18 กรกฎาคม 2556 กสทช.พีระพงษ์ (ชี้) ซีรีส์ ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น !!! ยังไม่ได้รับการร้องเรียน(ชี้ทุกเรื่องต้องไม่ลามกอนาจาร) อุ๋ย-นนทรีย์ ชี้ เป็นเพียงตีแผ่สังคมวัยรุ่น
ประเด็นหลัก
พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช. ) "เวลาทำละครส่วนมากทุกคนตั้งใจ และมีวัตถุประสงค์ที่ดี และอยากให้เรียนรู้ในสังคม ขณะที่เรื่องฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ได้ยินภาพรวมไปทางบวก คือ เป็นการนำเสนอแง่มุมที่ตรงกับชีวิตวัยรุ่นมากกว่าเรื่องอื่นๆ แต่เนื้อหาจะแรงหรือไม่นั้น ต้องยึดตามหลักมาตรา 37 โดยเนื้อหาสาระต้องไม่กระทบกับสถาบันการปกครอง พระมหากษัตริย์ ความมั่นคง สังคม และต้องไม่ลามกอนาจาร" พล.ท.พีระพงษ์ กล่าว
บทไม่แรง เพราะเป็นเรื่องจริง
ด้านผู้กำกับมือฉมัง อย่าง "อุ๋ย-นนทรีย์ นิมิบุตร" เผยกับไทยรัฐออนไลน์ว่า สาเหตุที่ซีรีส์เรื่องนี้โด่งดัง เป็นเพราะเนื้อหาที่บอกเล่าถึงความเป็นจริงของสังคมไทยปัจจุบัน ปัญหาวัยรุ่น และนำมาตีแผ่ออกมาในรูปแบบละคร ที่ทุกวัยก็สามารถดูได้ โดยเฉพาะวัยรุ่น และผู้ปกครองที่ควรต้องดู เพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างพ่อแม่ลูกในครอบครัว ว่าเรื่องคู่รัก ความรักในวัยเรียน เป็นเรื่องใกล้ตัวมากแค่ไหน จึงไม่แปลกใจที่ซีรีส์วัยรุ่นเรื่องนี้ถึงครองใจคนทุกวัยอย่างง่ายดายและรวดเร็ว ส่วนบทละครซีรีส์ดัง ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ก็ไม่ได้รุนแรงจนเกินไป
"คนเราชอบซ่อนปัญหาไม่กล้าพูดถึง เพียงแค่นำเสนอความจริงเกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์ เรื่องความรัก และภาษาของวัยรุ่นในยุคปัจจุบัน ในบางมุมมอง ผู้ใหญ่ดูอาจไม่เข้าใจถึงความรู้สึกนึกคิดของเด็ก เลยมองว่าตัวละครถ่ายทอดออกมาเกินจริง เนื้อหาส่อเสียดสังคม แต่ถ้าเปิดใจให้กว้าง ก็จะเข้าใจเด็กวัยรุ่นได้มากทีเดียว" อุ๋ย-นนทรีย์ กล่าว
______________________________________
กสทช. พร้อมตีความซีรีส์ 'ฮอร์โมนฯ' หากพบการร้องเรียน
กสทช.พร้อมตีความ ซีรีส์ 'ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น' ชี้ยังไม่ได้รับการร้องเรียน แจงหากมีการร้องเรียนจะดูเนื้อหา โดยยึดหลัก มาตรา 37 พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงฯ ด้าน 'อุ๋ย-นนทรีย์' ยันบทไม่แรง เพราะเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคม แนะผู้ปกครองเปิดใจ...
