18 เมษายน 2556 AIS ชี้ LINE ผลกระทบกับรายได้DATAเพิ่ม ++ เชื่อปีนี้เกิดสงครามแย่งชิงลูกค้าให้ใช้บริการเป็นซิมที่ 2
ประเด็นหลัก
** "ไลน์" ทำให้เกิดผลกระทบ
แอพพลิเคชัน "ไลน์" นั้นให้ลูกค้าสามารถโทรฟรีได้ แต่ เอไอเอส กลับมองเป็นบวกแม้จำนวนผู้ใช้ SMS น้อยลงแต่ปริมาณการใช้ดาต้าเพิ่มมากขึ้น บางประเทศการใช้ "ไลน์" มีปริมาณที่มากขึ้น แต่ในบ้านเราการใช้ ดาต้า (ข้อมูล) มีเพียง 30% ต้องยอมรับว่าบริการประเภทนี้ คือ Killer Application หากแต่ยังมีกรณีศึกษาบริการ Whatsapp ช่วงนั้นได้รับความนิยมมากแต่อยู่ ๆ Whatsapp กับด้อยค่าลง โดย "ไลน์" เข้ามาแทนที่ดังนั้นแนวโน้มของ "ไลน์" จะเป็นอย่างไรนั้นต้องใช้ระยะเวลาอีกหลายปี
** 3 จี มีผลให้บริการดาต้าเติบโต
เทคโนโลยีระบบ 3 จีในประเทศไทยมาช้า แต่อุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟน และ แท็บเลต ได้เข้ามากระตุ้นตลาดไปล่วงหน้าแล้วแม้ในช่วงที่ผ่านมามีข้อจำกัด แต่ในช่วงที่เยาวชนกำลังเติบโตจะได้ประโยชน์เพราะได้ใช้ระบบ 3 จี ที่สำคัญอุปกรณ์ที่รองรับระบบ 3 จี คือ แท็บเลต และ โทรศัพท์เคลื่อนที่มีราคาที่ถูกลงเช่นเดียวกัน
** จำนวนผู้ใช้บริการ
สำหรับบริการ อี-แม็กกาซีน ที่ เอไอเอส ได้เปิดตัวไปแล้วนั้นมีจำนวนสมาชิก 3-4 แสนราย , AIS Movie Store ประมาณ 1 แสนราย เป็นต้น เหตุผลที่จำนวนผู้ใช้มีอัตราไม่สูงนักก็เนื่องจากว่าเรื่องของสัญญาณเครือข่ายแล้ว ยังมีบริการประเภท นอนพรีเมียม (non premium) คือ ให้โหลดดูหนังฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าบริการ 3 จี เปิดตัวอย่างเป็นทางการบรรดาเจ้าของลิขสิทธิ์ก็จะไล่ให้ผู้ให้บริการที่อยู่ใต้ดินต้องเสียค่าลิขสิทธิ์เช่นเดียวกัน และ ถ้าไม่เสียค่าใช้จ่ายนอนพรีเมียมก็ต้องปิดตัวลงเช่นเดียวกัน
*** การแข่งขันในปีนี้
สำหรับบรรยากาศแข่งขันเชื่อว่าบรรดาผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่หากลยุทธ์ให้ลูกค้าเหล่านี้เข้ามาใช้บริการแม้ลูกค้าจะมีเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เป็นเบอร์ประจำตัวแล้วเชื่อว่าต้องมีกลยุทธ์เชิญชวนให้ลูกค้าค่ายอื่นเข้ามาใช้บริการเป็นหมายเลขที่สองอย่างกรณีของ ดาต้าซิม เพื่อใช้ใน ไอแพด หรือ ไอโฟน เชื่อว่าจะเกิดสงครามแย่งชิงลูกค้าให้ใช้บริการเป็นซิมที่ 2 และ อัตราค่าบริการที่น่าสนใจ เชื่อว่าน่าจะมีการแข่งขันในส่วนนั้นมากกว่า แต่ขึ้นอยู่กับว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีคุณภาพเครือข่ายที่ดีกว่ากัน
_____________________________________
'เอไอเอส'โต 30%
หลัง 3 จีเปิดตัว
ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเดือนพฤษภาคม 2556 บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด
(มหาชน) หรือ เอไอเอส เตรียมเปิดตัวระบบ 3 จี ย่านความถี่ 2.1
กิกะเฮิรตซ์ที่ได้รับใบอนุญาตจาก
ปรัธนา ลีลพนัง
กสทช.(คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ)
อย่างเป็นทางการ เบื้องต้นเสียบปลั๊กเปิดให้บริการ 20
จังหวัด ภายในสิ้นปีจะเปิดให้ครบ 77 จังหวัด
นั้นคือแผนแรกที่ "เอไอเอส" วางเอาไว้!!!
ส่วนช็อตต่อมาที่ "เอไอเอส"
ต้องสานต่อนั้นก็คือเรื่องของบริการประเภทนันวอยซ์ (บริการทางด้านข้อมูล) ซึ่ง "ฐานเศรษฐกิจ"
ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ นายปรัธนา
ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานผลิตภัณฑ์และบริการดิจิตอล ของ
เอไอเอส เตรียมตัวในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ติดตามอ่านบรรทัดถัดจากนี้!
*** ความพร้อมของคอนเทนต์
เอไอเอส
ได้เตรียมตัวในเรื่องนี้มาระยะหนึ่ง เพราะเมื่อปลายปี 2555
ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดให้บริการ "AIS Movie Store" ให้ลูกค้าสามารถดูหนังผ่านสมาร์ทโฟน
แท็บเลต และบริการ ดิจิตอล แม็กกาซีน
เพื่อเตรียมตัวเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จี
บนย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ อย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้นเมื่อระบบ
3 จี ของ เอไอเอส เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
บริการเหล่านี้สามารถให้บริการได้ภายในทันที
นอกจากนี้แล้ว เอไอเอส ได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการเปิดให้บริการ AIS mPAY Rabbit นำบัตรแร็บบิท
มาไว้ในซิม AIS 3G ซึ่งถือว่าเป็นบริการใหม่สามารถใช้มือถือของ
เอไอเอส ไปใช้บริการขึ้นรถไฟฟ้า บีทีเอส ได้ด้วยเทคโนโลยี NFC (Near Field
Communication) คือ เทคโนโลยีสื่อสารไร้สายระยะสั้น
นั่นคือบริการที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
*** ยังมีบริการอะไรอีก
ตอนนี้จะเห็นว่าเรื่องอี-คอมเมิรซ์(การบริการซื้อ-ขาย
สินค้าผ่านอิเล็กทรอนิกส์)
มีอัตราการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นจะเห็นว่าทั่วโลกนั้นเรื่องของ อี-คอมเมิรซ์
ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ดังนั้น โทรศัพท์เคลื่อนที่
จะเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องของการทำอี-คอมเมิรซ์ และในตอนนี้ปริมาณการทำอี-คอมเมิรซ์
ในบ้านเรากำลังได้รับความนิยม
ดังนั้น เอไอเอส เตรียมเปิดให้บริการ AIS mPAy Mastercard ภายในกลางปีนี้ คอนเซ็ปต์คร่าว ๆ ของ
เอไอเอส คือ ลูกค้าสามารถเติมเงินเท่าจำนวนที่ใช้จริง
เพื่อสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ คอนเซ็ปต์ก็คือ
"เติมเงินเท่าไหร่จ่ายเท่านั้น"
แม้บริการเหล่านี้จะเป็นของใหม่แต่เชื่อว่าในอนาคตจะได้รับความนิยมเพราะต่อไปธุรกรรมทุกประเภทจะผ่านทางโทรศัพท์มือถือทั้งสิ้น
*** เป้าหมายในปีนี้
ในส่วนของกลุ่มธุรกิจดิจิตอล แบ่งเป็น บริการประเภทข้อมูล คือ
การส่งข้อความสั้น หรือ เอสเอ็มเอส , เอ็มเอ็มเอส และ
การให้บริการอินเตอร์เน็ตบนคลื่นความถี่ 2 จี และ 3 จี
รวมทั้งคอนเทนต์เพลงดาวน์โหลด ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 25-30%
ขณะที่บริการทางด้าน mPay คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ
3-40%
ถ้าสังเกตจะเห็นว่าลูกค้าเริ่มซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นวันนี้มีการช็อปปิ้งออนไลน์ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มมากขึ้น
ส่วนบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศนั้นปีนี้จะมีการแข่งขันเรื่องของดาต้า
อินเตอร์เน็ต
** "ไลน์" ทำให้เกิดผลกระทบ
แอพพลิเคชัน "ไลน์" นั้นให้ลูกค้าสามารถโทรฟรีได้ แต่ เอไอเอส
กลับมองเป็นบวกแม้จำนวนผู้ใช้ SMS น้อยลงแต่ปริมาณการใช้ดาต้าเพิ่มมากขึ้น
บางประเทศการใช้ "ไลน์" มีปริมาณที่มากขึ้น แต่ในบ้านเราการใช้ ดาต้า
(ข้อมูล) มีเพียง 30% ต้องยอมรับว่าบริการประเภทนี้ คือ Killer
Application หากแต่ยังมีกรณีศึกษาบริการ Whatsapp ช่วงนั้นได้รับความนิยมมากแต่อยู่
ๆ Whatsapp กับด้อยค่าลง โดย "ไลน์"
เข้ามาแทนที่ดังนั้นแนวโน้มของ "ไลน์"
จะเป็นอย่างไรนั้นต้องใช้ระยะเวลาอีกหลายปี
** 3 จี มีผลให้บริการดาต้าเติบโต
เทคโนโลยีระบบ 3 จีในประเทศไทยมาช้า แต่อุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟน
และ แท็บเลต ได้เข้ามากระตุ้นตลาดไปล่วงหน้าแล้วแม้ในช่วงที่ผ่านมามีข้อจำกัด
แต่ในช่วงที่เยาวชนกำลังเติบโตจะได้ประโยชน์เพราะได้ใช้ระบบ 3 จี ที่สำคัญอุปกรณ์ที่รองรับระบบ 3 จี
คือ แท็บเลต และ โทรศัพท์เคลื่อนที่มีราคาที่ถูกลงเช่นเดียวกัน
** จำนวนผู้ใช้บริการ
สำหรับบริการ อี-แม็กกาซีน ที่ เอไอเอส ได้เปิดตัวไปแล้วนั้นมีจำนวนสมาชิก 3-4
แสนราย , AIS Movie Store ประมาณ 1
แสนราย เป็นต้น
เหตุผลที่จำนวนผู้ใช้มีอัตราไม่สูงนักก็เนื่องจากว่าเรื่องของสัญญาณเครือข่ายแล้ว
ยังมีบริการประเภท นอนพรีเมียม (non premium) คือ ให้โหลดดูหนังฟรี
โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าบริการ 3 จี
เปิดตัวอย่างเป็นทางการบรรดาเจ้าของลิขสิทธิ์ก็จะไล่ให้ผู้ให้บริการที่อยู่ใต้ดินต้องเสียค่าลิขสิทธิ์เช่นเดียวกัน
และ ถ้าไม่เสียค่าใช้จ่ายนอนพรีเมียมก็ต้องปิดตัวลงเช่นเดียวกัน
*** การแข่งขันในปีนี้
สำหรับบรรยากาศแข่งขันเชื่อว่าบรรดาผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่หากลยุทธ์ให้ลูกค้าเหล่านี้เข้ามาใช้บริการแม้ลูกค้าจะมีเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เป็นเบอร์ประจำตัวแล้วเชื่อว่าต้องมีกลยุทธ์เชิญชวนให้ลูกค้าค่ายอื่นเข้ามาใช้บริการเป็นหมายเลขที่สองอย่างกรณีของ
ดาต้าซิม เพื่อใช้ใน ไอแพด หรือ ไอโฟน
เชื่อว่าจะเกิดสงครามแย่งชิงลูกค้าให้ใช้บริการเป็นซิมที่ 2
และ อัตราค่าบริการที่น่าสนใจ เชื่อว่าน่าจะมีการแข่งขันในส่วนนั้นมากกว่า
แต่ขึ้นอยู่กับว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีคุณภาพเครือข่ายที่ดีกว่ากัน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=178973:-30--3-&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491
ไม่มีความคิดเห็น: