Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

8 พฤษภาคม 2556 (เว็บสำนักนายกรัฐมนตรีโดนเล่น+++) ICT เร่งหาคนแฮกถือเป็นอาชญากรรม ตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ 50 (ย้ำการกับเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน ได้รับมือกับทุกภาคส่วน)


ประเด็นหลัก


 ช่วงเที่ยงวันนี้ (8 พ.ค.) มีรายงานระบุว่า เว็บไซต์สำนักนายกรัฐมนตรีในส่วนหน้าของรายชื่อคณะรัฐมนตรี http://www.opm.go.th/opminter/mainframe.asp ได้ถูกแฮกเกอร์ในนาม Unlimited Hack Team!!! ทำการเปลี่ยนชื่อตำแหน่งของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็น I'm a slutty moron. พร้อมระบุข้อความด้านล่างรูป น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า I know that I am the worst Prime Minister ever in Thailand history!!! ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า “ฉันรู้ว่าฉันคือนายกรัฐมนตรีที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย!!!”
   
       สำหรับคำว่า Slutty Moron นั้นเป็นคำสแลงที่เป็นคำหยาบในภาษาอังกฤษ โดยคำว่า Slutty นั้นเป็นคำคุณศัพท์มีความหมายว่า “สำส่อน” ส่วน Moron นั้นเป็นคำนามที่มีความหมายว่า “ผู้ที่มีความพิการทางสมอง”
   
       ล่าสุดในช่วง 13.00 น.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปตรวจสอบเว็บไซต์ของสำนักนายกรัฐมนตรีอีกครั้งก็พบว่าไม่สามารถเข้าถึงได้แล้ว
   



ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที กล่าวว่า ตามกระบวนการ หากมีเว็บไซต์ใดๆ ของหน่วยงานรัฐโดนแฮก ทางไอซีทีและกองปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) จะเข้าไปจุดเกิดเหตุเพื่อตรวจสอบหลักฐานและสืบค้นไปยังแหล่งที่มาว่าโดนแฮกมาจากที่ใด ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาเช่นเดียวกับการหาหลักฐานเหตุอาชญากรรม

สำหรับกรณีเว็บหมิ่นประมาทนายกฯ เป็นความเสียหายที่มีผู้แจ้งความร้องทุกข์ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งนี้ หากบุคคลใดก็ตามโดนหมิ่นประมาท และตกเป็นผู้เสียหาย สามารถแจ้งความกับสถานีตำรวจได้ทุกแห่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพิจารณาหากเข้าข่ายจะส่งต่อไปยังอัยการ และส่งไปยังศาลต่อไป และยืนยันว่าไม่ได้เลือกปฏิบัติเฉพาะเว็บนายกเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม การใช้ช่องทางเว็บไซต์กระทำผิดกฎหมายใดโดยเฉพาะการกล่าวหา คุกคาม ให้ร้ายดูถูกดูแคลน หรือใช้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อบุคคลอื่น และทำให้บุคคลนั้นเกิดความเสียหาย อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 หรือเข้าข่ายการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา


ทั้งนี้ มีรายงานว่า แฮกเกอร์ที่เข้ามาแฮกเว็บไซต์สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาเปลี่ยนข้อมูล นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ในส่วนที่เป็นประวัติส่วนตัว และได้เปลี่ยนรูปของนายกรัฐมนตรี รวมทั้งได้ใช้ข้อความภาษาอังกฤษที่ไม่เหมาะสมและหยาบคายกับนายกรัฐมนตรี และล่าสุด เว็บไซต์ดังกล่าวไม่สามารถเข้าไปดูข้อมูลภายในได้แล้ว




รมว.ไอซีที กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินการกับเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน เป็นการดำเนินการร่วมกันของทุกภาคส่วน ไม่เฉพาะกระทรวงไอซีที แต่ยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคง ที่ทุกคนที่รับผิดชอบให้ความสำคัญสูงสุด ดังนั้น ผู้รับผิดชอบทุกคนเป็นข้าราชการประจำและข้าราชการการเมืองที่จงรักภักดี และเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างไรก็ตาม การกล่าวหาว่า ไม่ดำเนินการกับเว็บหมิ่น ปล่อยปละละเลย จึงไม่เป็นความจริง และคงไม่มีใครผู้ใดสามารถบงการข้าราชการทุกคน ไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองได้แน่นอน.




