22 กรกฎาคม 2556 DTAC ยอมรับเปิด 3G 2100 ช้า เสียเปรียบคู่แข่ง!! (แต่กำไรบาน) ล่าสุด DTAC ประกาศกำไรQ2 2.45 หมื่นล้านบาท สัดส่วนการตลาดลดลงเล็กน้อยร้อยละ 30.4
ประเด็นหลัก
นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ยอมรับว่าการเปิดให้บริการ 3 จี บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ที่ช้ากว่าผู้ให้บริการ 2 รายนั้น ถือว่าเสียโอกาสบ้างในส่วนของการขายซิม 3 จี เนื่องจากเมื่อพนักงานนำซิมไปจำหน่ายจะพบว่ามีซิม 3 จี ของผู้ให้บริการทั้ง 2 รายในตลาดอยู่ก่อนแล้ว แต่บางอย่างไม่จำเป็นต้องทำก่อน มีเสียเปรียบแต่ก็สู้ได้ โดยตอนนี้ดีแทค ได้ติดตั้งสถานี 3 จี แล้ว 3 พันสถานี และมีลูกค้าพร้อมย้ายเข้าระบบ 70% จากจำนวนกว่า 3 ล้านราย
นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค กล่าวว่า รายได้จากการดำเนินงานสำหรับในไตรมาสที่ 2 ของปี 56 รวมทั้งสิ้น 2.45 หมื่นล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นร้อยละ 13.5 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน โดยมีจุดเด่นที่มาจากการเติบโตของสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยพยายามเน้นการลงทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมา เพื่อให้อินเทอร์เน็ตใช้งานได้ครอบคลุมทั่วประเทศภายใน 3 ปีนี้
ทางด้าน EBITDA สำหรับไตรมาสที่ 2 ปี 2556 เท่ากับ 7.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 12.7 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน จากการเติบโตของรายได้และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิผล EBITDA margin ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 30.4 จากสัดส่วนที่สูงขึ้นของยอดขายเครื่องโทรศัพท์ที่มีอัตรากำไรต่ำ กำไรสุทธิสำหรับงวดเท่ากับ 2.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสนี้ ดีแทคได้ประกาศการปรับเพิ่มประมาณการเงินลงทุนสำหรับปี 2556 จากไม่น้อยกว่า 12.5 พันล้านบาท เป็น 14.5 พันล้านบาท เพื่อให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ย่าน 2100 MHz และคาดว่าจะครอบคลุมประชากรร้อยละ 50 ได้ภายในสิ้นปี.
______________________________________
ดีแทค ไม่หวั่นเปิด 3 จี ช้ากว่าคู่แข่ง
ดีแทค รับเปิดให้บริการ 3 จี ช้ากว่าคู่แข่งมีเสียโอกาสบ้าง เร่งปรับแบรนด์แฮปปี้รับกระแสการใช้งานดาต้า เสิร์ฟโปรโมชั่นใหม่ใช้โซเชียลไม่จำกัด ตั้งเป้าลูกค้าพรีเพดใช้โมบายล์อินเทอร์เน็ตเพิ่ม 100%
นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ยอมรับว่าการเปิดให้บริการ 3 จี บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ที่ช้ากว่าผู้ให้บริการ 2 รายนั้น ถือว่าเสียโอกาสบ้างในส่วนของการขายซิม 3 จี เนื่องจากเมื่อพนักงานนำซิมไปจำหน่ายจะพบว่ามีซิม 3 จี ของผู้ให้บริการทั้ง 2 รายในตลาดอยู่ก่อนแล้ว แต่บางอย่างไม่จำเป็นต้องทำก่อน มีเสียเปรียบแต่ก็สู้ได้ โดยตอนนี้ดีแทค ได้ติดตั้งสถานี 3 จี แล้ว 3 พันสถานี และมีลูกค้าพร้อมย้ายเข้าระบบ 70% จากจำนวนกว่า 3 ล้านราย
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการเปิดให้บริการ 3 จี เชื่อว่าการแข่งขันจะรุนแรงจะเห็นว่าคู่แข่งใช้เงินโปรโมตสูง โดยดีแทคได้เตรียมพร้อมด้วยการทำกิจกรรมหลายอย่างที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าด้วยงบประมาณปีนี้ราว 500 ล้านบาท ถือเป็นการเข้าหาลูกค้าโดยตรง เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าไหลออกหรือย้ายค่าย เพราะหากมีสงครามราคาเกิดขึ้นก็จะไม่ส่งผลต่อลูกค้าของ ดีแทค โดยปัจจุบันดีแทคมียอดลูกค้าพรีเพด (เติมเงิน) ไหลออกในอัตราปกติ ประมาณ 1 ล้านเบอร์ต่อเดือน ในขณะที่โพสต์เพด (รายเดือน) ประมาณ 4-5 หมื่นรายต่อเดือน
