Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

18 เมษายน 2556 AIS ชี้ LINE ผลกระทบกับรายได้DATAเพิ่ม ++ เชื่อปีนี้เกิดสงครามแย่งชิงลูกค้าให้ใช้บริการเป็นซิมที่ 2

ประเด็นหลัก



** "ไลน์" ทำให้เกิดผลกระทบ
    แอพพลิเคชัน "ไลน์" นั้นให้ลูกค้าสามารถโทรฟรีได้ แต่ เอไอเอส กลับมองเป็นบวกแม้จำนวนผู้ใช้ SMS น้อยลงแต่ปริมาณการใช้ดาต้าเพิ่มมากขึ้น บางประเทศการใช้ "ไลน์" มีปริมาณที่มากขึ้น แต่ในบ้านเราการใช้ ดาต้า (ข้อมูล) มีเพียง 30% ต้องยอมรับว่าบริการประเภทนี้ คือ Killer Application หากแต่ยังมีกรณีศึกษาบริการ Whatsapp ช่วงนั้นได้รับความนิยมมากแต่อยู่ ๆ Whatsapp กับด้อยค่าลง โดย "ไลน์" เข้ามาแทนที่ดังนั้นแนวโน้มของ "ไลน์" จะเป็นอย่างไรนั้นต้องใช้ระยะเวลาอีกหลายปี
** 3 จี มีผลให้บริการดาต้าเติบโต
    เทคโนโลยีระบบ 3 จีในประเทศไทยมาช้า แต่อุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟน และ แท็บเลต ได้เข้ามากระตุ้นตลาดไปล่วงหน้าแล้วแม้ในช่วงที่ผ่านมามีข้อจำกัด แต่ในช่วงที่เยาวชนกำลังเติบโตจะได้ประโยชน์เพราะได้ใช้ระบบ  3 จี ที่สำคัญอุปกรณ์ที่รองรับระบบ 3 จี คือ แท็บเลต และ โทรศัพท์เคลื่อนที่มีราคาที่ถูกลงเช่นเดียวกัน
** จำนวนผู้ใช้บริการ
    สำหรับบริการ อี-แม็กกาซีน ที่ เอไอเอส ได้เปิดตัวไปแล้วนั้นมีจำนวนสมาชิก 3-4 แสนราย , AIS Movie Store ประมาณ 1 แสนราย เป็นต้น  เหตุผลที่จำนวนผู้ใช้มีอัตราไม่สูงนักก็เนื่องจากว่าเรื่องของสัญญาณเครือข่ายแล้ว ยังมีบริการประเภท นอนพรีเมียม (non premium)  คือ ให้โหลดดูหนังฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าบริการ 3 จี เปิดตัวอย่างเป็นทางการบรรดาเจ้าของลิขสิทธิ์ก็จะไล่ให้ผู้ให้บริการที่อยู่ใต้ดินต้องเสียค่าลิขสิทธิ์เช่นเดียวกัน และ ถ้าไม่เสียค่าใช้จ่ายนอนพรีเมียมก็ต้องปิดตัวลงเช่นเดียวกัน
*** การแข่งขันในปีนี้
    สำหรับบรรยากาศแข่งขันเชื่อว่าบรรดาผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่หากลยุทธ์ให้ลูกค้าเหล่านี้เข้ามาใช้บริการแม้ลูกค้าจะมีเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เป็นเบอร์ประจำตัวแล้วเชื่อว่าต้องมีกลยุทธ์เชิญชวนให้ลูกค้าค่ายอื่นเข้ามาใช้บริการเป็นหมายเลขที่สองอย่างกรณีของ ดาต้าซิม เพื่อใช้ใน ไอแพด หรือ ไอโฟน เชื่อว่าจะเกิดสงครามแย่งชิงลูกค้าให้ใช้บริการเป็นซิมที่ 2 และ อัตราค่าบริการที่น่าสนใจ เชื่อว่าน่าจะมีการแข่งขันในส่วนนั้นมากกว่า แต่ขึ้นอยู่กับว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีคุณภาพเครือข่ายที่ดีกว่ากัน





_____________________________________




'เอไอเอส'โต 30% หลัง 3 จีเปิดตัว

 ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเดือนพฤษภาคม 2556  บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เตรียมเปิดตัวระบบ 3 จี ย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ที่ได้รับใบอนุญาตจาก

ปรัธนา ลีลพนัง กสทช.(คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) อย่างเป็นทางการ เบื้องต้นเสียบปลั๊กเปิดให้บริการ 20 จังหวัด ภายในสิ้นปีจะเปิดให้ครบ 77 จังหวัด
    นั้นคือแผนแรกที่ "เอไอเอส" วางเอาไว้!!!
    ส่วนช็อตต่อมาที่ "เอไอเอส" ต้องสานต่อนั้นก็คือเรื่องของบริการประเภทนันวอยซ์ (บริการทางด้านข้อมูล)  ซึ่ง "ฐานเศรษฐกิจ" ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ  นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานผลิตภัณฑ์และบริการดิจิตอล ของ เอไอเอส เตรียมตัวในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ติดตามอ่านบรรทัดถัดจากนี้!
*** ความพร้อมของคอนเทนต์
    เอไอเอส ได้เตรียมตัวในเรื่องนี้มาระยะหนึ่ง เพราะเมื่อปลายปี 2555 ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดให้บริการ "AIS Movie Store" ให้ลูกค้าสามารถดูหนังผ่านสมาร์ทโฟน แท็บเลต และบริการ ดิจิตอล แม็กกาซีน เพื่อเตรียมตัวเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จี บนย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ อย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้นเมื่อระบบ 3 จี ของ เอไอเอส เปิดตัวอย่างเป็นทางการ บริการเหล่านี้สามารถให้บริการได้ภายในทันที
    นอกจากนี้แล้ว เอไอเอส ได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการเปิดให้บริการ  AIS mPAY Rabbit นำบัตรแร็บบิท มาไว้ในซิม AIS 3G ซึ่งถือว่าเป็นบริการใหม่สามารถใช้มือถือของ เอไอเอส ไปใช้บริการขึ้นรถไฟฟ้า บีทีเอส ได้ด้วยเทคโนโลยี NFC (Near Field Communication) คือ เทคโนโลยีสื่อสารไร้สายระยะสั้น นั่นคือบริการที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
*** ยังมีบริการอะไรอีก
    ตอนนี้จะเห็นว่าเรื่องอี-คอมเมิรซ์(การบริการซื้อ-ขาย สินค้าผ่านอิเล็กทรอนิกส์) มีอัตราการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นจะเห็นว่าทั่วโลกนั้นเรื่องของ อี-คอมเมิรซ์ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ดังนั้น โทรศัพท์เคลื่อนที่ จะเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องของการทำอี-คอมเมิรซ์ และในตอนนี้ปริมาณการทำอี-คอมเมิรซ์ ในบ้านเรากำลังได้รับความนิยม
    ดังนั้น เอไอเอส เตรียมเปิดให้บริการ AIS mPAy Mastercard  ภายในกลางปีนี้ คอนเซ็ปต์คร่าว ๆ ของ เอไอเอส คือ ลูกค้าสามารถเติมเงินเท่าจำนวนที่ใช้จริง เพื่อสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ คอนเซ็ปต์ก็คือ "เติมเงินเท่าไหร่จ่ายเท่านั้น" แม้บริการเหล่านี้จะเป็นของใหม่แต่เชื่อว่าในอนาคตจะได้รับความนิยมเพราะต่อไปธุรกรรมทุกประเภทจะผ่านทางโทรศัพท์มือถือทั้งสิ้น
*** เป้าหมายในปีนี้
    ในส่วนของกลุ่มธุรกิจดิจิตอล แบ่งเป็น บริการประเภทข้อมูล คือ การส่งข้อความสั้น หรือ เอสเอ็มเอส , เอ็มเอ็มเอส และ การให้บริการอินเตอร์เน็ตบนคลื่นความถี่ 2 จี และ 3 จี รวมทั้งคอนเทนต์เพลงดาวน์โหลด ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 25-30%
    ขณะที่บริการทางด้าน mPay  คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 3-40% ถ้าสังเกตจะเห็นว่าลูกค้าเริ่มซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นวันนี้มีการช็อปปิ้งออนไลน์ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศนั้นปีนี้จะมีการแข่งขันเรื่องของดาต้า อินเตอร์เน็ต
** "ไลน์" ทำให้เกิดผลกระทบ
    แอพพลิเคชัน "ไลน์" นั้นให้ลูกค้าสามารถโทรฟรีได้ แต่ เอไอเอส กลับมองเป็นบวกแม้จำนวนผู้ใช้ SMS น้อยลงแต่ปริมาณการใช้ดาต้าเพิ่มมากขึ้น บางประเทศการใช้ "ไลน์" มีปริมาณที่มากขึ้น แต่ในบ้านเราการใช้ ดาต้า (ข้อมูล) มีเพียง 30% ต้องยอมรับว่าบริการประเภทนี้ คือ Killer Application หากแต่ยังมีกรณีศึกษาบริการ Whatsapp ช่วงนั้นได้รับความนิยมมากแต่อยู่ ๆ Whatsapp กับด้อยค่าลง โดย "ไลน์" เข้ามาแทนที่ดังนั้นแนวโน้มของ "ไลน์" จะเป็นอย่างไรนั้นต้องใช้ระยะเวลาอีกหลายปี
** 3 จี มีผลให้บริการดาต้าเติบโต
    เทคโนโลยีระบบ 3 จีในประเทศไทยมาช้า แต่อุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟน และ แท็บเลต ได้เข้ามากระตุ้นตลาดไปล่วงหน้าแล้วแม้ในช่วงที่ผ่านมามีข้อจำกัด แต่ในช่วงที่เยาวชนกำลังเติบโตจะได้ประโยชน์เพราะได้ใช้ระบบ  3 จี ที่สำคัญอุปกรณ์ที่รองรับระบบ 3 จี คือ แท็บเลต และ โทรศัพท์เคลื่อนที่มีราคาที่ถูกลงเช่นเดียวกัน
** จำนวนผู้ใช้บริการ
    สำหรับบริการ อี-แม็กกาซีน ที่ เอไอเอส ได้เปิดตัวไปแล้วนั้นมีจำนวนสมาชิก 3-4 แสนราย , AIS Movie Store ประมาณ 1 แสนราย เป็นต้น  เหตุผลที่จำนวนผู้ใช้มีอัตราไม่สูงนักก็เนื่องจากว่าเรื่องของสัญญาณเครือข่ายแล้ว ยังมีบริการประเภท นอนพรีเมียม (non premium)  คือ ให้โหลดดูหนังฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าบริการ 3 จี เปิดตัวอย่างเป็นทางการบรรดาเจ้าของลิขสิทธิ์ก็จะไล่ให้ผู้ให้บริการที่อยู่ใต้ดินต้องเสียค่าลิขสิทธิ์เช่นเดียวกัน และ ถ้าไม่เสียค่าใช้จ่ายนอนพรีเมียมก็ต้องปิดตัวลงเช่นเดียวกัน
*** การแข่งขันในปีนี้
    สำหรับบรรยากาศแข่งขันเชื่อว่าบรรดาผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่หากลยุทธ์ให้ลูกค้าเหล่านี้เข้ามาใช้บริการแม้ลูกค้าจะมีเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เป็นเบอร์ประจำตัวแล้วเชื่อว่าต้องมีกลยุทธ์เชิญชวนให้ลูกค้าค่ายอื่นเข้ามาใช้บริการเป็นหมายเลขที่สองอย่างกรณีของ ดาต้าซิม เพื่อใช้ใน ไอแพด หรือ ไอโฟน เชื่อว่าจะเกิดสงครามแย่งชิงลูกค้าให้ใช้บริการเป็นซิมที่ 2 และ อัตราค่าบริการที่น่าสนใจ เชื่อว่าน่าจะมีการแข่งขันในส่วนนั้นมากกว่า แต่ขึ้นอยู่กับว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีคุณภาพเครือข่ายที่ดีกว่ากัน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=178973:-30--3-&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.