Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

6 พฤษภาคม 2556 สรุป!! โทรคมนาคมและการสือสาร (เพิ่มเติม) ประจำวัน 06/05/2556


สรุป!! โทรคมนาคมและการสือสาร (เพิ่มเติม) ประจำวัน 06/05/2556


( ข้อจำกัดด้านข้อความ ข่าวที่เหลือ UP ผ่าน ช่องทางอื่นแทนครับ )

1....          เกมพลิกคลื่น(3G)2100(DTACติดมากกว่าTRUE120ต่อ8สถานี)ส่วนAIS3Gใหม่3,512สถานี/10พฤษภาคมประชุมเพิ่มอัตราย้ายเป็น40000คน/วัน
2....          (เตรียมดำเนิดการฟ้อง)แหล่งข่าวชี้CAT TOTเตรียมฟ้องกทค.(ผิดกฏหมาย)ยอมผู้ให้บริการระบบสัมปทาน(โกยลูกค้า)ย้ายค่ายผ่านทางSMS
3....          สุทธิพล-กสทช.(ถ้ารบCAT)CATส่งเรื่องให้ครม.ไม่คืนคลื่น (ชี้CATต้องคืนคลื่นจะปฏิเสธอำนาจในการเรียกคืนคลื่นของ กสทช.ไม่ได้)


______________________________________________
(เพิ่มเติม)
1....    ประวิทย์(หมอลี่)กสทช. ชี้มาตรฐานการวัดคุณภาพ 2G ปัจจุบันยังค้านสายตา (ยื่นยันเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาต 3G ที่ให้ลดราคา 15% จริง ๆ ชัดเจนลดดราคา ไม่ใช่เพิ่มสิทธิประโยชน์ )
2....     ( กสทช. ลงพื้นที่ ตรวจชาวพม่าหัวใส) ลักลอบเครื่องส่งสัญญาณจูนดาวเทียมไทย ให้บริการเคเบิลชาวพม่า และตั้งโต๊ะบริการโทรออกต่างประเทศนาทีละ 5 บาท
3....     กลุ่มเพาเวอร์บายชี้ ผู้ผลิตTV เป็นสินค้าเร่งระบายสินค้ารุ่นเก่าอย่างเช่น รุ่นแอลซีดี และหันมาผลิต จอแอลอีดี และโอแอลอีดีมากขึ้น เพื่อรองรับกับทีวีระบบดิจิตอล





6 พฤษภาคม 2556 ประวิทย์(หมอลี่)กสทช. ชี้มาตรฐานการวัดคุณภาพ 2G ปัจจุบันยังค้านสายตา (ยื่นยันเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาต 3G ที่ให้ลดราคา 15% จริง ๆ ชัดเจนลดดราคา ไม่ใช่เพิ่มสิทธิประโยชน์ )
ประเด็นหลัก



"กสทช.-ประ วิทย์" มองว่าปีนี้เป็นเรื่องของบริการเก่าที่ต้องเคลียร์และวางกรอบสำหรับบริการ ใหม่ จึงมี 3 เรื่องที่ต้องชัด คือ 3G ที่จะเปิดให้บริการ ต้องตอบให้ได้ว่าอะไรคือหลักประกันคุณภาพ การกำกับให้เป็นไปตามเงื่อนไขใบอนุญาต ไม่ใช่ระบบสัมปทานอีกต่อไป ฉะนั้น ต้องมองทุกมิติให้ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการวัดคุณภาพการให้บริการบน 2G ปัจจุบันยังค้านสายตา เนื่องจากใช้วิธีวัดแบบค่าเฉลี่ย ทุกค่ายจึงผ่านมาตรฐานทุกครั้ง ทั้งที่ผู้บริโภคยังมีปัญหาโทร.เข้าโทร.ออกเน็ตหลุดโหลดช้า

ถัดมาที่ ต้องให้ความสำคัญคือการหมดอายุสัมปทานของทรูมูฟและดีพีซี จะมีผู้บริโภคเกือบ 20 ล้านคนได้รับผลกระทบ แต่ไม่ชัดเจนว่า ก.ย.นี้จะเกิดอะไรขึ้น รวมถึงปัญหา SMS ที่รบกวนประชาชนซึ่งเรื้อรัง คนบ่นเยอะมาก ปัญหา SMS พวกนี้ ตามกฎหมาย กสทช.ต้องออกประกาศหลักเกณฑ์ว่าอะไรทำได้ ทำไม่ได้ แม้จะระบุในแผนแม่บทโทรคมนาคมไว้สั้น ๆ ว่าหลักเกณฑ์ละเอียดจะออกมาภายใน 2 ปี แต่ผ่านไปปีกว่าแล้วยังไม่เห็นแม้แต่ร่างประกาศ เวลานี้จึงเหมือนใครใคร่ค้าก็ค้า อยากส่ง SMS อะไรก็ส่งไป หักเงินผู้บริโภคกันไป ทั้งหวย คลิปหวิว ข่าว