ทั้งนี้ จากพฤติกรรมการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงตามเทคโนโลยี โดยเฉพาะการใช้ดาต้าและอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ดีแทค จึงรีแบรนด์แฮปปี้เอาใจลูกค้าพรีเพดให้ใช้งานดาต้าได้มากขึ้น โดยโฉมใหม่ของแฮปปี้จะมีความทันสมัย อาทิ โปรฯ เริ่มต้นที่ 19 บาทต่อวัน โทรได้ 10 นาทีทุกเครือข่าย ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ 15 เมกะบิต (Mb) และใช้งานโซเชียลไม่จำกัด และโปรฯ สูงสุดที่ 699 บาทต่อเดือน โทร.ฟรีได้ 400 นาที ใช้อินเทอร์เน็ตและโซเชียลไม่จำกัด 3 จี 2 กิกะบิต ทั้งนี้ ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าพรีเพดที่ใช้โมบายล์อินเทอร์เน็ตจากปัจจุบัน 7 ล้านราย เป็น 14 ล้านรายภายใน 1 ปี.
http://www.dailynews.co.th/technology/220589
__________________________________________________
ดีแทคโวQ2กระฉูด2.4หมื่นล.
ดีแทค เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 56 กระฉูด 2.45 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13.5% พร้อมทุ่มงบลงทุนปีนี้เพิ่มเป็น 14.5 พันล้านบาท ขยายโครงข่ายบนคลื่น 2100 MHz
นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค กล่าวว่า รายได้จากการดำเนินงานสำหรับในไตรมาสที่ 2 ของปี 56 รวมทั้งสิ้น 2.45 หมื่นล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นร้อยละ 13.5 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน โดยมีจุดเด่นที่มาจากการเติบโตของสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยพยายามเน้นการลงทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมา เพื่อให้อินเทอร์เน็ตใช้งานได้ครอบคลุมทั่วประเทศภายใน 3 ปีนี้
ดังนั้น จุดเด่นในไตรมาสที่ 2 ยังคงเป็นรายได้จากบริการเสริมที่เติบโตต่อเนื่องถึงร้อยละ 50.7 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน อยู่ที่ 5.4 พันล้านบาท และยังคงเป็นการใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องร้อยละ 85.2 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากความนิยมในสมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นสังคมออนไลน์ที่ยังคงมีสูงต่อเนื่อง และการขยายพื้นที่ให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ย่าน 850 MHz
ทางด้าน EBITDA สำหรับไตรมาสที่ 2 ปี 2556 เท่ากับ 7.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 12.7 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน จากการเติบโตของรายได้และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิผล EBITDA margin ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 30.4 จากสัดส่วนที่สูงขึ้นของยอดขายเครื่องโทรศัพท์ที่มีอัตรากำไรต่ำ กำไรสุทธิสำหรับงวดเท่ากับ 2.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสนี้ ดีแทคได้ประกาศการปรับเพิ่มประมาณการเงินลงทุนสำหรับปี 2556 จากไม่น้อยกว่า 12.5 พันล้านบาท เป็น 14.5 พันล้านบาท เพื่อให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ย่าน 2100 MHz และคาดว่าจะครอบคลุมประชากรร้อยละ 50 ได้ภายในสิ้นปี.
http://www.thaipost.net/news/220713/76737
ไม่มีความคิดเห็น: