Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

18 กรกฎาคม 2556 จาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีการศึกษาชี้!! กสทช. ต้องให้งบพัฒนาเทคโนฯการศึกษา800ล.ไม่ใช้20ล.//จี้กฏหมายก็เขียนไว้ชัดเจนว่าเงินนี้ไม่ใช่มีไว้สำหรับส่งคลัง


ประเด็นหลัก


 นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ตนเห็นว่างบประมาณไม่สอดคล้องกับความจำเป็นในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอย่างรุนแรง จึงได้สอบถามกับผู้แทน กสทช.ที่มาร่วมประชุมว่าจะสามารถสนับสนุนงบเพิ่มได้อีกจำนวนเท่าใด เพราะกองทุนเองก็ไม่มีแหล่งรายได้อื่น และแต่ละปีได้รับเงินสนับสนุนน้อยมากแค่หลัก 5-20 ล้านบาทต่อปี ทั้งที่ กสทช.มีเงินส่วนนี้อยู่ปีละประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะส่งคืนคลังหมด แต่สนับสนุนกองทุนเพียงประมาณ 20 ล้านบาท
   
       “กสทช.ควรจะสนับสนุนงบฯให้กองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา เป็นส่วนใหญ่ สัก 800-900 ล้าน แล้วส่งคืนคลังเป็นส่วนน้อย ซึ่ง กสทช.ก็บอกให้ทางกองทุนฯทำแผนแม่บทก่อน ดังนั้น จึงให้ทางกองทุนเร่งทำแผนแม่บทในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อจะเสนอของบฯในปีหน้า แต่เบื้องต้นตนได้หารือกับ กสทช.ว่าทางกองทุนจะทำแผนเร่งด่วนที่จำเป็นเพื่อของบฯในช่วงครึ่งปีปฏิทินหลังจากนี้ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่" รมว.ศึกษาธิการ กล่าวและว่า ขณะนี้เราต้องพูดถึงวงเงิน 800 -1,000 ล้านบาท เพราะประเทศนี้ถ้ายังขาดแคลนงบประมาณแบบนี้ และทำได้น้อยแบบนี้ เทคโนโลยีทางการศึกษาของเราก็จะล้าหลังมาก
   
       นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า การสนับสนุนงบประมาณควรทำให้เป็นไปตามเจตนาของกฏหมาย ซึ่งกฏหมายก็เขียนไว้ชัดเจนว่าเงินนี้ไม่ใช่มีไว้สำหรับส่งคลัง

______________________________________





"อ๋อย" ซัด กสทช.ให้งบพัฒนาเทคโนฯการศึกษาน้อย จ่อขอเพิ่ม 800 ล.


       "จาตุรนต์" เต้น! งบกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาได้น้อยเกินกว่าความเป็นจริง ซัด กสทช.ให้แค่ 5-20 ล้านบาท ทั้งที่มีเงินส่วนนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่กลับส่งคืนคลังเป็นส่วนใหญ่ ย้ำกฎหมายไม่ได้มีเจตนาให้ส่งคลัง แต่ต้องใช้เพื่อพัฒนาการศึกษาของประเทศ สั่งกองทุนเร่งทำแผนแม่บท เสนอขอใช้งบปีหน้า คาดขอสัก 800 ล้านบาท



จาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ
       นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ว่า กองทุนนี้มีเงินอยู่ประมาณ 166 ล้านบาท ซึ่งงบดังกล่าวได้รับการสนับสนุนมาจาก กสทช. โดยปีแรกได้รับการสนับสนุนงบ จำนวน 5 ล้านบาท ปีต่อๆ มา กสทช.ได้สนับสนุนปีละ 20 ล้านบาท แต่ระยะหลังกลับสนับสนุนน้อยลงเหลือไม่ถึง 20 ล้านบาท ทำให้ขณะนี้กองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาเหลือเงินจำนวนน้อยมาก แต่โครงการที่เสนอขอใช้งบฯกลับมีมากถึง 82 โครงการ รวมวงเงิน จำนวน 310 ล้านบาท กองทุนฯจึงต้องพิจารณาคัดเลือก
     
       นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ตนเห็นว่างบประมาณไม่สอดคล้องกับความจำเป็นในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอย่างรุนแรง จึงได้สอบถามกับผู้แทน กสทช.ที่มาร่วมประชุมว่าจะสามารถสนับสนุนงบเพิ่มได้อีกจำนวนเท่าใด เพราะกองทุนเองก็ไม่มีแหล่งรายได้อื่น และแต่ละปีได้รับเงินสนับสนุนน้อยมากแค่หลัก 5-20 ล้านบาทต่อปี ทั้งที่ กสทช.มีเงินส่วนนี้อยู่ปีละประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะส่งคืนคลังหมด แต่สนับสนุนกองทุนเพียงประมาณ 20 ล้านบาท
     
       “กสทช.ควรจะสนับสนุนงบฯให้กองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา เป็นส่วนใหญ่ สัก 800-900 ล้าน แล้วส่งคืนคลังเป็นส่วนน้อย ซึ่ง กสทช.ก็บอกให้ทางกองทุนฯทำแผนแม่บทก่อน ดังนั้น จึงให้ทางกองทุนเร่งทำแผนแม่บทในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อจะเสนอของบฯในปีหน้า แต่เบื้องต้นตนได้หารือกับ กสทช.ว่าทางกองทุนจะทำแผนเร่งด่วนที่จำเป็นเพื่อของบฯในช่วงครึ่งปีปฏิทินหลังจากนี้ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่" รมว.ศึกษาธิการ กล่าวและว่า ขณะนี้เราต้องพูดถึงวงเงิน 800 -1,000 ล้านบาท เพราะประเทศนี้ถ้ายังขาดแคลนงบประมาณแบบนี้ และทำได้น้อยแบบนี้ เทคโนโลยีทางการศึกษาของเราก็จะล้าหลังมาก
     
       นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า การสนับสนุนงบประมาณควรทำให้เป็นไปตามเจตนาของกฏหมาย ซึ่งกฏหมายก็เขียนไว้ชัดเจนว่าเงินนี้ไม่ใช่มีไว้สำหรับส่งคลัง แต่มีไว้สำหรับพัฒนากองทุนสองกองทุน ซึ่งกองทุนหนึ่งที่ควรใช้เงินมากคือกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ดังนั้น ตนจึงให้สภาการศึกษา และฝ่ายเลขากองทุนฯเร่งดำเนินการนำร่าง พ.ร.บ.สถาบันพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษามาปัดฝุ่น เพื่อเร่งดำเนินการและนำเข้าพิจารณาในสภาฯโดยเร็ว ส่วนโครงการที่เสนอขอใช้งบฯจากกองทุนฯนั้น ก็ให้กองทุนฯพิจารณาอย่างตรงไปตรงมา โดยคำนึงถึงการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ
     


http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000088250&Keyword=%a1%ca%b7

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.