ส่วนการแก้ปัญาวันหมดอายุบริการแบบเติมเงิน (พรีเพด) ที่บอกว่าได้เร่งดำเนินการเพื่อผู้บริโภคและได้ข้อ ยุติแล้ว โดย กทค.มีมติให้แล้วว่าเติมเท่าไรก็ได้ 30 วัน สะสมได้ไม่น้อยกว่า 365 วัน ถ้ายกเลิกบริการค่ายมือถือต้องคืนเงินที่เหลือแต่ก็มีเรื่องแปลก ๆ เข้ามาอีก 2 ค่ายมือถือส่งหนังสือมาขอเก็บค่าบริการรักษาเบอร์วันละ 1 บาททั้งที่ในตลาดมีบริการ "ใจดีแลกวัน" ดีแทคจ่าย 2 บาทได้ 30 วัน ทรูมูฟจ่ายแค่ 3 บาท แต่พอ กทค.กำหนดวันหมดอายุให้เสร็จ ค่ายมือถือกลับจะมาเรียกเก็บเพิ่ม 30 บาท เท่ากับเพิ่มขึ้น 15 เท่า โดยอ้างว่ามีต้นทุนค่าเลขหมายเดือนละ 2 บาท ค่าลงทุนโครงข่ายไว้ สำรองให้เพียงพอการใช้งาน ซึ่งน่าแปลกที่บอกว่าลงทุนให้พอสำหรับ 70 ล้านเบอร์ แต่ตอนนี้มี 30 ล้านเบอร์ยังมีปัญหาโทร.ไม่ออก


สำหรับความ คืบหน้าในการเปิดให้บริการ 3G เดิมสำนักงาน กสทช.มองว่าจะออกสัญญามาตรฐานการให้บริการเป็นสัญญากลางให้ทุกบริษัทต้องใช้ แต่ปัญหาคือสัญญามาตรฐานของ กสทช.ได้เค้าโครงมาแล้ว แต่ยังไม่จัดรับฟังความคิดเห็น ถ้าทำต้องใช้เวลาอีกเป็นเดือน เมื่อแต่ละแห่งอยากเร่งเปิดให้บริการเลยนำสัญญาเฉพาะตัวมาให้ กสทช.พิจารณา ซึ่งส่วนใหญ่ลอกสัญญาเก่า 2G ที่เคยอนุมัติมาใช้ แต่ส่งมาให้กรรมการ กทค.อ่านล่วงหน้าไม่ถึงสัปดาห์ และในบอร์ดพยายามเร่งให้อนุมัติให้เสร็จ

"อย่าง กรณีบางบริษัทระบุในสัญญาว่า ถ้าผู้บริโภคขอข้อมูลการใช้บริการ จะให้เฉพาะข้อมูลการใช้ในเขตพื้นที่เดียวกัน ผมบอกไปว่า ถ้าคนอยากดูข้อมูลการใช้งานก็อยากรู้ทั้งหมด เพื่อให้รู้ว่าค่ายมือถือเก็บเงินผิดหรือเปล่า ไม่ใช่ให้มาเฉพาะการใช้ในเขตพื้นที่เดียวกัน บางคนอ้างว่าเอากฎหมายข้อไหนมาจับ ผมก็บอกไปว่า ม.47 พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม บอกชัดว่าผู้บริโภคมีสิทธิ์ขอได้ หรืออีกกรณีบางบริษัทเขียนว่า การแถมเครื่องมือถือให้ใช้ หากเสียหายผู้บริโภคต้องรับผิดชอบ ผมก็บอกว่า OK แต่ให้เขียนเพิ่มด้วยว่า ห้ามเอาของแถมมาเป็นเงื่อนไขห้ามไม่ให้ผู้บริโภคยกเลิกสัญญาการใช้บริการ เพราะประกาศมาตรฐานสัญญาของ กทช.ข้อ 15 ระบุไว้"

สัญญาการให้บริการ 3G ของแต่ละบริษัท มีหลายข้อไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค ทาง กทค. ก็ใช้ทางออกว่า 3 พ.ค. นี้จะเรียกผู้ให้บริการแต่ละรายมารับทราบและให้ปรับแก้ตามที่สำนักงานขีดฆ่า หรือเพิ่มเติมถ้อยคำไว้ให้ อาทิ การเพิ่มวงเงินค่าบริการต้องให้ผู้บริโภคยินยอมก่อน แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องการกำหนดระยะเวลาในการระงับการใช้บริการชั่วคราวเพราะ บางบริษัทใช้วิธีซ่อนเงื่อนไขไว้ในสัญญา ไม่ได้ระบุวันที่ชัดเจน และ กทค. ไปให้สิทธิบริษัทในการจะกำหนดตัวเลขภายหลังได้ด้วย

"หลักการทุกคนตรง กันว่า สัญญาควรเร่งพิจารณา เพื่อให้เอกชนเปิดให้บริการได้ ผมก็เห็นด้วย แต่ยืนยันชัดเจนว่า สัญญาต้องไม่เอาเปรียบผู้บริโภค แล้วที่แปลกคือสัญญากลางที่สำนักงานร่างขึ้น เสร็จตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ไม่ยอมนำเข้ากระบวนการ พยายามมาเร่งให้พิจารณาสัญญาเฉพาะของแต่ละบริษัทให้เสร็จภายใน 5 วัน 7 วัน ทั้งที่ประกาศว่าเป็นปีทองแห่งการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งมาตรฐานสัญญากลางสำคัญที่สุดในการคุ้มครองผู้บริโภค ถามว่า ถ้าแต่ละบริษัทมีสัญญาเฉพาะตัวแล้ว ใครจะมาใช้สัญญากลาง"

ขณะ ที่เงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาต 3G ที่ให้ลดราคา 15% จริง ๆ ชัดเจนมาแต่ต้นว่าต้อง เป็นการลดราคา ไม่ใช่เพิ่มสิทธิประโยชน์ กสทช.ยืนยันแบบนี้มาตลอด แต่พอเอกชนบอกว่าเพิ่มสิทธิประโยชน์เท่ากับลดราคา ก็เปลี่ยนท่าทีทันที

"ถามจริง ๆ ว่าโปรโมชั่นอันลิมิต ใช้เน็ตไม่อั้นแถมโทร.ฟรี 500 นาที มีคนกี่เปอร์เซ็นต์ใช้ถึงทุกเดือน ต่อให้เพิ่มเป็น 1,000 นาที ก็ไม่ได้ใช้ เท่ากับผู้บริโภคได้ ประโยชน์จริงหรือ ถึงได้อยากให้มีการลดราคา ส่วนการให้เอกชนส่งแพ็กเกจมาก่อนเปิดให้บริการก็ไม่ได้มีกฎหมายบังคับ สมัย กทช.มีแนวคิดที่จะบังคับให้เอกชนส่งข้อมูลมาให้ก่อน แต่ในความเป็นจริงไม่ค่อยส่ง กลัวความลับทางการค้ารั่วไหล ถ้าส่งมา กทช.ก็ตรวจความชอบด้วยกฎหมายไม่ทัน เพราะแพ็กเกจแต่ละเดือนมีเยอะมาก แต่ถึงไม่ส่งมาให้ก่อน ถ้า กสทช.เอาจริง การสำรวจตลาดดูแพ็กเกจที่เปิดให้บริการก็ไม่ใช่เรื่องยาก เป็นสิ่งที่ทำได้ อยู่ที่ว่าจะทำจริงจังแค่ไหน ไม่ใช่ลงไปดูแต่ข้อมูลที่เอกชนเตรียมไว้ให้เท่านั้น"

พร้อมกับยก ตัวอย่างอีกว่า การกำกับค่าบริการตามประกาศอัตราค่าบริการขั้นสูง ถ้ามีการลงสำรวจตลาดจริง ๆ ดูแพ็กเกจที่เปิดให้บริการจริงจะเห็นว่ามีการเก็บค่าใช้งานเกินแพ็กเกจใน อัตรานาทีละ 1.5 บาท ซึ่งเกิน 99 สตางค์ แต่ยังปล่อยปละ แถมออกมาประกาศว่าเอกชนทำถูกต้องแล้ว แบบนี้ก็ไม่รู้ว่าใครโง่ กสทช. เอกชน หรือเห็นว่าผู้บริโภคโง่" กสทช.ประวิทย์ย้ำทิ้งท้าย





http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1367839336&grpid=&catid=06&subcatid=0603


____________________________________

6 พฤษภาคม 2556 ( กสทช. ลงพื้นที่ ตรวจชาวพม่าหัวใส) ลักลอบเครื่องส่งสัญญาณจูนดาวเทียมไทย ให้บริการเคเบิลชาวพม่า และตั้งโต๊ะบริการโทรออกต่างประเทศนาทีละ 5 บาท

ประเด็นหลัก


หลังได้รับแจ้งเบาะแสจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า พบคนต่างด้าวชาวพม่าได้ลักลอบนำเครื่องโทรศัพท์ และเครื่องส่งสัญญาณโทรศัพท์จากประเทศพม่าลักลอบเข้ามาติดตั้งในฝั่ง จ.ระนอง เพื่อเชื่อมต่อกับสัญญาณดาวเทียมของไทยจูนหาคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ จากนั้นได้แอบเปิดบริการโดยตั้งจุดบริการโทรออกต่างประเทศคิดค่าบริการนาทีละ 5 บาท พบกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้แรงงานต่างด้าวชาวพม่า

สำหรับจุดที่พบมีการให้บริการในรูปแบบดังกล่าวคือบริเวณบ้านปากคลอง ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนต่างด้าวชาวพม่าแหล่งใหญ่ที่มีแรงงานต่างด้าวชาวพม่าอยู่อาศัยกว่า 30,000 คน โดยทราบว่ามีผู้เปิดให้บริการรูปแบบดังกล่าวหลายราย ซึ่งชาวบ้านหวั่นเกรงว่าจะกระทบความมั่นคง และเป็นการใช้คลื่นความถี่ผิดกฏหมายจึงออกมาแจ้งเบาะแสและเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ

นายวัลลภ กล่าวว่า กำลังประสาน จนท.กสทช.จากส่วนกลาง เนื่องจากอำนาจของ กสทช.ในพื้นที่ไม่ได้ครอบคลุม โดยจะเข้าไปตรวจสอบโดยเร็วที่สุดทั้งนี้เพราะคาดว่าน่าจะผิดกฏหมายการประกอบกิจการเพราะมีการตั้งโต๊ะเปิดให้บริการ รวมถึงการติดตั้งเครื่องที่ไม่ได้รับอนุญาต สำหรับการโทรออกต่างประเทศหรือโทรข้ามแดน จะต้องดำเนินการโดยผ่านโอเปอเรเตอร์ของบริษัทผู้ให้บริการ ซึ่งมีค่าใช้จ่าย แต่กลุ่มที่ดำเนินการเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ใช้โอเปอร์เรเตอร์ เป็นการเชื่อมต่อ ไม่ต้องจ่ายค่าอินเตอร์คอนเน็กชั่น เป็นการเชื่อมต่อโดยตรงซึ่งปัญหานี้เคยเกิดขึ้นที่ชายแดนด้านเขมรก่อนหน้านี้ ซึ่งตนเคยดำเนินการมาแล้ว

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130505/503847/%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8
%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E
0%B8%9A%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%
88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0
%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%97
..html

______________________________________

6 พฤษภาคม 2556 กลุ่มเพาเวอร์บายชี้ ผู้ผลิตTV เป็นสินค้าเร่งระบายสินค้ารุ่นเก่าอย่างเช่น รุ่นแอลซีดี และหันมาผลิต จอแอลอีดี และโอแอลอีดีมากขึ้น เพื่อรองรับกับทีวีระบบดิจิตอล

ประเด็นหลัก



น.ส.สอางทิพย์ อมรฉัตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท เพาเวอร์บาย เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายรายต่างเร่งระบายสต๊อกสินค้ากันจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ผลิตโทรทัศน์ที่ต่างออกมาเร่งระบายสินค้ารุ่นเก่าอย่างเช่น รุ่นแอลซีดี และหันมาผลิตสินค้ารุ่นใหม่ประเภทจอแอลอีดี และโอแอลอีดีมากขึ้น เพื่อรองรับกับทีวีระบบดิจิตอลที่กำลังจะเกิดขึ้นในเมืองไทย

“ผู้ประกอบการต่างเร่งระบายสต๊อกทีวีรุ่นเก่ากันมากเพื่อต้องการขายสินค้าใหม่ และยังเป็นการรองรับกับระบบทีวีดิจิตอลที่จะแจ้งเกิด ส่วนทีวีรุ่นเก่าจะดูทีวีระบบดิจิตอล อาจจะต้องมีการติดตั้งตัวกล่องเพิ่มเพื่อรับสัญญาณ ขณะที่ทีวีรุ่นใหม่ที่เป็นระบบดิจิตอลในช่วงแรกราคาจะสูงกว่ารุ่นเก่าเกือบ 30%” น.ส.สอางทิพย์ กล่าว

http://www.posttoday.com/%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8
%A5%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C/220421/%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8
%97%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0
%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A5

______________________________________

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.