Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

13 พฤษภาคม 2556 (เกาะติดประมูลDigital TV) 4 องค์กรวิชาชีพสื่อออกแถลงการณ์ เรื่องใหญ่อย่างนี้ต้องรอบคอบ ต้องพิจารณา ดใหญ่ 11 คน


ประเด็นหลัก



องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ได้แก่ สภาวิชาชีพข่าววิทยุ และโทรทัศน์ไทย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ยังยืนยันความจำเป็นและขอเรียกร้องให้กสท.ต้องออกหลักเกณฑ์และกติกาในการคัดเลือกผู้เหมาะสมที่จะรับใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรทัศน์ดิจิตอล เนื่องจากกิจการสื่อสารมวลชนเป็นสมบัติของสาธารณะอีกทั้งมีผลกระทบต่อสังคมโดยรวมอย่างกว้างขวาง การพิจารณาให้ใครเป็นผู้ได้รับสิทธิประกอบกิจการ โดยเฉพาะในกลุ่มบริการสาธารณะและชุมชน จึงต้องผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างรอบคอบ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อให้การแข่งขันเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ทั้งนี้ องค์กรวิชาชีพสื่อข้างต้น ขอเรียกร้องให้ กสท. ได้เร่งรัดการออกหลักเกณฑ์เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้รับใบอนุญาตฯ โดยต้องคำนึงถึงกระบวนการมีส่วนร่วมจากประชาชนอย่างกว้างขวาง อีกทั้งต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. ชุดใหญ่ 11 คน เพราะเป็นเรื่องสำคัญจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แทนที่จะพิจารณาจากคณะกรรมการ กสท.เพียง 5 คน


ทั้งนี้ องค์กรวิชาชีพสื่อ ยังเห็นว่า กสทช. ไม่จำเป็นต้องให้ใบอนุญาตฯ ไปพร้อมกันทั้ง 12 ช่องในคราวเดียว แต่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของการปฏิรูปสื่ออย่างแท้จริง องค์กรวิชาชีพสื่อ เชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันติดตาม ตรวจสอบการทำงานของกสทช. ในประเด็นต่างๆ อย่างใกล้ชิด และเข้าไปมีส่วนร่วมในการพิจารณา จัดสรรคลื่นความถี่ฯ ดังกล่าว เพราะเกี่ยวข้องกับประโยชน์ของประชาชนโดยตรง


______________________________________







4องค์กรสื่อแถลงการณ์ทีวีดิจิตอลต้องโปร่งใส


4 องค์กรวิชาชีพสื่อออกแถลงการณ์ร่วมย้ำทีวีดิจิตอลสาธารณะ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นธรรม

จดหมายเปิดผนึก องค์กรวิชาชีพสื่อ เรียกร้อง กสทช. ออกหลักเกณฑ์การให้ใบอนุญาตทีวีดิจิตอลประเภทบริการสาธารณะ โดยพิจารณาในบอร์ดใหญ่ 11 คน ย้ำประกาศหลักเกณฑ์ให้ใบอนุญาตโครงข่ายต้องโปร่งใส เป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ

จากการที่ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กำลังพิจารณาการให้ใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรทัศน์ดิจิตอลในประเภทต่างๆ อีกทั้งกำลังอยู่ระหว่างร่างหลักเกณฑ์ประกาศการคัดเลือกผู้ได้รับการจัดสรร คลื่นทีวีในระบบดิจิตอลประเภทธุรกิจ แต่กลับไม่มีการกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับประเภท บริการสาธารณะ โดยในจำนวน 12 ช่อง มติเสียงข้างมาก กสท. 3 ต่อ 2 เห็นชอบที่จะอนุญาตให้ผู้ประกอบการรายเดิมคือ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5) สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.11) และ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ทดลองออกอากาศในระบบดิจิตอลไปก่อน ทั้งที่ยังไม่มีรายละเอียดขั้นตอนกระบวนการพิจารณาใดๆเพื่อขอรับใบอนุญาต โดยจะพิจารณาจัดสรรช่องที่เหลืออีก 8 ช่อง ด้วยอำนาจของ กสท. เอง

องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ได้แก่ สภาวิชาชีพข่าววิทยุ และโทรทัศน์ไทย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ยังยืนยันความจำเป็นและขอเรียกร้องให้กสท.ต้องออกหลักเกณฑ์และกติกาในการคัดเลือกผู้เหมาะสมที่จะรับใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรทัศน์ดิจิตอล เนื่องจากกิจการสื่อสารมวลชนเป็นสมบัติของสาธารณะอีกทั้งมีผลกระทบต่อสังคมโดยรวมอย่างกว้างขวาง การพิจารณาให้ใครเป็นผู้ได้รับสิทธิประกอบกิจการ โดยเฉพาะในกลุ่มบริการสาธารณะและชุมชน จึงต้องผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างรอบคอบ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อให้การแข่งขันเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ทั้งนี้ องค์กรวิชาชีพสื่อข้างต้น ขอเรียกร้องให้ กสท. ได้เร่งรัดการออกหลักเกณฑ์เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้รับใบอนุญาตฯ โดยต้องคำนึงถึงกระบวนการมีส่วนร่วมจากประชาชนอย่างกว้างขวาง อีกทั้งต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. ชุดใหญ่ 11 คน เพราะเป็นเรื่องสำคัญจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แทนที่จะพิจารณาจากคณะกรรมการ กสท.เพียง 5 คน

นอกจากนี้ ในการประกาศหลักเกณฑ์ให้ใบอนุญาตบริการสิ่งอำนวยความสะดวกและการให้บริการโครงข่ายฯ ซึ่งต้องประกาศก่อนการพิจารณาให้ใบอนุญาตฯ ควรต้องกำหนดกระบวนการที่เปิดเผย โปร่งใส และเปิดให้ภาคส่วนต่างๆได้มีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางด้วยเช่นเดียวกัน

หาก กสท. ไม่กำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนประกาศต่อสาธารณะ จะถือว่าขัดต่อแผนแม่บท (Road Map)ของ กสทช.เองที่กำหนดให้ต้องมีประกาศ หลักเกณฑ์ และวิธีการรวมทั้งเงื่อนไขการจัดสรรคลื่นความถี่ ซึ่งเป็นสมบัติของส่วนรวม อันอาจนำไปสู่การฟ้องร้องคดีทางศาล จากผู้เสียหายหรือผู้มีส่วนได้เสีย อันเนื่องจากการที่ กสท. ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด"

ทั้งนี้ องค์กรวิชาชีพสื่อ ยังเห็นว่า กสทช. ไม่จำเป็นต้องให้ใบอนุญาตฯ ไปพร้อมกันทั้ง 12 ช่องในคราวเดียว แต่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของการปฏิรูปสื่ออย่างแท้จริง

องค์กรวิชาชีพสื่อ เชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันติดตาม ตรวจสอบการทำงานของกสทช. ในประเด็นต่างๆ อย่างใกล้ชิด และเข้าไปมีส่วนร่วมในการพิจารณา จัดสรรคลื่นความถี่ฯ ดังกล่าว เพราะเกี่ยวข้องกับประโยชน์ของประชาชนโดยตรง

13 พฤษภาคม 2556
สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

http://www.posttoday.com/%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%
B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C/221849/4%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%
E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%
B8%96%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%9
7%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0
%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8
%A3%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AA


_______________________________________________



ร้องกสทช.วางหลักเกณฑ์ใบอนุญาตทีวีดิจิทัล


4 องค์กรวิชาชีพสื่อออกจดหมายเปิดผนึกเรียกร้อง กสทช. วางหลักเกณฑ์การให้ใบอนุญาตทีวีดิจิทัล

องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ประกอบด้วย สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องต่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ว่า จากกรณีที่กสท.กำลังพิจารณาการให้ใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรทัศน์ดิจิทัลในประเภทต่างๆ อีกทั้งกำลังอยู่ระหว่างร่างหลักเกณฑ์ประกาศการคัดเลือกผู้ได้รับการจัดสรรคลื่นทีวีในระบบดิจิทัลประเภทธุรกิจ แต่กลับไม่มีการกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับประเภท บริการสาธารณะ โดยในจำนวน 12 ช่อง มติเสียงข้างมาก กสท. 3 ต่อ 2 เห็นชอบที่จะอนุญาตให้ผู้ประกอบการรายเดิมคือ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5) สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.11) และสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ทดลองออกอากาศในระบบดิจิทัลไปก่อน ทั้งที่ยังไม่มีรายละเอียดขั้นตอนกระบวนการพิจารณาใดๆเพื่อขอรับใบอนุญาต โดยจะพิจารณาจัดสรรช่องที่เหลืออีก 8 ช่อง ด้วยอำนาจของ กสท.เอง

