16 เมษายน 2556 ( เร่งแก้ปัญหาร้องเรียน ) ประชุม กทค.มีมติเห็นชอบ ให้มีการปรับปรุงใน 8 ประเด็นหลักๆ ( ก่อน 3G เต็มรูปแบบมา )
ประเด็นหลัก
ดยร่างระเบียบฯที่ยกร่างขึ้นมาใหม่นี้เป็นไปตามกรอบของที่ประชุม กทค.มีมติเห็นชอบ ให้มีการปรับปรุงใน 8 ประเด็นหลักๆ อาทิ ปรับปรุงขั้นตอนการยื่นเรื่องร้องเรียน และลดความยุ่งยากในเรื่องเอกสารประกอบการยื่นเรื่องร้องเรียน ปรับปรุงขั้นตอนการรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนของสำนักงาน กสทช. ปรับปรุงขั้นตอนการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนโดยกำหนดหน้าที่ของผู้รับใบอนุญาตฯให้มีความชัดเจนในการชี้แจงข้อเท็จจริงรวมทั้งส่งพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาเรื่องร้องเรียนภายในระยะเวลาที่กำหนด
รวมทั้งปรับปรุงกระบวนการแก้ปัญหาเรื่องร้องเรียนให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างกลไกรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนกับกลไกไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ตามระเบียบ กสทช.ว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมและผู้ร้องเรียน พ.ศ. 2555 ปรับปรุงขั้นตอนการไต่สวนข้อเท็จจริงของสำนักงาน กสทช.ให้เกิดความชัดเจน ในการแสวงหาข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการพิจารณา ตรวจสอบและแก้ไขปัญหา รวมทั้งเสนอความเห็นต่อที่ประชุม กทค. เพื่อพิจารณา
อีกทั้งยังมีการ แบ่งประเภทเรื่องร้องเรียนเป็นประเภทๆ โดยให้มีการบริหารจัดการที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพ ทำให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับประเภทของเรื่องร้องเรียนที่สำนักงาน กสทช.สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ตามอำนาจหน้าที่ภายใต้มาตรา 57 (4) แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 และกำหนดประเภทของเรื่องร้องเรียนที่เห็นควรให้เสนอคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคมเพื่อกลั่นกรองก่อนเสนอ กทค. พิจารณา และมีการปรับปรุงการแจ้งมติที่ประชุม กทค. ให้ผู้ร้องเรียนทราบ โดยต้องระบุเหตุผลตามรูปแบบที่กำหนดให้เกิดความชัดเจน
สำหรับความจำเป็นในการแก้ไขปรับปรุงประกาศ กทช. เรื่องกระบวนการรับเรื่องร้องเรียนฯ นั้น สืบเนื่องมาจากประกาศดังกล่าวมีการบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2549 ก่อนที่ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 จะมีผลใช้บังคับ ทำให้เกิดปัญหาความไม่ชัดเจนในขั้นตอนการปฎิบัติของสำนักงาน กสทช. โดยไม่ได้วางกรอบแนวทางหรือขั้นตอนการปฎิบัติที่ชัดเจนแก่ผู้ปฎิบัติ รวมทั้งไม่ได้กำหนดระยะเวลาในแต่ละขั้นตอนอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งยังไม่ได้กำหนดขอบเขตการปฎิบัติหน้าที่ของสำนักงาน กสทช. และคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคมให้ชัดเจน ทำให้เกิดปัญหาการปฎิบัติหน้าที่ซ้ำซ้อนกัน
_____________________________________
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ
พลิกโฉมกลไกรับเรื่องร้องเรียน รับมือข้อพิพาทบริการ3Gส่อพุ่ง
“เมื่อมีการให้บริการ 3G เต็มรูปแบบ
ดังนั้นหากไม่มีกลไกรองรับที่มีประสิทธิภาพดีพอ
ก็จะส่งผลกระทบต่อการคุ้มครองผู้บริโภค”
ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3
ราย ประกอบด้วย บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ตเวิร์ค จำกัด, บริษัท
ดีแทค เนทเวิร์ค จำกัด และบริษัท เรียล
ฟิวเจอร์ จำกัด ประกาศให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม2556
เป็นต้นไป
ขณะที่หลายฝ่ายเชื่อว่าข้อพิพาทระหว่างผู้ให้บริการกับผู้บริโภคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ทาง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
(กสทช.) จะรับมือปัญหานี้อย่างไร
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ กสทช. ด้านกฎหมาย
ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบูรณาการและปรับปรุงกฎหมายและระเบียบด้านโทรคมนาคม
มีคำตอบในประเด็นนี้ โดยยืนยันว่า
กสทช.มีการเตรียมการรับมือเรื่องนี้ไว้แล้วด้วยการ ร่างระเบียบ กสทช. ว่า
ด้วยกระบวนการรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนของผู้ใช้บริการโทรคมนาคม พ.ศ.... เพื่อจะได้รองรับข้อพิพาทที่จะเกิดขึ้น
เมื่อมีการให้บริการ 3G เต็มรูปแบบ ซึ่งเชื่อว่าจะมีปริมาณมาก
ดังนั้นหากไม่มีกลไกรองรับที่มีประสิทธิภาพดีพอ
ก็จะส่งผลกระทบต่อการคุ้มครองผู้บริโภค
โดยก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการฯได้พิจารณาร่างระเบียบ
กสทช. ว่า ด้วยกระบวนการรับ และพิจารณาเรื่องร้องเรียนของผู้ใช้บริการโทรคมนาคม
พ.ศ....
