Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

10 กรกฎาคม 2556 (CAT model) TOT3G เตรียมตัดสินใจ หาผู้ร่วมทุน!! 30,000 ล้านบาท (โดยจะกู้ให้น้อยที่สุด) เพิ่มอีกราว 9,000 สถานี // เซ็นแน่นอน MVNO ใหม่กับ i-mobile3G สัดส่วนรายได้ ทีโอที 46% ไอ-โมบาย 54%



ประเด็นหลัก



"ผมยังไม่ขอสรุปผลประกอบการของทีโอที ที่มีข่าวระบุไปว่าหากทีโอทียังไม่ดำเนินการโครงการที่สร้างรายได้ จะทำให้ปี 2557 ทีโอทีจะขาดทุนทันที 4,500 ล้านบาท แต่หากทีโอทีดำเนินการธุรกิจตามแผนฟื้นฟูได้จะส่งผลให้ไม่ขาดทุน แต่จะมีกำไรถึง 400 ล้านบาท เพราะขอให้ฝ่ายการเงินสรุปตัวเลขส่งมาให้พิจารณาก่อน”

ส่วนโครงการที่ทีโอทีจะต้องเร่งทำรายละเอียดเพิ่มเติมตามที่รัฐมนตรีว่าการไอซีทีกำชับนั้น ประกอบด้วย 4 โครงการหลัก ได้แก่ 1.โครงการ 3จีเฟส 1 ที่คาดว่าจะติดตั้งได้ครบ 5,320 สถานีฐานภายในเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งปัจจุบันติดตั้งไปแล้ว 4,800 สถานีฐาน และมีลูกค้าแล้ว 310,000 ราย คิดเป็นสถานีฐานที่พร้อมออนแอร์แล้ว 86%

รวมไปถึงความคืบหน้า 3จี เฟส2 ที่จะของบ 30,000 ล้านบาทขยายสถานีฐานเพิ่มอีกราว 9,000 สถานีฐาน โดยเฟส 2 นี้ ทีโอทีจะเปลี่ยนแนวทางการบริหารใหม่ ไม่อาศัยการกู้ยืมเงินมาสร้างสถานีฐานเพียงอย่างเดียว ซึ่งเบื้องต้นยังไม่คืบหน้าว่าจะให้การกู้ยืมเป็นสัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์ หรือการร่วมทุนดำเนินการ เบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนก.ค. นี้ว่าจะดำเนินการรูปแบบใด กู้ หรือร่วมทุน

ขณะที่ความคืบหน้าการทำตลาดบนโครงข่ายเสมือน (เอ็มวีเอ็นโอ) ซึ่งการประชุมบอร์ดวันที่ 24 ก.ค.นี้ จะเซ็นสัญญาใหม่รองรับการทำตลาดเอ็มวีเอ็นโอกับบมจ.สามารถ ไอโมบาย โดยระหว่างนี้ได้ส่งร่างสัญญาเอ็มวีเอ็นโอให้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นผู้ตรวจสอบแล้ว

อย่างไรก็ดี คาดว่า อย่างเร็วที่สุดการเซ็นสัญญากับไอ-โมบายน่าจะเสร็จในช่วงพอดีกับการติดตั้งโครงข่าย 3จีเสร็จครบ 5,320 แห่ง เบื้องต้นไอโมบายได้ขอทำตลาดจำนวน 40% ของปริมาณความจุโครงข่ายทั้งหมด หรือคาปาซิตี้ที่มี 7.2 ล้านเลขหมาย ไอ-โมบายจะได้ทำตลาด 2.28 ล้านเลขหมาย สัดส่วนรายได้ ทีโอที 46% ไอ-โมบาย 54% ซึ่งสาเหตุที่เอกชนได้ส่วนแบ่งมากกว่าเพราะต้องรับผิดชอบค่าการทำตลาดด้วย

















______________________________________






'ทีโอที' ระดมสมองหาช่องอุดรายได้วูบ


ทีโอทีเรียกประชุมผู้บริหารด่วนหลัง"รมว.ไอซีที" กระทุ้งรีบหารายได้ชดเชยสัมปทาน ซีอีโอเรียกร้อง - ระดับปฏิบัติการหารือแนวทางชดเชยรายได้ทุกมิติ


นายยงยุทธ วัฒนสินธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที กล่าวว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะเรียกประชุมผู้บริหารทีโอทีระดับรองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานต่างๆ และฝ่ายปฏิบัติการทุกส่วนมาหารือถึงแผนยุทธศาสตร์เพื่อฟื้นฟูขององค์กร (เทิร์นอะราวด์) ระยะเวลา 5 ปีตั้งแต่ปี 2556-2560 โดยยอมรับว่า ที่ผ่านมาทีโอทีติดปัญหาภายในและความล่าช้าที่เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทำให้แผนการดำเนินงานโครงการต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมายไว้

ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมา น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้กำชับให้ทีโอทีเร่งหาแผนการให้บริการ และปรับยุทธศาสตร์องค์กร เพื่อป้องกันไม่ให้ทีโอทีประสบปัญหาขาดทุน หากไม่มีรายได้จากสัญญาสัมปทานที่บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) นำส่งปีละ 20,000 ล้านบาท

"ผมยังไม่ขอสรุปผลประกอบการของทีโอที ที่มีข่าวระบุไปว่าหากทีโอทียังไม่ดำเนินการโครงการที่สร้างรายได้ จะทำให้ปี 2557 ทีโอทีจะขาดทุนทันที 4,500 ล้านบาท แต่หากทีโอทีดำเนินการธุรกิจตามแผนฟื้นฟูได้จะส่งผลให้ไม่ขาดทุน แต่จะมีกำไรถึง 400 ล้านบาท เพราะขอให้ฝ่ายการเงินสรุปตัวเลขส่งมาให้พิจารณาก่อน”

ส่วนโครงการที่ทีโอทีจะต้องเร่งทำรายละเอียดเพิ่มเติมตามที่รัฐมนตรีว่าการไอซีทีกำชับนั้น ประกอบด้วย 4 โครงการหลัก ได้แก่ 1.โครงการ 3จีเฟส 1 ที่คาดว่าจะติดตั้งได้ครบ 5,320 สถานีฐานภายในเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งปัจจุบันติดตั้งไปแล้ว 4,800 สถานีฐาน และมีลูกค้าแล้ว 310,000 ราย คิดเป็นสถานีฐานที่พร้อมออนแอร์แล้ว 86%

รวมไปถึงความคืบหน้า 3จี เฟส2 ที่จะของบ 30,000 ล้านบาทขยายสถานีฐานเพิ่มอีกราว 9,000 สถานีฐาน โดยเฟส 2 นี้ ทีโอทีจะเปลี่ยนแนวทางการบริหารใหม่ ไม่อาศัยการกู้ยืมเงินมาสร้างสถานีฐานเพียงอย่างเดียว ซึ่งเบื้องต้นยังไม่คืบหน้าว่าจะให้การกู้ยืมเป็นสัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์ หรือการร่วมทุนดำเนินการ เบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนก.ค. นี้ว่าจะดำเนินการรูปแบบใด กู้ หรือร่วมทุน

ขณะที่ความคืบหน้าการทำตลาดบนโครงข่ายเสมือน (เอ็มวีเอ็นโอ) ซึ่งการประชุมบอร์ดวันที่ 24 ก.ค.นี้ จะเซ็นสัญญาใหม่รองรับการทำตลาดเอ็มวีเอ็นโอกับบมจ.สามารถ ไอโมบาย โดยระหว่างนี้ได้ส่งร่างสัญญาเอ็มวีเอ็นโอให้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นผู้ตรวจสอบแล้ว

อย่างไรก็ดี คาดว่า อย่างเร็วที่สุดการเซ็นสัญญากับไอ-โมบายน่าจะเสร็จในช่วงพอดีกับการติดตั้งโครงข่าย 3จีเสร็จครบ 5,320 แห่ง เบื้องต้นไอโมบายได้ขอทำตลาดจำนวน 40% ของปริมาณความจุโครงข่ายทั้งหมด หรือคาปาซิตี้ที่มี 7.2 ล้านเลขหมาย ไอ-โมบายจะได้ทำตลาด 2.28 ล้านเลขหมาย สัดส่วนรายได้ ทีโอที 46% ไอ-โมบาย 54% ซึ่งสาเหตุที่เอกชนได้ส่วนแบ่งมากกว่าเพราะต้องรับผิดชอบค่าการทำตลาดด้วย

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130710/516352/%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B
8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B5-
%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%
B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9
4%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%B9%E0%
B8%9A.html