______________________________________


ไอซีทีเร่งล่าตัวมือแฮกเว็บ-โพสต์ด่าปู


ไอซีทีเตรียมสรุปข้อมูลเว็บไซต์สำนักนายกฯถูกแฮก9พ.ค. เผยกลุ่มถูกอ้างเป็นผู้ก่อเหตุปฏิเสธแล้ว "สุรนันทน์" เชื่อเหตุจากไม่พอใจเรื่องการเมือง

นายไชยยันต์ พึ่งเกียรติไพโรจน์ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่าในวันที่  9 พ.ค. จะมีการสรุปข้อมูลอย่างเป็นทางกรณีเว็บไซต์สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีถูกแฮกเกอร์โจมตี

ทั้งนี้เบื้องต้นกลุ่ม Unlimited Hack Team ที่มีชื่อปรากฎอยู่ในหน้าเว็บเพจที่ถูกแฮกนั้น ได้ปฏิเสธผ่านทางเฟซบุ๊กว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าว พร้อมเชื่อว่าเป็นการป้ายความผิด

ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที กล่าวว่า ตามกระบวนการ หากมีเว็บไซต์ใดๆ ของหน่วยงานรัฐโดนแฮก ทางไอซีทีและกองปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) จะเข้าไปจุดเกิดเหตุเพื่อตรวจสอบหลักฐานและสืบค้นไปยังแหล่งที่มาว่าโดนแฮกมาจากที่ใด ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาเช่นเดียวกับการหาหลักฐานเหตุอาชญากรรม

สำหรับกรณีเว็บหมิ่นประมาทนายกฯ เป็นความเสียหายที่มีผู้แจ้งความร้องทุกข์ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งนี้ หากบุคคลใดก็ตามโดนหมิ่นประมาท และตกเป็นผู้เสียหาย สามารถแจ้งความกับสถานีตำรวจได้ทุกแห่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพิจารณาหากเข้าข่ายจะส่งต่อไปยังอัยการ และส่งไปยังศาลต่อไป และยืนยันว่าไม่ได้เลือกปฏิบัติเฉพาะเว็บนายกเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม การใช้ช่องทางเว็บไซต์กระทำผิดกฎหมายใดโดยเฉพาะการกล่าวหา คุกคาม ให้ร้ายดูถูกดูแคลน หรือใช้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อบุคคลอื่น และทำให้บุคคลนั้นเกิดความเสียหาย อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 หรือเข้าข่ายการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา

ด้าน นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มั่นใจว่า จะสามารถค้นหาผู้กระทำการได้โดยเร็ว เพราะปัจจุบันการแฮกเว็บไซต์ทำได้ง่าย แม้จะมีระบบการป้องกันอย่างดี แต่สามารถตรวจสอบได้ และเตรียมดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550 เชื่อว่า ผู้กระทำการจะมีเจตนากลั่นแกล้ง เพราะไม่พอใจในประเด็นทางการเมือง

ขณะที่ น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอประนามการแฮกเว็บไซต์และโพสต์ข้อความโจมตีนายกฯว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างร้ายแรง ขอเรียกร้องให้ผู้มีเจตนาไม่หวังดีหยุดการกระทำดังกล่าวและให้เกียรตินายกฯในฐานะที่เป็นตัวแทนของประชาชน