องค์กรวิชาชีพสื่อฯ ยังยืนยันความจำเป็นและขอเรียกร้องให้กสท.ต้องออกหลักเกณฑ์และกติกาในการคัดเลือกผู้เหมาะสมที่จะรับใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรทัศน์ดิจิตอล เนื่องจากกิจการสื่อสารมวลชนเป็นสมบัติของสาธารณะอีกทั้งมีผลกระทบต่อสังคมโดยรวมอย่างกว้างขวาง การพิจารณาให้ใครเป็นผู้ได้รับสิทธิประกอบกิจการ โดยเฉพาะในกลุ่มบริการสาธารณะและชุมชน จึงต้องผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างรอบคอบ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อให้การแข่งขันเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ องค์กรวิชาชีพสื่อฯ ขอเรียกร้องให้ กสท. ได้เร่งรัดการออกหลักเกณฑ์เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้รับใบอนุญาตฯ โดยต้องคำนึงถึงกระบวนการมีส่วนร่วมจากประชาชนอย่างกว้างขวาง อีกทั้งต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. ชุดใหญ่ 11 คน เพราะเป็นเรื่องสำคัญจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แทนที่จะพิจารณาจากคณะกรรมการ กสท.เพียง 5 คน

จดหมายเปิดผนึกระบุด้วยว่า นอกจากนี้ ในการประกาศหลักเกณฑ์ให้ใบอนุญาตบริการสิ่งอำนวยความสะดวกและการให้บริการโครงข่ายฯ ซึ่งต้องประกาศก่อนการพิจารณาให้ใบอนุญาตฯ ควรต้องกำหนดกระบวนการที่เปิดเผย โปร่งใส และเปิดให้ภาคส่วนต่างๆได้มีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางด้วยเช่นเดียวกัน หาก กสท. ไม่กำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนประกาศต่อสาธารณะ จะถือว่าขัดต่อแผนแม่บท (Road Map)ของ กสทช.เองที่กำหนดให้ต้องมีประกาศ หลักเกณฑ์ และวิธีการรวมทั้งเงื่อนไขการจัดสรรคลื่นความถี่ ซึ่งเป็นสมบัติของส่วนรวม อันอาจนำไปสู่การฟ้องร้องคดีทางศาล จากผู้เสียหายหรือผู้มีส่วนได้เสีย อันเนื่องจากการที่ กสท. ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด"

ทั้งนี้ องค์กรวิชาชีพสื่อ ยังเห็นว่า กสทช. ไม่จำเป็นต้องให้ใบอนุญาตฯ ไปพร้อมกันทั้ง 12 ช่องในคราวเดียว แต่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของการปฏิรูปสื่ออย่างแท้จริง องค์กรวิชาชีพสื่อ เชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันติดตาม ตรวจสอบการทำงานของกสทช. ในประเด็นต่างๆ อย่างใกล้ชิด และเข้าไปมีส่วนร่วมในการพิจารณา จัดสรรคลื่นความถี่ฯ ดังกล่าว เพราะเกี่ยวข้องกับประโยชน์ของประชาชนโดยตรง

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130513/505245/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%
B8%87%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%97%E0%B8%8A.%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%
AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C%E
0%B9%83%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B
8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%97
%E0%B8%B1%E0%B8%A5.html

____________________________________________________--


องค์กรวิชาชีพสื่อเรียกร้อง กสทช.กรณีออกเกณฑ์ไลเซ่นส์ทีวีดิจิตอลช่องสาธารณะ


องค์กรวิชาชีพสื่อ ทำจดหมายเปิดผนึกเรียกร้อง กสทช. ออกหลักเกณฑ์การให้ใบอนุญาตทีวีดิจิตอลประเภทบริการสาธารณะ โดยพิจารณาในบอร์ดใหญ่ 11 คน ย้ำประกาศหลักเกณฑ์ให้ใบอนุญาตโครงข่ายต้องโปร่งใส เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ...

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. มีรายงานว่า องค์กรวิชาชีพสื่อ ประกอบด้วย สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ทำจดหมายเปิดผนึก เรียกร้อง กสทช. ออกหลักเกณฑ์การให้ใบอนุญาตทีวีดิจิตอลประเภทบริการสาธารณะ โดยพิจารณาในบอร์ดใหญ่ 11 คน ย้ำประกาศหลักเกณฑ์ให้ใบอนุญาตโครงข่ายต้องโปร่งใส เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ

จากการที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กำลังพิจารณาการให้ใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรทัศน์ดิจิตอลในประเภทต่างๆ อีกทั้งกำลังอยู่ระหว่างร่างหลักเกณฑ์ประกาศการคัดเลือกผู้ได้รับการจัดสรรคลื่นทีวีในระบบดิจิตอลประเภทธุรกิจ แต่กลับไม่มีการกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับประเภทบริการสาธารณะ โดยในจำนวน 12 ช่อง มติเสียงข้างมาก กสท. 3 ต่อ 2 เห็นชอบที่จะอนุญาตให้ผู้ประกอบการรายเดิมคือ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5) สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.11) และสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ทดลองออกอากาศในระบบดิจิตอลไปก่อน ทั้งที่ยังไม่มีรายละเอียดขั้นตอนกระบวนการพิจารณาใดๆ เพื่อขอรับใบอนุญาต โดยจะพิจารณาจัดสรรช่องที่เหลืออีก 8 ช่อง ด้วยอำนาจของ กสท. เอง

องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ได้แก่ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ยังยืนยันความจำเป็นและขอเรียกร้องให้ กสท.ต้องออกหลักเกณฑ์และกติกาในการคัดเลือกผู้เหมาะสมที่จะรับใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรทัศน์ดิจิตอล เนื่องจากกิจการสื่อสารมวลชนเป็นสมบัติของสาธารณะ อีกทั้งมีผลกระทบต่อสังคมโดยรวมอย่างกว้างขวาง การพิจารณาให้ใครเป็นผู้ได้รับสิทธิประกอบกิจการ โดยเฉพาะในกลุ่มบริการสาธารณะและชุมชน จึงต้องผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างรอบคอบ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อให้การแข่งขันเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ทั้งนี้ องค์กรวิชาชีพสื่อข้างต้น ขอเรียกร้องให้ กสท. ได้เร่งรัดการออกหลักเกณฑ์เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้รับใบอนุญาตฯ โดยต้องคำนึงถึงกระบวนการมีส่วนร่วมจากประชาชนอย่างกว้างขวาง อีกทั้งต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. ชุดใหญ่ 11 คน เพราะเป็นเรื่องสำคัญจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แทนที่จะพิจารณาจากคณะกรรมการ กสท.เพียง 5 คน

นอกจากนี้ ในการประกาศหลักเกณฑ์ให้ใบอนุญาตบริการสิ่งอำนวยความสะดวกและการให้บริการโครงข่ายฯ ซึ่งต้องประกาศก่อนการพิจารณาให้ใบอนุญาตฯ ควรต้องกำหนดกระบวนการที่เปิดเผย โปร่งใส และเปิดให้ภาคส่วนต่างๆ ได้มีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางด้วยเช่นเดียวกัน

หาก กสท. ไม่กำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนประกาศต่อสาธารณะ จะถือว่าขัดต่อแผนแม่บท (Road Map) ของ กสทช.เองที่กำหนดให้ต้องมีประกาศหลักเกณฑ์ และวิธีการ รวมทั้งเงื่อนไขการจัดสรรคลื่นความถี่ ซึ่งเป็นสมบัติของส่วนรวม อันอาจนำไปสู่การฟ้องร้องคดีทางศาล จากผู้เสียหายหรือผู้มีส่วนได้เสีย อันเนื่องจากการที่ กสท. ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด"

องค์กรวิชาชีพสื่อ ยังเห็นว่า กสทช. ไม่จำเป็นต้องให้ใบอนุญาตฯ ไปพร้อมกันทั้ง 12 ช่องในคราวเดียว แต่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของการปฏิรูปสื่ออย่างแท้จริง

องค์กรวิชาชีพสื่อ เชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันติดตามตรวจสอบการทำงานของ กสทช. ในประเด็นต่างๆ อย่างใกล้ชิด และเข้าไปมีส่วนร่วมในการพิจารณาจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ดังกล่าว เพราะเกี่ยวข้องกับประโยชน์ของประชาชนโดยตรง

โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/344586


______________________________________________




องค์กรวิชาชีพสื่อเรียกร้อง กสทช.กรณีออกเกณฑ์ไลเซ่นส์ทีวีดิจิตอลช่องสาธารณะ
หน้าหลัก » วิทยาการ-ไอที » IT Digest

องค์กรวิชาชีพสื่อ ทำจดหมายเปิดผนึกเรียกร้อง กสทช. ออกหลักเกณฑ์การให้ใบอนุญาตทีวีดิจิตอลประเภทบริการสาธารณะ โดยพิจารณาในบอร์ดใหญ่ 11 คน ย้ำประกาศหลักเกณฑ์ให้ใบอนุญาตโครงข่ายต้องโปร่งใส เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ...

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. มีรายงานว่า องค์กรวิชาชีพสื่อ ประกอบด้วย สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ทำจดหมายเปิดผนึก เรียกร้อง กสทช. ออกหลักเกณฑ์การให้ใบอนุญาตทีวีดิจิตอลประเภทบริการสาธารณะ โดยพิจารณาในบอร์ดใหญ่ 11 คน ย้ำประกาศหลักเกณฑ์ให้ใบอนุญาตโครงข่ายต้องโปร่งใส เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ

จากการที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กำลังพิจารณาการให้ใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรทัศน์ดิจิตอลในประเภทต่างๆ อีกทั้งกำลังอยู่ระหว่างร่างหลักเกณฑ์ประกาศการคัดเลือกผู้ได้รับการจัดสรรคลื่นทีวีในระบบดิจิตอลประเภทธุรกิจ แต่กลับไม่มีการกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับประเภทบริการสาธารณะ โดยในจำนวน 12 ช่อง มติเสียงข้างมาก กสท. 3 ต่อ 2 เห็นชอบที่จะอนุญาตให้ผู้ประกอบการรายเดิมคือ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5) สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.11) และสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ทดลองออกอากาศในระบบดิจิตอลไปก่อน ทั้งที่ยังไม่มีรายละเอียดขั้นตอนกระบวนการพิจารณาใดๆ เพื่อขอรับใบอนุญาต โดยจะพิจารณาจัดสรรช่องที่เหลืออีก 8 ช่อง ด้วยอำนาจของ กสท. เอง

องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ได้แก่ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ยังยืนยันความจำเป็นและขอเรียกร้องให้ กสท.ต้องออกหลักเกณฑ์และกติกาในการคัดเลือกผู้เหมาะสมที่จะรับใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรทัศน์ดิจิตอล เนื่องจากกิจการสื่อสารมวลชนเป็นสมบัติของสาธารณะ อีกทั้งมีผลกระทบต่อสังคมโดยรวมอย่างกว้างขวาง การพิจารณาให้ใครเป็นผู้ได้รับสิทธิประกอบกิจการ โดยเฉพาะในกลุ่มบริการสาธารณะและชุมชน จึงต้องผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างรอบคอบ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อให้การแข่งขันเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ทั้งนี้ องค์กรวิชาชีพสื่อข้างต้น ขอเรียกร้องให้ กสท. ได้เร่งรัดการออกหลักเกณฑ์เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้รับใบอนุญาตฯ โดยต้องคำนึงถึงกระบวนการมีส่วนร่วมจากประชาชนอย่างกว้างขวาง อีกทั้งต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. ชุดใหญ่ 11 คน เพราะเป็นเรื่องสำคัญจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แทนที่จะพิจารณาจากคณะกรรมการ กสท.เพียง 5 คน

นอกจากนี้ ในการประกาศหลักเกณฑ์ให้ใบอนุญาตบริการสิ่งอำนวยความสะดวกและการให้บริการโครงข่ายฯ ซึ่งต้องประกาศก่อนการพิจารณาให้ใบอนุญาตฯ ควรต้องกำหนดกระบวนการที่เปิดเผย โปร่งใส และเปิดให้ภาคส่วนต่างๆ ได้มีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางด้วยเช่นเดียวกัน

หาก กสท. ไม่กำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนประกาศต่อสาธารณะ จะถือว่าขัดต่อแผนแม่บท (Road Map) ของ กสทช.เองที่กำหนดให้ต้องมีประกาศหลักเกณฑ์ และวิธีการ รวมทั้งเงื่อนไขการจัดสรรคลื่นความถี่ ซึ่งเป็นสมบัติของส่วนรวม อันอาจนำไปสู่การฟ้องร้องคดีทางศาล จากผู้เสียหายหรือผู้มีส่วนได้เสีย อันเนื่องจากการที่ กสท. ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด"

องค์กรวิชาชีพสื่อ ยังเห็นว่า กสทช. ไม่จำเป็นต้องให้ใบอนุญาตฯ ไปพร้อมกันทั้ง 12 ช่องในคราวเดียว แต่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของการปฏิรูปสื่ออย่างแท้จริง

องค์กรวิชาชีพสื่อ เชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันติดตามตรวจสอบการทำงานของ กสทช. ในประเด็นต่างๆ อย่างใกล้ชิด และเข้าไปมีส่วนร่วมในการพิจารณาจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ดังกล่าว เพราะเกี่ยวข้องกับประโยชน์ของประชาชนโดยตรง

โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/344586



ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.