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับเนื้อหารายการและผังรายการ เปิดเผยกับ ไทยรัฐออนไลน์ ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการร้องเรียน การเผยแพร่ซีรีส์ยอดฮิต ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์จานดาวเทียมจีเอ็มเอ็มวัน ทุกวันเสาร์ เวลา 22.00 น. คณะอนุกรรมการฯ จึงยังไม่สามารถพิจารณาได้ เพราะตามขั้นตอนต้องมีผู้ร้องเรียนเข้ามาก่อน แต่หากมีผู้ร้องเรียนเข้ามา คณะอนุกรรมการฯจะต้องดูเนื้อหา โดยยึดหลักมาตรา 37 พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ไม่ว่าจะออกอากาศผ่านฟรีทีวี หรือทีวีดาวเทียม การกำกับดูแลเนื้อหาใช้มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งในส่วนของละครเรื่องนี้ จะต้องดูบริบทว่า เรื่องที่ถูกถ่ายทอดออกมา ก่อให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องในสังคม ทั้งที่เป็นเรื่องที่อาจขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชนภายในประเทศหรือไม่ โดยยอมรับว่า เป็นเรื่องที่ยากต่อการตีความ ซึ่งในการพิจารณา กสทช. จะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านนิเทศศาสตร์เข้ามาร่วมให้ความคิดเห็นด้วย
"เวลาทำละครส่วนมากทุกคนตั้งใจ และมีวัตถุประสงค์ที่ดี และอยากให้เรียนรู้ในสังคม ขณะที่เรื่องฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ได้ยินภาพรวมไปทางบวก คือ เป็นการนำเสนอแง่มุมที่ตรงกับชีวิตวัยรุ่นมากกว่าเรื่องอื่นๆ แต่เนื้อหาจะแรงหรือไม่นั้น ต้องยึดตามหลักมาตรา 37 โดยเนื้อหาสาระต้องไม่กระทบกับสถาบันการปกครอง พระมหากษัตริย์ ความมั่นคง สังคม และต้องไม่ลามกอนาจาร" พล.ท.พีระพงษ์ กล่าว
บทไม่แรง เพราะเป็นเรื่องจริง
ด้านผู้กำกับมือฉมัง อย่าง "อุ๋ย-นนทรีย์ นิมิบุตร" เผยกับไทยรัฐออนไลน์ว่า สาเหตุที่ซีรีส์เรื่องนี้โด่งดัง เป็นเพราะเนื้อหาที่บอกเล่าถึงความเป็นจริงของสังคมไทยปัจจุบัน ปัญหาวัยรุ่น และนำมาตีแผ่ออกมาในรูปแบบละคร ที่ทุกวัยก็สามารถดูได้ โดยเฉพาะวัยรุ่น และผู้ปกครองที่ควรต้องดู เพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างพ่อแม่ลูกในครอบครัว ว่าเรื่องคู่รัก ความรักในวัยเรียน เป็นเรื่องใกล้ตัวมากแค่ไหน จึงไม่แปลกใจที่ซีรีส์วัยรุ่นเรื่องนี้ถึงครองใจคนทุกวัยอย่างง่ายดายและรวดเร็ว ส่วนบทละครซีรีส์ดัง ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ก็ไม่ได้รุนแรงจนเกินไป
"คนเราชอบซ่อนปัญหาไม่กล้าพูดถึง เพียงแค่นำเสนอความจริงเกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์ เรื่องความรัก และภาษาของวัยรุ่นในยุคปัจจุบัน ในบางมุมมอง ผู้ใหญ่ดูอาจไม่เข้าใจถึงความรู้สึกนึกคิดของเด็ก เลยมองว่าตัวละครถ่ายทอดออกมาเกินจริง เนื้อหาส่อเสียดสังคม แต่ถ้าเปิดใจให้กว้าง ก็จะเข้าใจเด็กวัยรุ่นได้มากทีเดียว" อุ๋ย-นนทรีย์ กล่าว
ช่องเคเบิลเลยฉายได้ไร้ปัญหา
เมื่อถามว่า ถ้าละครเรื่องนี้ฉายทางช่องฟรีทีวีจะเกิดอะไรขึ้น ผู้กำกับชื่อดัง ตอบทันทีว่า "ก็ฉายไม่ได้สิครับ (ยิ้ม) เพราะด้วยตัวบทกฎหมาย หรือ กองเซ็นเซอร์ ทำให้ละครสะท้อนสังคมเรื่องนี้ออกฉายไม่ได้ ซึ่งผมเสียดายแทนใครอีกหลายคนที่พลาดซีรีส์เรื่องฮอร์โมน วัยว้าวุ่น เนื่องจากผู้กำกับทำละครเรื่องนี้ได้ดีมาก กล้าพูดกล้าทำ ไม่โฉ่งฉ่าง แนบเนียน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาเข้าใจวัยรุ่นอย่างแท้จริง"
สำหรับ อนาคตของละครไทย อุ๋ย-นนทรีย์ มองว่า การผลิตจะก้าวหน้าไปตามยุคสมัย ด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยครบครัน ส่วนเนื้อหาบทละคร อาจยังล้าหลัง แต่ยังเป็นสิ่งที่คนไทยชอบดู อย่างเช่น นางเอกพูดกับตัวเอง นางเอกถูกตัวอิจฉาทำร้ายตบตี แต่สำหรับเรื่องฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ส่วนตัวมองว่าสามารถเปลี่ยนความรู้สึกของการดูละครเดิมๆ เพราะเรื่องนี้สะท้อนสังคมได้ดี ตัวละครพูดจากันด้วยภาษาที่สังคมในปัจจุบันใช้พูดคุยกันจริงๆ.
โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/ent/357998
ไม่มีความคิดเห็น: