Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

22 เมษายน 2556 (แก้ CAT TRUEผ่านไป293วันแล้ว) กสทช.ชี้ CAT TRUE H (ให้หน้าที่ BFTK(บ.ลูกTRUEที่ติดเสา) ให้โอนหน้าที่ให้ CAT ให้ทั้งหมด

ประเด็นหลัก


นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช.ได้ส่งหนังสือไปยัง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) แก้ไขสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รูปแบบใหม่ ภายใต้เทคโนโลยี HSPA บนความถี่ย่าน 850 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ที่ทำไว้ระหว่างบริษัท กสท กับบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยก่อนหน้านี้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เคยมีมติ เมื่อวันที่ 5 เมษายน2556มีคำสั่งให้แก้ไขสัญญาให้ถูกต้องใน 6 ประเด็นหลัก เพื่อไม่ให้ขัดมาตรา 46 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่กำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมพ.ศ.2553 ซึ่ง กสท จะต้องดำเนินการทันทีตามที่มติได้กำหนดไว้ โดยประเด็นสำคัญจะต้องโอนสิทธิของ บริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) จำกัด (บริษัทในกลุ่มทรู)มาอยู่ในการบริหารงานของ กสท ทั้งหมด

"หลังจากที่เราได้ออกมติอย่างเป็นทางการไปแล้ว ทาง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ได้ขอผลสรุปการพิจารณาผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินกิจการทั้งหมด” นายฐากร กล่าว



____________________________________


กสทช.ย้ำสัญญาBFKT ไม่ผิด ปปช.ข้องใจขอข้อมูลผลสอบ

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช.ได้ส่งหนังสือไปยัง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) แก้ไขสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รูปแบบใหม่ ภายใต้เทคโนโลยี HSPA บนความถี่ย่าน 850 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ที่ทำไว้ระหว่างบริษัท กสท กับบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยก่อนหน้านี้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เคยมีมติ เมื่อวันที่ 5 เมษายน2556มีคำสั่งให้แก้ไขสัญญาให้ถูกต้องใน 6 ประเด็นหลัก เพื่อไม่ให้ขัดมาตรา 46 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่กำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมพ.ศ.2553 ซึ่ง กสท จะต้องดำเนินการทันทีตามที่มติได้กำหนดไว้ โดยประเด็นสำคัญจะต้องโอนสิทธิของ บริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) จำกัด (บริษัทในกลุ่มทรู)มาอยู่ในการบริหารงานของ กสท ทั้งหมด

"หลังจากที่เราได้ออกมติอย่างเป็นทางการไปแล้ว ทาง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ได้ขอผลสรุปการพิจารณาผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินกิจการทั้งหมดนายฐากร กล่าว

นอกจากนี้ที่ประชุม กสทช.ยัง มีเห็นชอบร่างประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดเก็บรายได้เพื่อนำไปใช้ในการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง และบริการเพื่อสังคม ฉบับที่ 2 (ยูเอสโอ) โดยให้ไปดำเนินการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ เป็นระยะเวลา 30 วัน

ขณะที่ นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท กล่าวว่า กทค.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฏหมาย ที่เกี่ยวกับการดำเนินกิจการของบีเอฟเคที กรณีการทำสัญญาเกี่ยวกับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รูปแบบใหม่ โดยได้มีมติลงความเห็น 4 ต่อ1 ว่า เมื่อพิจารณาบทบัญญัติในมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม 2544  ที่ระบุว่า คำนิยาม การประกอบกิจการโทรคมนาคม หมายถึง การประกอบกิจการในลักษณะที่เป็นผู้ให้บริการด้านกิจการโทรคมนาคมแก่บุคคลอื่นทั่วไป ขณะที่ บีเอฟเคที เป็นเพียงกิจการโทรคมนาคม และเป็นผู้ดำเนินการตามสัญญาเช่าระหว่าง บีเอฟเคที และ กสท เท่านั้น จึงไม่ขัดต่อพรบ.ดังกล่าว

สำหรับการแก้ไขสัญญาการให้บริการโทรศัพท์มือถือรูปแบบใหม่ จะสามารถดำเนินการแก้ไขได้ก็ต่อเมื่อ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีอนุมัติงบประมาณจำนวน 29,000 ล้านบาท ที่ กสทได้ขอไปเพื่อนำมาลงทุนวางสายไฟเบอร์ออฟติกระยะยาวสำหรับใช้ในโครงข่ายบีเอฟเคที จำนวน 14,000 ล้านบาท และค่าเช่าโครงข่ายจาก บีเอฟเคทีต่อปีอีกจำนวน 15,000 ล้านบาท ซึ่งภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ คาดว่าแผนขออนุมัติงบประมาณจะผ่านความเห็นชอบจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) จากนั้นจะส่งไปยัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก็จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป



http://www.naewna.com/business/48963

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.