_____________________________



TOTเล็งปรับแผนทำ3Gเฟส2 ส่อให้ผู้สนใจร่วมลงทุน

TOTเล็งปรับแผนทำ3Gเฟส2

ส่อให้ผู้สนใจร่วมลงทุน

ลดภาระเงิน3หมื่นล้าน

นายยงยุทธ วัฒนสินธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือTOT เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้านี้จะมีการเรียกประชุมผู้บริหารทีโอที ระดับรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานต่างๆ และฝ่ายปฎิบัติการทุกส่วนมาหารือถึงแผนยุทธศาสตร์เพื่อฟื้นฟูขององค์กร ระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2556-2560 โดยยอมรับว่า ที่ผ่านมา ทีโอที ติดปัญหาภายใน และความล่าช้าที่เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทำให้แผนการดำเนินงานในโครงการต่างๆไม่เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมายไว้

                  ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) กำชับให้ ทีโอที เร่งหาแผนการให้บริการ และปรับยุทธศาสตร์องค์กร เพื่อป้องกันไม่ให้ทีโอทีประสบปัญหาขาดทุน กรณีไม่มีรายได้จากสัญญาสัมปทานจาก บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ที่เคยนำส่งปีละ 20,000 ล้านบาท

               "ผมยังไม่ขอสรุปผลประกอบการของทีโอที ที่มีข่าวระบุไปว่า หากทีโอทียังไม่ดำเนินการโครงการที่สร้างรายได้ จะทำให้ปี 2557 ทีโอทีจะขาดทุนทันที 4,500 ล้านบาท แต่หากทีโอทีสามารถดำเนินการธุรกิจตามแผนฟื้นฟูได้นั้นจะส่งผลให้ทีโอทีไม่ขาดทุน แต่จะมีกำไรถึง 400 ล้านบาท เพราะขอให้ฝ่ายการเงินสรุปตัวเลขส่งมาให้พิจารณาก่อน”

              สำหรับโครงการที่ทีโอทีจะต้องเร่งทำรายละเอียดเพิ่มเติมตามที่รมว.ไอซีที กำชับนั้น ประกอบด้วย 4 โครงการหลัก ได้แก่ 1.โครงการ 3G เฟส 1 ที่คาดว่าจะสามารถติดตั้งได้ครบ 5,320 สถานีฐานภายในเดือน สิงหาคมนี้ ซึ่งปัจจุบันติดตั้งไปแล้ว4,800 สถานีฐาน และมีลูกค้าแล้ว 310,000 ราย คิดเป็นสถานีฐานที่พร้อมออนแอร์แล้ว 86%

              ส่วนความคืบหน้าโครงการ 3G  เฟส2 ที่จะของบ 30,000 ล้านบาทในการขยายสถานีฐานเพิ่มอีกราว 9,000 สถานีฐาน อาจจะเปลี่ยนแนวทางการลงทุนใหม่ โดยจะไม่อาศัยการกู้ยืมเงินมาสร้างสถานีฐานเพียงอย่างเดียว ซึ่งเบื้องต้นยังไม่มีความคืบหน้าว่าจะให้การกู้ยืมเป็นสัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์ หรือการร่วมทุนในการดำเนินการ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนกรกฏาคมนี้ว่าจะใช้การดำเนินการรูปแบบใดจะกู้ หรือร่วมทุน

              สำหรับความคืบหน้าการทำตลาดบนโครงข่ายเสมือน (เอ็มวีเอ็นโอ) ซึ่งดึงพันธมิตรเข้ามาทำตลาดนั้น ในการประชุมบอร์ดวันที่ 24 กรกฏาคมนี้ จะมีการเซ็นรองรับสัญญาการทำตลาดเอ็มวีเอ็นโอกับบริษัทสามารถ ไอโมบาย โดยระหว่างนี้ได้ส่งร่างสัญญาเอ็มวีเอ็นโอให้ สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้ตรวจสอบแล้ว

 ในเบื้องต้นไอโมบายได้ขอทำการตลาดจำนวน 40% ของปริมาณความจุโครงข่ายทั้งหมด หรือคาปาซิตี้ที่มีจำนวน 7.2 ล้านเลขหมาย โดย ไอ-โมบายจะได้ทำตลาดจำนวน 2.28 ล้านเลขหมาย แบ่งส่วนแบ่งรายได้ 46-54 กล่าวคือ เอกชนจะได้รับรายได้ 54% ซึ่งสาเหตุที่เอกชนได้ส่วนแบ่งมากกว่าเพราะต้องรับผิดชอบค่าการทำตลาดด้วย

 www.naewna.com/business/59218‎

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.