ตามที่กลุ่มงานรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม
และกลุ่มงานกฎหมายโทรคมนาคม
ทำการยกร่างเพื่อแก้ไขปรับปรุง ประกาศ กทช.
เรื่องกระบวนการรับเรื่องร้องเรียน และพิจารณาเรื่องร้องเรียนของผู้ใช้บริการ
ขณะที่
คณะอนุกรรมการบูรณาการฯได้เห็นชอบร่างดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พร้อมเสนอต่อประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.)ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม
กทค.
โดยร่างระเบียบฯที่ยกร่างขึ้นมาใหม่นี้เป็นไปตามกรอบของที่ประชุม
กทค.มีมติเห็นชอบ ให้มีการปรับปรุงใน 8 ประเด็นหลักๆ อาทิ ปรับปรุงขั้นตอนการยื่นเรื่องร้องเรียน
และลดความยุ่งยากในเรื่องเอกสารประกอบการยื่นเรื่องร้องเรียน ปรับปรุงขั้นตอนการรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนของสำนักงาน
กสทช.
ปรับปรุงขั้นตอนการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนโดยกำหนดหน้าที่ของผู้รับใบอนุญาตฯให้มีความชัดเจนในการชี้แจงข้อเท็จจริงรวมทั้งส่งพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาเรื่องร้องเรียนภายในระยะเวลาที่กำหนด
รวมทั้งปรับปรุงกระบวนการแก้ปัญหาเรื่องร้องเรียนให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างกลไกรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนกับกลไกไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
ตามระเบียบ
กสทช.ว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมและผู้ร้องเรียน
พ.ศ. 2555 ปรับปรุงขั้นตอนการไต่สวนข้อเท็จจริงของสำนักงาน
กสทช.ให้เกิดความชัดเจน ในการแสวงหาข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการพิจารณา
ตรวจสอบและแก้ไขปัญหา รวมทั้งเสนอความเห็นต่อที่ประชุม กทค. เพื่อพิจารณา
อีกทั้งยังมีการ
แบ่งประเภทเรื่องร้องเรียนเป็นประเภทๆ
โดยให้มีการบริหารจัดการที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพ
ทำให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับประเภทของเรื่องร้องเรียนที่สำนักงาน
กสทช.สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ตามอำนาจหน้าที่ภายใต้มาตรา 57 (4) แห่ง
พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553
และกำหนดประเภทของเรื่องร้องเรียนที่เห็นควรให้เสนอคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคมเพื่อกลั่นกรองก่อนเสนอ
กทค. พิจารณา
และมีการปรับปรุงการแจ้งมติที่ประชุม กทค. ให้ผู้ร้องเรียนทราบ
โดยต้องระบุเหตุผลตามรูปแบบที่กำหนดให้เกิดความชัดเจน
สำหรับความจำเป็นในการแก้ไขปรับปรุงประกาศ กทช.
เรื่องกระบวนการรับเรื่องร้องเรียนฯ นั้น
สืบเนื่องมาจากประกาศดังกล่าวมีการบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2549 ก่อนที่ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553
จะมีผลใช้บังคับ ทำให้เกิดปัญหาความไม่ชัดเจนในขั้นตอนการปฎิบัติของสำนักงาน กสทช.
โดยไม่ได้วางกรอบแนวทางหรือขั้นตอนการปฎิบัติที่ชัดเจนแก่ผู้ปฎิบัติ
รวมทั้งไม่ได้กำหนดระยะเวลาในแต่ละขั้นตอนอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งยังไม่ได้กำหนดขอบเขตการปฎิบัติหน้าที่ของสำนักงาน กสทช.
และคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคมให้ชัดเจน
ทำให้เกิดปัญหาการปฎิบัติหน้าที่ซ้ำซ้อนกัน
นอกจากนี้ยังเกิดปัญหาในการยื่นเอกสารข้อร้องเรียนว่า
ระบุไว้ไม่ชัดเจนและมีรายการที่มากเกินไป ทำให้เกิดความไม่สะดวกแก่ผู้ร้องเรียน
ฯลฯ
ที่สำคัญสามารถทำให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับบทบาทอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน
กสทช. และคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ตลอดจน
กสทช.และกทค.ให้มีแนวทางการปฎิบัติและกรอบการพิจารณาการใช้อำนาจตามกฎหมายอย่างถูกต้อง อันจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ร้องเรียนหรือผู้บริโภคที่จะได้รับการแก้ไขเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายจากการไม่ได้รับความเป็นธรรมต่อการใช้บริการโทรคมนาคม
“ กสทช.จำเป็นต้องเร่งให้มีการบังคับใช้ระเบียบดังกล่าวโดยเร็วเพื่อจะได้รองรับข้อพิพาทที่จะเกิดขึ้น
เมื่อมีการให้บริการ 3G เต็มรูปแบบ เชื่อว่าจะมีปริมาณมาก
ดังนั้นหากไม่มีกลไกรองรับที่มีประสิทธิภาพดีพอ
ก็จะส่งผลกระทบต่อการคุ้มครองผู้บริโภค
การออกระเบียบในครั้งนี้ถือเป็นแนวคิดใหม่ที่จะพลิกโฉมหน้าการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนมือถือให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภคอย่างแท้จริง”
ดร.สุทธิพล ย้ำในตอนท้าย
http://www.naewna.com/business/48429
ไม่มีความคิดเห็น: