Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

17 พฤษภาคม 2556 ศาล ปค.สั่งผู้ร้องส่งเอกสารเพิ่ม กรณีเลือก SUPER กสทช. ( รองเลขาธิการ กสทช. เป็นพยานให้กับวุฒิสภา ชี้พันธ์ศักดิ์ลาออกแล้วจาก สำนักงานกสทช. ภายในกำหนด 15 วันแล้ว)


ประเด็นหลัก




ทั้งนี้ ศาลใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ในการสอบถามคู่ความทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งนายพันธ์ศักดิ์ จันทร์ปัญญา เดินทางมาพร้อมทนายความ ขณะที่นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา มอบหมายให้ ผอ.สำนักกำกับและตรวจสอบ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เป็นตัวแทนมาชี้แจง และมีนายประเสริฐ อภิปุญญา รองเลขาธิการ กสทช. ว่าที่ ซุปเปอร์ บอร์ด กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภค มาเป็นพยานฝ่ายประธานวุฒิสภา โดยภายหลังการไต่สวน นายพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดประเด็นที่ศาลสอบถามได้ เนื่องจากคดีอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยการไต่สวนศาลให้คู่ความส่งเอกสารเพิ่มเติมซึ่งตนจะได้ยื่นแสดงให้ศาลต่อ ไป ขณะที่การคัดเลือกดังกล่าว ถือว่าเมื่อนายประเสริฐได้รับเลือกแล้วก็ได้เป็นซุปเปอร์บอร์ดทันที แต่ขณะนี้มีปัญหาว่านายประเสริฐคงมีตำแหน่งเป็นรองเลขาธิการ กสทช.ด้วย ซึ่งยังไม่ได้ลาออกตามกฎหมาย

ด้าน นายประเสริฐ รองเลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า วันนี้ตนมาเป็นพยานให้กับประธานวุฒิสภาที่ถูกฟ้อง เพื่อยืนยันว่าตนมีคุณสมบัติการเป็นซุปเปอร์บอร์ด กสทช. ตามข้อกำหนดและกฎหมาย เนื่องจากตนได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการ กสทช. ต่อเลขาธิการ กสทช. ภายในกำหนด 15 วัน แต่เลขาธิการ กสทช. ยังไม่อนุมัติการลาออก ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็ได้ยื่นฟ้อง เลขาธิการ กสทช. ต่อศาลปกครอง ที่ยังไม่อนุมัติให้ตนลาออกไปเป็นซุปเปอร์บอร์ด กสทช. โดยมิชอบด้วยกฎหมาย และคดีนี้ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ส่วนกรณีที่มีการอ้างตนเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับคลื่น 1 ปณ. นั้น ตนชี้แจงว่า กสทช.ไม่ได้มีสถานะเป็นผู้ประกอบการ คลื่น 1 ปณ. เป็นเพียงผู้ดูแลคลื่นนั้นที่ได้รับโอนมาจากกรมไปรษณีย์โทรเลขในอดีต ซึ่งต่อไปจะต้องนำไปจัดสรรคลื่นความถี่อีกครั้ง



       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้นายพันธศักดิ์ ผู้ฟ้อง กล่าวหาว่าการคัดเลือกดังกล่าวกระทำการโดยมิชอบ เนื่องจากนายประเสริฐ อภิปุญญา รองเลขาธิการ กสทช.มีคุณสมบัติต้องห้าม ซึ่งวุฒิสภากำหนดให้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นซูเปอร์บอร์ด กสทช. ต้องลาออกจากทุกตำแหน่งภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. ซึ่งครบกำหนดเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ก็ยังปรากฏชื่อนายประเสริฐเป็นรองเลขาธิการ กสทช.อยู่ จึงขอให้ให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกผลการคัดเลือกซูเปอร์บอร์ด กสทช.ดังกล่าว และให้มีการคัดเลือกใหม่






______________________________________







ไต่สวนเลือกซูเปอร์บอร์ด กสทช.ยืดยื้อ ศาล ปค.สั่งผู้ร้องส่งเอกสารเพิ่ม


ศาลปกครองไต่สวนคดีเลือกซูเปอร์บอร์ด กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภคยังยืดเยื้อ ศาลฯ สั่ง “พันธ์ศักดิ์” ส่งเอกสารเพิ่ม ขณะที่ “ประเสริฐ” ว่าที่ซุปเปอร์บอร์ด กสทช.ยันคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วน
     
       วันนี้ (17 พ.ค.) นายอนุสรณ์ ธีระภัทรานันท์ ตุลาการเจ้าของสำนวน ได้นัดคู่ความไต่สวนในคดีที่นายพันธ์ศักดิ์ จันทร์ปัญญา ผู้สมัครเข้ารับคัดเลือกเป็นกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน ตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มาตรา 70 หรือซูเปอร์บอร์ด กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภค ยื่นฟ้องประธานวุฒิสภา ขอให้มีคำสั่งยกเลิกผลการคัดเลือกซูเปอร์บอร์ด กสทช.ดังกล่าวและให้มีการคัดเลือกใหม่ โดยการไต่สวนครั้งนี้เพื่อที่ศาลปกครองจะได้นำไปพิจารณาว่าจะรับคำฟ้องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ และจะกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาสั่งห้ามไม่ให้ประธานวุฒิสภารับรองสถานะของนายประเสริฐ อภิปุญญา ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากที่ประชุมวุฒิสภาให้เป็นซูเปอร์บอร์ด กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภคไว้ก่อนจนกว่าคดีจะถึงที่สุดตามที่นายผู้ฟ้องคดีมีคำขอหรือไม่
     
       โดยการไต่สวนศาลได้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ในการซักถามคู่ความทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งนายพันธ์ศักดิ์เดินทางมาให้ถ้อยคำพร้อมกับทนาย ขณะที่ประธานวุฒิสภา มอบหมายให้ผู้อำนวยสำนักกำกับและตรวจสอบสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เป็นตัวแทนมาชี้แจง โดยมีนายประเสริฐมาเป็นพยานฝ่ายประธานวุฒิสภาด้วย ซึ่งนายพันธ์ศักดิ์กล่าวภายหลังการไต่สวนว่ายังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดประเด็นที่ศาลสอบถามได้ เนื่องจากคดีอยู่ระหว่างการพิจารณา ในการไต่สวนศาลให้คู่ความส่งเอกสารเพิ่มเติมซึ่งตนจะได้ยื่นแสดงให้ศาลต่อไป ขณะที่การคัดเลือกดังกล่าวถือว่าเมื่อนายประเสริฐได้รับเลือกแล้วก็ได้เป็นซูเปอร์บอร์ดทันที แต่ขณะนี้มีปัญหาว่านายประเสริฐคงมีตำแหน่งเป็นรองเลขาธิการ กสทช.ด้วย ซึ่งยังไม่ได้ลาออกตามกฎหมาย
     
       ด้านนายประเสริฐ รองเลขาธิการ กสทช.กล่าวว่า วันนี้ตนมาเป็นพยานให้กับประธานวุฒิสภาที่ถูกฟ้อง เพื่อยืนยันว่าตนมีคุณสมบัติการเป็นซุปเปอร์บอร์ด กสทช.ตามข้อกำหนดและกฎหมาย เนื่องจากตนได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการ กสทช.ต่อเลขาธิการ กสทช. ภายในกำหนด 15 วัน แต่เลขาธิการ กสทช.ยังไม่อนุมัติการลาออก รวมทั้งก่อนหน้านี้ตนก็ได้ยื่นฟ้อง เลขาธิการ กสทช.ต่อศาลปกครอง ที่ยังไม่อนุมัติให้ตนลาออกไปเป็นซูเปอร์บอร์ด กสทช. โดยมิชอบด้วยกฎหมาย และคดีนี้ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
     
       ส่วนกรณีที่มีการอ้างตนเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับคลื่น 1 ปณ.นั้น ตนชี้แจงว่า กสทช.ไม่ได้มีสถานะเป็นผู้ประกอบการ คลื่น 1 ปณ. เป็นเพียงผู้ดูแลคลื่นนั้นที่ได้รับโอนมาจากกรมไปรษณีย์โทรเลขในอดีต ซึ่งต่อไปจะต้องนำไปจัดสรรคลื่นความถี่อีกครั้ง
     
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้นายพันธศักดิ์ ผู้ฟ้อง กล่าวหาว่าการคัดเลือกดังกล่าวกระทำการโดยมิชอบ เนื่องจากนายประเสริฐ อภิปุญญา รองเลขาธิการ กสทช.มีคุณสมบัติต้องห้าม ซึ่งวุฒิสภากำหนดให้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นซูเปอร์บอร์ด กสทช. ต้องลาออกจากทุกตำแหน่งภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. ซึ่งครบกำหนดเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ก็ยังปรากฏชื่อนายประเสริฐเป็นรองเลขาธิการ กสทช.อยู่ จึงขอให้ให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกผลการคัดเลือกซูเปอร์บอร์ด กสทช.ดังกล่าว และให้มีการคัดเลือกใหม่

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000059256&Keyword=%a1%ca%b7

________________________________________



คดีคัดเลือกซุปเปอร์บอร์ด กสทช.คุ้มครองผู้บริโภค ศาล ปค.สั่ง"พันธ์ศักดิ์"ส่งเอกสารเพิ่ม


 
ที่ห้องไต่สวน 1 ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ วันที่ 17 พ.ค. เวลา 10.00 น. นายอนุสรณ์ ธีระภัทรานันท์ ตุลาการเจ้าของสำนวน ได้นัดคู่ความ ไต่สวนคดีฟ้องยกเลิกผลการคัดเลือกซุปเปอร์บอร์ด กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภค และให้มีการคัดเลือกใหม่

นายพันธ์ศักดิ์ จันทร์ปัญญา ผู้ฟ้องคดี ซึ่งเป็นอดีตที่ปรึกษากิตติมศักดิ์คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และผู้สมัครคัดเลือกกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน ตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 มาตรา 70 หรือซุปเปอร์บอร์ด กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภค เดินทางมาพร้อมทนายความ

ขณะที่นายประเสริฐ อภิปุญญา รองเลขาธิการ กสทช. ที่ได้รับคัดเลือกเป็นซุปเปอร์บอร์ด กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภค เดินทางมาเป็นพยานให้กับนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานพิจารณาคัดเลือกซุปเปอร์บอร์ด กสทช. ที่เป็นผู้ถูกฟ้องคดีนี้

ศาลใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ในการสอบถามคู่ความทั้ง 2 ฝ่าย ภายหลังนายพันธ์ศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดประเด็นที่ศาลสอบถามได้ เนื่องจากคดีอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยการไต่สวนศาลให้คู่ความส่งเอกสารเพิ่มเติมซึ่งตนจะได้ยื่นแสดงให้ศาลต่อไป ขณะที่การคัดเลือกดังกล่าว ถือว่าเมื่อนายประเสริฐได้รับเลือกแล้วก็ได้เป็นซุปเปอร์บอร์ดทันที แต่ขณะนี้มีปัญหาว่านายประเสริฐ คงมีตำแหน่งเป็นรองเลขาธิการ กสทช.ด้วย ซึ่งยังไม่ได้ลาออกตามกฎหมาย

ด้านนายประเสริฐกล่าวว่า วันนี้ตนมาเป็นพยานให้กับประธานวุฒิสภาที่ถูกฟ้อง เพื่อยืนยันว่าตนมีคุณสมบัติการเป็นซุปเปอร์บอร์ด กสทช. ตามข้อกำหนดและกฎหมาย เนื่องจากตนได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการ กสทช.ต่อเลขาธิการ กสทช.ภายในกำหนด 15 วัน แต่เลขาธิการ กสทช.ยังไม่อนุมัติการลาออก ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็ได้ยื่นฟ้องเลขาธิการ กสทช.ต่อศาลปกครอง ที่ยังไม่อนุมัติให้ตนลาออกไปเป็นซุปเปอร์บอร์ด กสทช. โดยมิชอบด้วยกฎหมาย และคดีนี้ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

ส่วนกรณีที่มีการอ้างตนเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับคลื่น 1 ปณ. นั้น ตนชี้แจงว่า กสทช.ไม่ได้มีสถานะเป็นผู้ประกอบการ คลื่น 1 ปณ. เป็นเพียงผู้ดูแลคลื่นนั้นที่ได้รับโอนมาจากกรมไปรษณีย์โทรเลขในอดีต ซึ่งต่อไปจะต้องนำไปจัดสรรคลื่นความถี่อีกครั้ง


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1368777444&grpid=03&catid=03

______________________________________________



ศาลปค.กลาง สั่ง ส่งเอกสารเพิ่ม คดี'ซุปเปอร์บอร์ด กสทช.'


คดีคัดเลือก ซุปเปอร์บอร์ด กสทช. คุ้มครองผู้บริโภค ยังยืดเยื้อ ศาลปกครองกลาง สั่ง "พันธ์ศักดิ์" ส่งเอกสารเพิ่ม ขณะที่ รองเลขาธิการ กสทช. ยันคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วน

วันที่ 17 พ.ค.ที่ห้องไต่สวน 1 ศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ นายอนุสรณ์ ธีระภัทรานันท์ ตุลาการเจ้าของสำนวน ได้นัดไต่สวนคดี นายพันธ์ศักดิ์ จันทร์ปัญญา อดีตที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และผู้สมัครคัดเลือกกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 มาตรา 70 หรือซุปเปอร์บอร์ด กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภค ยื่นฟ้อง นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานพิจารณาคัดเลือกซุปเปอร์บอร์ด กสทช. เป็นผู้ถูกฟ้องเรื่องกระทำการโดยมิชอบในการคัดเลือก นายประเสริฐ อภิปุญญา รองเลขาธิการ กสทช. ซึ่งมีคุณสมบัติต้องห้ามเป็นซุปเปอร์บอร์ด กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภค

พร้อมขอให้ศาลปกครอง สั่งยกเลิกผลการคัดเลือกซุปเปอร์บอร์ด กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภคดังกล่าว และให้มีการคัดเลือกใหม่ รวมทั้งขอให้ศาลกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราว ห้ามไม่ให้ประธานวุฒิสภารับรองสถานะนายประเสริฐ อภิปุญญา เป็นซุปเปอร์บอร์ด กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภคจนกว่าคดีจะถึงที่สุดด้วย ว่าควรจะกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ตามคำร้องหรือไม่ และจะรับคำฟ้องไว้พิจารณาหรือไม่

ทั้งนี้ ศาลใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ในการสอบถามคู่ความทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งนายพันธ์ศักดิ์ จันทร์ปัญญา เดินทางมาพร้อมทนายความ ขณะที่นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา มอบหมายให้ ผอ.สำนักกำกับและตรวจสอบ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เป็นตัวแทนมาชี้แจง และมีนายประเสริฐ อภิปุญญา รองเลขาธิการ กสทช. ว่าที่ ซุปเปอร์ บอร์ด กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภค มาเป็นพยานฝ่ายประธานวุฒิสภา โดยภายหลังการไต่สวน นายพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดประเด็นที่ศาลสอบถามได้ เนื่องจากคดีอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยการไต่สวนศาลให้คู่ความส่งเอกสารเพิ่มเติมซึ่งตนจะได้ยื่นแสดงให้ศาลต่อ ไป ขณะที่การคัดเลือกดังกล่าว ถือว่าเมื่อนายประเสริฐได้รับเลือกแล้วก็ได้เป็นซุปเปอร์บอร์ดทันที แต่ขณะนี้มีปัญหาว่านายประเสริฐคงมีตำแหน่งเป็นรองเลขาธิการ กสทช.ด้วย ซึ่งยังไม่ได้ลาออกตามกฎหมาย

ด้าน นายประเสริฐ รองเลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า วันนี้ตนมาเป็นพยานให้กับประธานวุฒิสภาที่ถูกฟ้อง เพื่อยืนยันว่าตนมีคุณสมบัติการเป็นซุปเปอร์บอร์ด กสทช. ตามข้อกำหนดและกฎหมาย เนื่องจากตนได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการ กสทช. ต่อเลขาธิการ กสทช. ภายในกำหนด 15 วัน แต่เลขาธิการ กสทช. ยังไม่อนุมัติการลาออก ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็ได้ยื่นฟ้อง เลขาธิการ กสทช. ต่อศาลปกครอง ที่ยังไม่อนุมัติให้ตนลาออกไปเป็นซุปเปอร์บอร์ด กสทช. โดยมิชอบด้วยกฎหมาย และคดีนี้ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ส่วนกรณีที่มีการอ้างตนเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับคลื่น 1 ปณ. นั้น ตนชี้แจงว่า กสทช.ไม่ได้มีสถานะเป็นผู้ประกอบการ คลื่น 1 ปณ. เป็นเพียงผู้ดูแลคลื่นนั้นที่ได้รับโอนมาจากกรมไปรษณีย์โทรเลขในอดีต ซึ่งต่อไปจะต้องนำไปจัดสรรคลื่นความถี่อีกครั้ง

โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/pol/345411

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.