Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

23 เมษายน 2556 NOKIAไทย บุกนักศึกษาเริ่มที่ม.รังสิต!!! เร่งเด็กไทยทำ APP (ย้ำมีรายได้) หากมียอดโหลดสูงสุดพาดูศูนย์พัฒนาและวิจัยของโนเกีย ที่กรุงปักกิ่ง (พร้อมได้งานทำ)

ประเด็นหลัก

นายจิรพัฒน์ กล่าวต่อว่า ล่าสุดโนเกียจึงได้ร่วมกับ มหาวิทยาลัยรังสิต ในการจัดโครงการ มาย เฟิรส์ แอพ (My First App) เพื่อผลิตนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นรุ่นใหม่ รองรับความต้องการด้านการพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่มากขึ้น โดยเฉพาะการมาของโทรศัพท์มือถือระบบ 3 จี และการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟน  โดยจะคัดเลือกแอพพลิเคชั่นจาก 10 โครงการจากทีมนักศึกษาจำนวน 10 ทีม นำเผยแพร่บน วินโดวส์ โฟน สโตร์ เพื่อให้ผู้บริโภคดาวน์โหลดไปใช้งานจริง ซึ่งแอพพลิเคชั่นที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุด ผู้พัฒนาจะได้ไปทัศนศึกษาที่ศูนย์พัฒนาและวิจัยของโนเกีย ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน


ด้าน ผศ.ดร.ม.ล. กุลธร เกษมสันต์ คณบดี คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่าตลาดแอพพลิเคชั่นในประเทศไทยกำลังขยายตัว เพื่อตอบรับการเปิดบริการ 3 จี ส่งผลให้ความต้องการบุคลากรด้านนี้มีสูงขึ้นด้วย ทางมหาวิทยาลัยจึงให้ความสำคัญในการผลิตบุคลากรด้านนี้ ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ทางโนเกียจะเข้ามาจัดฝึกอบรมให้นักศึกษา ให้การสนับสนุนเครื่องมือ พร้อมทั้งตั้งโมบายแล็ป และสุดท้ายคือการจัดประกวดแอพพลิเคชั่นเพื่อหาผู้ชนะไปดูงานในต่างประเทศ โดยโครงการนี้จะช่วยพัฒนาให้นักศึกษาที่จบไปสามารถทำงานในตลาดได้ทันที





_____________________________________



โนเกียฟุ้งแอพบน วินโดวส์ โฟน สโตร์โตเกิน 1,000%

 

โนเกียเผยจำนวนแอพพลิเคชั่นบนวินโดวส์ โฟน สโตร์ โตมากกว่า 1,000% มีแล้วมากกว่า 1.35 แสนแอพลิเคชั่น ล่าสุดจับมือ ม.รังสิต ปั้นนักพัฒนารุ่นใหม่ป้อนตลาด รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมหลังการมาของ 3 จี




วันนี้(23 เม.ย.) ที่บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด  นายจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ หัวหน้าฝ่ายสนับสนุนนักพัฒนา บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด  เปิดเผยว่า ปัจจุบันในวินโดวส์ โฟน สโตร์ มีแอพพลิเคชั่นแล้วมากกว่า 135,000 แอพพลิเคชั่น เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ. ปี 2011  ที่มีจำนวนเพียง 7,000 แอพพลิเคชั่น ถือว่ามีอัตราการเติบโตมากว่า 1,000% และมีนักพัฒนามากกว่า 2 แสนรายที่ได้ลงทะเบียนไว้ และมีจำนวนยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นสูงถึง 4 ล้านดาวน์โหลดต่อวันในปัจจุบัน ส่งผลให้นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนวินโดวส์ โฟน สโตร์ มีโอกาสที่จะสร้างรายได้อย่างเต็มที่


ทั้งนี้โนเกียจะให้ความสำคัญกับนักพัฒนา เพื่อที่จะพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่มีคุณภาพมากกว่าเน้นเรื่องจำนวนแอพพลิเคชั่นบนสโตร์ เนื่องจากจำนวนเงินมากกว่า 80% ของการดาวน์โหลดจะอยู่ในแอพพลิเคชั่นที่มีคุณภาพดีระดับเรทติ้ง  4-5 ดาว  ซึ่งจะมีโอกาสสร้างรายได้จากช่องทางต่างๆ ทั้งการขายแอพพลิเคชั่น การซื้อไอเทมในแอพพลิเคชั่น และขายโฆษณาในแอพ  โดยปัจจุบันมีแอพลิเคชั่นสัญชาติไทยคือ  เฟสบุ๊ค เอชดี (Facebook HD)ที่ได้รับความนิยมสูงสุดทำสถิติมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 375,000 ครั้งในเวลาไม่ถึง 2 เดือน  อย่างไรก็ตามปัจจุบันนักพัฒนาคนไทยมีฝีมือแต่ส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะพัฒนาแอพพลิเคชั่นประเภทไหนถึงจะประสบความสำเร็จ รวมถึงเมื่อพัฒนาเสร็จแล้วไม่รู้ช่องทางในการจำหน่ายหรือการหารายได้ ซึ่งทางโนเกียเตรียมจะเข้าไปสนับสนุนในช่องทางจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ


นายจิรพัฒน์ กล่าวต่อว่า ล่าสุดโนเกียจึงได้ร่วมกับ มหาวิทยาลัยรังสิต ในการจัดโครงการ มาย เฟิรส์ แอพ (My First App) เพื่อผลิตนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นรุ่นใหม่ รองรับความต้องการด้านการพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่มากขึ้น โดยเฉพาะการมาของโทรศัพท์มือถือระบบ 3 จี และการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟน  โดยจะคัดเลือกแอพพลิเคชั่นจาก 10 โครงการจากทีมนักศึกษาจำนวน 10 ทีม นำเผยแพร่บน วินโดวส์ โฟน สโตร์ เพื่อให้ผู้บริโภคดาวน์โหลดไปใช้งานจริง ซึ่งแอพพลิเคชั่นที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุด ผู้พัฒนาจะได้ไปทัศนศึกษาที่ศูนย์พัฒนาและวิจัยของโนเกีย ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน


ด้าน ผศ.ดร.ม.ล. กุลธร เกษมสันต์ คณบดี คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่าตลาดแอพพลิเคชั่นในประเทศไทยกำลังขยายตัว เพื่อตอบรับการเปิดบริการ 3 จี ส่งผลให้ความต้องการบุคลากรด้านนี้มีสูงขึ้นด้วย ทางมหาวิทยาลัยจึงให้ความสำคัญในการผลิตบุคลากรด้านนี้ ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ทางโนเกียจะเข้ามาจัดฝึกอบรมให้นักศึกษา ให้การสนับสนุนเครื่องมือ พร้อมทั้งตั้งโมบายแล็ป และสุดท้ายคือการจัดประกวดแอพพลิเคชั่นเพื่อหาผู้ชนะไปดูงานในต่างประเทศ โดยโครงการนี้จะช่วยพัฒนาให้นักศึกษาที่จบไปสามารถทำงานในตลาดได้ทันที

http://www.dailynews.co.th/technology/199354

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.