"การกระทำในลักษณะนี้เป็นการสะท้อนมุมมองและความคิดของคนบางกลุ่มที่ฝังรากลึกในสังคมไทย ยิ่งมีการกล่าวหาในทำนองนี้มากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นการหมดหนทางสู้ของคนบางพวก หากรักประเทศไทยจริงก็ขอให้หยุดการกระทำที่ไม่ให้เกียรติผู้อื่นโดยเฉพาะผู้หญิง"น.ส.อนุตตมากล่าว


http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%
AD%E0%B8%87/220957/%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%
80%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0
%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%A
E%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A-
%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%
B8%9B%E0%B8%B9


_______________________________________________________


โดนแล้ว!แฮกเกอร์เจาะเว็บสำนักนายกฯใส่ข้อความโจมตี"ปู"






โดนแล้ว! เว็บไซต์สำนักนายกรัฐมนตรี ถูกแฮกเกอร์เจาะระบบ แก้ไขภาพ และใส่ข้อความโจมตีนายกรัฐมนตรี ขณะ "อนุดิษฐ์" ยอมรับโดนจริงเร่งแก้ไขอยู่...

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 8 พ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์สำนักนายกรัฐมนตรี (http://www.opm.go.th) ถูกผู้ไม่ประสงค์ดีลักลอบเจาะเข้าไปในระบบและแก้ไขข้อความ หรือภาพ ในส่วนคำอธิบายคณะรัฐมนตรี ส่วนย่อย นายกรัฐมนตรี โดยผู้ไม่ประสงค์ดี นำภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในอิริยาบถอื่นที่ไม่ใช่ภาพที่ใช้ในการแสดงผังโครงสร้างคณะรัฐมนตรี และข้อความภาษาอังกฤษใส่เพิ่มไว้ในส่วนดังกล่าว เนื้อหาข้อความดังกล่าวเป็นการกล่าวหา ด่าว่า นายกรัฐมนตรี

ขณะที่จากการสอบถามไปยัง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที กล่าวกับไทยรัฐออนไลน์ โดยยอมรับว่า เว็บไซต์สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดนแฮกเกอร์เจาะระบบ เข้าไปใส่ข้อความไม่เหมาะสมต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจริง โดยเบื้องต้น เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการแก้ไข ซึ่งอาจทำให้เข้าสู่เว็บไซต์ดังกล่าวไม่ได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง

ส่วนในรายละเอียดว่า เป็นการแฮกเข้ามาในระบบจากที่ไหน อย่างไร ใช้เวลาประมาณกี่นาทีนั้น คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบให้เสร็จสิ้นเสียก่อนจึงจะแจ้งรายละเอียดได้

ทั้งนี้ มีรายงานว่า แฮกเกอร์ที่เข้ามาแฮกเว็บไซต์สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาเปลี่ยนข้อมูล นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ในส่วนที่เป็นประวัติส่วนตัว และได้เปลี่ยนรูปของนายกรัฐมนตรี รวมทั้งได้ใช้ข้อความภาษาอังกฤษที่ไม่เหมาะสมและหยาบคายกับนายกรัฐมนตรี และล่าสุด เว็บไซต์ดังกล่าวไม่สามารถเข้าไปดูข้อมูลภายในได้แล้ว

ด้าน นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้ประสานไปยัง ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวง ICT ตรวจสอบ โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวแล้ว โดยทางกระทรวง ICT กำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบต้นตอ ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่นาน

ทั้งนี้ นายสุรนันท์ ยอมรับว่า ปัจจุบันการเข้าไปแฮกข้อมูลตามเว็บไซต์ต่างๆ สามารถทำได้ง่าย แต่อยากเรียกร้องว่า เว็บไซต์ดังกล่าวเป็นของทางราชการ เพื่อประโยชน์ในการให้ความรู้และข้อมูลข่าวสารกับประชาชน ไม่ใช่เว็บไซต์ทางการเมือง หรือเว็บไซต์ส่วนตัวเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง ดังนั้น จึงไม่ควรเข้ามาแฮกเว็บไซต์ของทางราชการ ซึ่งจะไม่เกิดผลดี



โดย: ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/pol/343534

________________________________________________


มือดีแฮกเว็บสำนักนายกฯ ด่า “ยิ่งลักษณ์” เย้ย ICT


แฮกเกอร์เย้ยคำขู่กระทรวงไอซีที แฮกเว็บสำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา เปลี่ยนชื่อ-ตำแหน่ง-รูปยิ่งลักษณ์ พร้อมเขียนคำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ I'm a slutty moron ล่าสุดเว็บไซต์ดังกล่าวไม่สามารถเข้าได้แล้ว
     
       ช่วงเที่ยงวันนี้ (8 พ.ค.) มีรายงานระบุว่า เว็บไซต์สำนักนายกรัฐมนตรีในส่วนหน้าของรายชื่อคณะรัฐมนตรี http://www.opm.go.th/opminter/mainframe.asp ได้ถูกแฮกเกอร์ในนาม Unlimited Hack Team!!! ทำการเปลี่ยนชื่อตำแหน่งของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็น I'm a slutty moron. พร้อมระบุข้อความด้านล่างรูป น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า I know that I am the worst Prime Minister ever in Thailand history!!! ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า “ฉันรู้ว่าฉันคือนายกรัฐมนตรีที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย!!!”
     
       สำหรับคำว่า Slutty Moron นั้นเป็นคำสแลงที่เป็นคำหยาบในภาษาอังกฤษ โดยคำว่า Slutty นั้นเป็นคำคุณศัพท์มีความหมายว่า “สำส่อน” ส่วน Moron นั้นเป็นคำนามที่มีความหมายว่า “ผู้ที่มีความพิการทางสมอง”
     
       ล่าสุดในช่วง 13.00 น.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปตรวจสอบเว็บไซต์ของสำนักนายกรัฐมนตรีอีกครั้งก็พบว่าไม่สามารถเข้าถึงได้แล้ว
     
       การกระทำดังกล่าวถือเป็นการท้าทายของรัฐบาล และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีทีอย่างชัดเจน เนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 พ.ค. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่ากรณีที่มีการตรวจพบข้อความด่าทอ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทางกระทรวงไอซีทีถือเป็นผู้ที่มีหน้าที่โดยตรง ซึ่งหากได้รับแจ้งหรือตรวจพบจะทำการติดต่อขอให้เจ้าของเว็บไซต์นั้นๆ ทำการลบข้อความดังกล่าวทันที นอกจากนี้ หากว่ามีการเปิดเว็บไซต์ที่ตั้งขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ในการด่าทอ ว่าร้าย หมิ่นประมาทเป็นการโดยเฉพาะ ทางกระทรวงก็ถือได้ว่ามีอำนาจในการระงับการใช้งานเว็บไซต์ดังกล่าวทันทีเช่นกัน พร้อมระบุด้วยว่าโทษจากการโพสต์ข้อความด่าทอ ว่าร้ายผู้อื่นให้เกิดความเสียหาย ทางเว็บไซต์จะเข้าข่ายมีความผิดข้อหาหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตราที่ 326 มีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
     
       ก่อนที่วานนี้ (7 พ.ค.) น.อ.อนุดิษฐ์จะออกมายอมรับว่ากระทรวงไอซีทีไม่มีอำนาจในการปิดเว็บไซต์ เพราะการปิดเว็บไซต์ต้องเป็นอำนาจจากศาลเท่านั้น
     
       ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงไอซีทีเข้าตรวจสอบโดยทันที เบื้องต้นต้องรอผลการตรวจสอบอัตลักษณ์อาชญากรรม บนระบบคอมพิวเตอร์ก่อน จึงจะสามารถให้ข้อมูลที่ชัดเจนต่อไปได้
     
       ส่วนเรื่องนี้จะกระทบรัฐบาลหรือการทำงานของนายกฯหรือไม่นั้น น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ทั่วโลกประสบปัญหาดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งเราได้มีการวางระบบป้องกันไว้แต่ก็ต้องมีการปรับปรุงและแก้ไขให้มีความปลอดภัย ทั้งนี้เห็นว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นผลมาจากการแถลงข่าวเรื่องการดูแลการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์เมื่อวานนี้ของกระทรวงไอซีที เพราะการแถลงมีเนื้อหาที่ทำความเข้าใจถึงสิทธิของประชาชนในการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานขอรัฐบาล ไม่ใช่การปิดกั้น อย่างไรก็ตามต้องรอเจ้าหน้าที่ประเมินเบื้องต้นก่อนว่าต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเท่าใด
     
       ด้านนายณัฐ พยงค์ศรี นักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ พนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ตามขั้นตอนแล้วศูนย์เทคโนโลยีของสำนักนายกฯต้องแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่ และเก็บข้อมูลการเข้าใช้งาน เจ้าหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบ และส่งเรื่องมาที่กระทรวงไอซีที ซึ่งขณะนี้ไอซีทียังไม่สามารถสรุปว่าใครเป็นผู้กระทำได้ ต้องรอตรวจสอบข้อมูลก่อน
     
       นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นฝีมือกลุ่มไหน ทางไอซีทีกำลังตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ อยากขอร้องว่าเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นของทางราชการ เพื่อให้บริการกับประชาชนในเรื่องข้อมูลข่าวสารต่างๆ ไม่ใช่เว็บไซต์ทางการเมือง เมื่อถามว่าทำไมเว็บไซต์ทางราชการถึงถูกแฮกได้ง่าย นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ความเป็นจริงเจ้าหน้าที่ไม่ได้ประมาท จัดระบบป้องกันอย่างดี แต่มีช่องโหว่ให้ผู้ที่จ้องกระทำสามารถเข้ากระทำการเช่นนี้ได้ตลอด
     
       ขณะที่ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเว็บไซต์ สปน.ถูกแฮกโพสต์ข้อความโจมตีนายกฯ ว่า การวิพากษ์วิจารณ์นายกฯ ผ่านโซเชียลมีเดียในทางลบตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมามีความเกี่ยวเนื่องกัน รวมถึงการแฮกเว็บไซต์สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ที่มีการโพสต์ภาพนายกฯ พร้อมข้อความไม่เหมาะสม ไม่อยากให้นำไปเผยแพร่ต่อ เรียกร้องทุกกลุ่ม รวมถึงพรรคการเมืองเก่าแก่ช่วยกันพัฒนาประเทศ มากกว่าใช้โซเชียลมีเดียโจมตีกัน
     
       ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. กลุ่ม Unlimited Hack Team ซึ่งถูกอ้างถึงในการแฮกเว็บไซต์สำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาปฏิเสธการกระทำดังกล่าวผ่านแฟนเพจกลุ่ม โดยระบุว่า มีหลายคนถามเข้ามาทางข้อความ และมีหลายแฟนเพจแชร์ข่าวนี้พร้อมบรรยายว่าเป็นการกระทำของ Unlimited Hack Team ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มีสมาชิกคนใดของ Unlimited Hack Team เป็นคนเข้าไปแฮกเว็บไซต์สำนักนายก
     
       “ผมจึงอยากออกมาประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า Unlimited Hack Team ไม่ได้เข้าไปก่อกวนเว็บไซต์สำนักนายก และที่มีข้อความขึ้นว่า Unlimited hack Team อยู่ด้วย อาจเป็นเพราะมีแฮกเกอร์บางท่านหรือบางกลุ่มมีความคิดที่จะโยนความผิดมาให้ Unlimited Hack Team ซึ่งทุกๆครั้งหากเราได้แฮกเว็บไซต์ใด เราก็จะออกมายอมรับการกระทำของเรา แต่ครั้งนี้ขอให้ทุกท่านรอเวลาที่ตำรวจจับผู้กระทำความผิดตัวจริงมาลงโทษ แล้วท่านจะได้รู้ว่าใครเป็นคนทำ” เฟซบุ๊กกลุ่ม Unlimited Hack Team ระบุ


http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000055161

_____________________________________________________



รมว.ICT ปัดข้อหา ละเลยเว็ปหมิ่นสถาบันฯ
หน้าหลัก » วิทยาการ-ไอที » IT Update

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที เผยยอดแจ้งความเอาผิดเว็บหมิ่นนายกฯ มีแค่ 1 ระบุไม่ใช่เฉพาะนายกฯ ทุกคนมีสิทธิ์แจ้งความเอาผิดกับผู้ที่หมิ่นประมาททางเว็บไซต์ได้ ยืนยันทุกหน่วยงานงที่เกี่ยวข้องไม่ละเลยเว็บหมิ่นสถาบันฯ...

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 56 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการดำเนินการกับเว็บหมิ่นประมาท น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า เท่าที่ทราบมีการฟ้องร้องเพียงเรื่องเดียวสำหรับเรื่องการสั่งปิดเว็บไซต์เป็นอำนาจของศาลอาญาเท่านั้น ส่วนกระทรวงไอซีทีเป็นผู้รักษาการ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ปี 2550 ดังนั้น จึงไม่มีอำนาจในการสั่งปิดกั้นเว็บไซต์ โดยหลังจากศาลอาญามีคำพิพากษาให้ทำการปิดกั้นเว็บไซต์นั้น กระทรวงไอซีทีจะเป็นผู้แจ้งคำสั่งศาลดังกล่าวให้กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทุกราย เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งต่อไป

รมว.ไอซีที กล่าวต่อว่า กรณีเว็บหมิ่นประมาทนายกฯ เป็นความเสียหายที่มีผู้แจ้งความร้องทุกข์ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งนี้ หากบุคคลใดก็ตามโดนหมิ่นประมาท และตกเป็นผู้เสียหาย สามารถแจ้งความกับสถานีตำรวจได้ทุกแห่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพิจารณาหากเข้าข่ายจะส่งต่อไปยังอัยการ และส่งไปยังศาลต่อไป เนื่องจากการใช้ช่องทางเว็บไซต์กระทำผิดกฎหมายใด โดยเฉพาะการกล่าวหา คุกคาม ให้ร้ายดูถูกดูแคลน หรือใช้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อบุคคลอื่น และทำให้บุคคลนั้นเกิดความเสียหาย อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 (พ.ร.บ.คอมพ์ 2550) หรือเข้าข่ายการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา

“ไม่ใช่เฉพาะนายกฯ การหมิ่นประมาททางเว็บไซต์เฉพาะตัว ผู้ที่ได้รับความเสียหายสามารถแจ้งความดำเนินคดีกับสถานีตำรวจได้ทุกแห่ง แล้วตำรวจจะพิจารณาว่าเข้าข่ายของการกระทำผิดหรือไม่ หากเข้าข่ายความผิดจะส่งต่อไปยังอัยการ และส่งศาลเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

รมว.ไอซีที กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินการกับเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน เป็นการดำเนินการร่วมกันของทุกภาคส่วน ไม่เฉพาะกระทรวงไอซีที แต่ยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคง ที่ทุกคนที่รับผิดชอบให้ความสำคัญสูงสุด ดังนั้น ผู้รับผิดชอบทุกคนเป็นข้าราชการประจำและข้าราชการการเมืองที่จงรักภักดี และเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างไรก็ตาม การกล่าวหาว่า ไม่ดำเนินการกับเว็บหมิ่น ปล่อยปละละเลย จึงไม่เป็นความจริง และคงไม่มีใครผู้ใดสามารถบงการข้าราชการทุกคน ไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองได้แน่นอน.





โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/343523

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.