คนก็เป็นไปได้ แต่ส่วนที่เหลือแบรนด์อื่นๆ ก็ต้องแย่งชิงกันเต็มที่



อันดับแรก ซัมซุง ที่เตรียมเปิดตัว ซัมซุง กาแล็คซี่ เอส 4 เป็นมือถือไฮเอนด์ที่คาดว่าราคาจะสูงกว่า 2.2 หมื่นบาท ถือเป็นรุ่นเรือธงของซัมซุงในช่วงไตรมาส 2-3 หลังจากปีที่ผ่านมามีซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 2 ออกมาตีตลาดไปแล้ว ซึ่งซัมซุงได้เริ่มปล่อยของให้บรรดานักทดสอบทั้งหลายได้ลองกันแล้ว ถือว่าสาวกซัมซุงที่ใช้ กาแล็คซี่ เอส 3 เดิมคงตั้งตารอ เอส 4 กันตาไม่กะพริบ





ต่อมาคือ โซนี่ ที่เปิดตัว เอ็กซ์พีเรีย แซด สมาร์ตโฟนไฮเอนด์อีกตัว ด้วยราคา 2.09 หมื่นบาท ชูเด่นในเรื่องของเสียงและกล้องตามสไตล์โซนี่ พร้อมด้วยตัวเครื่องที่กันน้ำกันฝุ่นได้เป็นอย่างดี และถือเป็นโมเดลหลักของโซนี่ ที่จะใช้ในการกลับมารุกตลาดสมาร์ตโฟนเต็มสูบอีกครั้ง หลังจากที่ทำตลาดแบบมาๆ หายๆ ในปีที่ผ่านมา ซึ่งโซนี่ ได้ยืนยันว่าปัจจุบันเป็นแบรนด์ที่มีส่วนแบ่งเป็นอันดับ 2 ในเชิงมูลค่าของตลาดสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ และมีเป้าหมายที่จะขึ้นเป็นที่ 1 ด้วย



ด้านเอชทีซี ที่ณัฐวัชร์ วรนพกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย ได้ลาออกไปช่วงต้นปี และกำลังรอความชัดเจนจากต้นสังกัด ได้เปิดตัว เอชทีซี วัน สมาร์ตโฟนตัวท็อปประจำปีนี้ ถือว่าการออกแบบทำออกมาได้แตกต่าง สวยงาม มีระบบบีบอัดไฟล์ภาพความละเอียด 4 ล้านพิกเซล แต่คมชัดไม่แพ้ 8-10 ล้านพิกเซล ตามมาด้วย แอลจี ออพติมัส จี ที่ถือเป็นสุดยอดสมาร์ตโฟนของแอลจี ที่จะใช้ทำตลาดในปีนี้ ถือว่าเป็นโมเดลที่จะวัดอนาคตสมาร์ตโฟนแอลจีในประเทศไทยก็ว่าได้

ทั้งหมดที่กล่าวมา คือ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ดังนั้นการแข่งขันจะวัดกันที่การออกแบบ ความแรงของซีพียู คุณภาพของเสียงและกล้อง รวมถึงบริการเสริม ลูกเล่นและแอพพลิเคชันต่างๆ เป็นหลัก



ตามด้วยแบล็คเบอร์รี่ ที่เปิดตัว บีบีแซด 10 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการใหม่ บีบี 10 ซึ่งเป็นการปฏิวัติระบบปฏิบัติการไปจากเดิม เรียกว่าท้าชนโดยตรงกับเครื่องแบรนด์อื่นๆ เต็มตัว แม้จะเปิดตัวและวางจำหน่ายในไทยช้าไปบ้าง แต่ก็ยังมีโอกาสทำตลาดอยู่ไม่น้อย ด้วยระบบอีเมล บีบีเอ็ม ที่ยังโดดเด่น

แต่ก็ต้องลุ้นกันว่าจะมีแอพพลิเคชันออกมามากเพียงพอหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาก็ถือเป็นจุดอ่อนหนึ่งเช่นกัน และเป็นภารกิจของบีบี ที่ต้องยกระดับแบรนด์ตัวเองขึ้นมาให้ได้ จากที่โดดเด่นในตลาดระดับล่าง ยึดกลุ่มผู้ใช้ต่างจังหวัดอยู่



ปิดท้ายด้วยโนเกีย ลูเมีย ที่เปิดออกมา 5 รุ่น พร้อมวินโดวส์โฟน 8 ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ผู้ใช้มีโอกาสเป็นเจ้าของวินโดวส์โฟนในราคาต่ำกว่า 6,000 บาท การแต่งตั้ง ญาณธน สิมะวานิชกุล เป็นกรรมการผู้จัดการ คนไทยน่าจะเข้าถึงตลาดได้ดีขึ้น แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ โนเกีย จะเดินเกมอย่างไรต่อจากนี้ เพราะรุ่นท็อปอย่าง 920 เปิดตัวมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ถ้าปีนี้ไม่มีรุ่นระดับสูงออกมากระทุ้งตลาดอย่างต่อเนื่อง ก็อาจเสียเปรียบแบรนด์อื่นๆ ที่กำลังทยอยออกรุ่นเรือธงมารบกันเต็มๆ



ปิดท้ายด้วยไอโฟน ที่ตามข่าวลือว่าจะเปิดตัว ไอโฟน 5 เอส ช่วงกลางปีนี้เช่นกัน ตามนโยบายของแอปเปิลที่จะเปิดตัวสมาร์ตโฟนเฉลี่ยปีละ 1 รุ่นเท่านั้น และตอนนี้ไอโฟนกำลังเดินมาถึงทางตันแล้ว เพราะไม่สามารถหนีออกจากรูปแบบเดิมๆ ได้ จากโค้งมน มาเป็นเหลี่ยมจัดและยาวขึ้น จึงคาดกันไปว่า 5 เอส น่าจะเป็นการใส่สีสันให้กับตัวไอโฟน จากเดิมที่มีเพียงสีดำและสีขาว ที่ผ่านมาถือว่าทำให้ผู้ใช้ที่เป็นสาวกผิดหวังเล็กๆ ต้องมารอดูว่า 5 เอส จะเรียกศรัทธากลับคืนได้มากน้อยแค่ไหน ท่ามกลางความร้อนแรงของแอนดรอยด์และวินโดวส์โฟน 8

ช่วงเดือน เม.ย.–พ.ค.นี้ ถือเป็นโค้งสำคัญที่ทุกแบรนด์จะทยอยวางตลาดชนกันแทบทุกแบรนด์ ผู้ใช้เตรียมเงินในกระเป๋าให้พร้อม เพราะทุกรุ่นราคาเกิน 2 หมื่นบาทแน่นอน แต่ก็เป็นโอกาสที่ทุกแบรนด์จะมาแข่งขันเพื่อดึงดูดลูกค้าพร้อมๆ กับให้ผู้ใช้ได้เลือกแบรนด์และรุ่นที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด และนี่อาจจะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยผลักดันให้ตลาดสมาร์ตโฟนไทยปีนี้ ทะลุ 7.8 ล้านเครื่อง

http://www.posttoday.com/%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B
8%A5%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C/215886/%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%
B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD
%E0%B9%81%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B
8%94%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A4%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B9%89%
E0%B8%AD%E0%B8%99

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.