17 พฤษภาคม 2556 Strategy Analytics ชี้ Samsung กำไรทั้งหมดของสมาร์ทโฟนที่เป็นแอนดรอยด์ในไตรมาสแรกมีถึง 5.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 43% สมาร์ทโฟนที่เป็นแอนดรอยด์
ประเด็นหลัก
Strategy Analytics รายงานว่าผลกำไรทั้งหมดของสมาร์ทโฟนที่เป็นแอนดรอยด์ในไตรมาสแรกมีถึง 5.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ถึง 43% จากอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนทั้งหมด โดยผลกำไรถึง 5.1 ล้านเหรียญสหรัฐเกิดจากสมาร์ทโฟนในแบรนด์ซัมซุง คิดเป็น 94.7% ซึ่งกำไรส่วนหนึ่งมาจากการขาย Galaxy S3 กับ Galaxy Note 2 ที่ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ในตลาด ยังไม่รวมกับยอดขาย Galaxy S4 เรือธงล่าสุดด้วย ส่วนแบรนด์ที่ตามซัมซุงมาแบบห่างมากๆ ก็คือ แอลจี ที่กินส่วนแบ่งไปเพียง 2.5% คิดเป็น 119 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามมาด้วยแรนด์อื่นๆ อย่าง โซนี, เอชทีซี และแบรนด์อื่นๆ ที่ทำผลกำไรรวมกันได้แค่ 2.7% เท่านั้น
______________________________________
ซัมซุงกวาดกำไรอื้อจากแอนดรอยด์
โดย chutchawal
จากการประเมินผลกำไรในไตรมาสแรกประจำปี 2013 ของสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์โดย Strategy Analytics ชี้ให้เห็นว่าซัมซุงยังเป็นผู้นำในตลาดแอนดรอยด์อย่างแท้จริง ด้วยส่วนแบ่งผลกำไรเกือบ 95%
Strategy Analytics รายงานว่าผลกำไรทั้งหมดของสมาร์ทโฟนที่เป็นแอนดรอยด์ในไตรมาสแรกมีถึง 5.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ถึง 43% จากอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนทั้งหมด โดยผลกำไรถึง 5.1 ล้านเหรียญสหรัฐเกิดจากสมาร์ทโฟนในแบรนด์ซัมซุง คิดเป็น 94.7% ซึ่งกำไรส่วนหนึ่งมาจากการขาย Galaxy S3 กับ Galaxy Note 2 ที่ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ในตลาด ยังไม่รวมกับยอดขาย Galaxy S4 เรือธงล่าสุดด้วย ส่วนแบรนด์ที่ตามซัมซุงมาแบบห่างมากๆ ก็คือ แอลจี ที่กินส่วนแบ่งไปเพียง 2.5% คิดเป็น 119 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามมาด้วยแรนด์อื่นๆ อย่าง โซนี, เอชทีซี และแบรนด์อื่นๆ ที่ทำผลกำไรรวมกันได้แค่ 2.7% เท่านั้น
จากความสำเร็จของซัมซุงต้องขอยกความดีความชอบให้กับแผนการตลาดทีทำให้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์สามารถเข้าถึงลูกค้าในทุกระดับได้อย่างเหลือเชื่อ นอกจากนี้ผลกำไรที่ปรากฎออกมายังแสดงให้เห็นว่าซัมซุงสามารถทำเงินได้มากขึ้นเรื่อยๆจากแพลตฟอร์มของกูเกิ้ล ซึ่งทำให้บริษัทจากเกาหลีใต้มีอำนาจในการต่อรองเหนือกว่าแอนดรอยด์มากยิ่งขึ้น
http://www.arip.co.th/news.php?id=416763
ไม่มีความคิดเห็น: