22 กรกฎาคม 2556 TRUE ขอเจรจา CAT ไม่ต้องโอนเสาแต่ทำธุรกิจร่วมกันอีกครั้งจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เพื่อระดมทุนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในนาม TAM
ประเด็นหลัก
ทั้งนี้สาเหตุที่ทรูฯ ยื่นข้อเสนอเพื่อเจรจาเรื่องทรัพย์สินตามสัญญาอีกครั้ง เนื่องจากมีวัตถุประสงค์จะนำทรัพย์สินตามสัญญาสัมปทานทั้งหมด รวมทรัพย์สินของกลุ่มทรูด้วย จัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เพื่อระดมทุนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เช่นเดียวกันกองทุนโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือกองทุนบีทีเอส เพื่อนำเงินจากการระดมทุนไปลงทุนสร้างโครงข่ายโทรคมนาคม รองรับการให้บริการ 3G และ 4G ในอนาคต ปัจจุบันทรู มีเสาและอุปกรณ์โทรคมนาคมตามสัญญาสัมปทาน จำนวน 6,500 แห่ง แต่ไม่มีการโอนให้กับกสท แต่อย่างใด ขณะที่กสท มีเสาและอุปกรณ์โทรคมนาคมจำนวน 2,000 แห่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
11 กรกฎาคม 2556 TRUE เร่งสุดตัว!! ตั้งบริษัท TAM ระดมทุนร่วมบริหารเสา CAT ( ชี้ธุรกิจเสาโทรคมนาคมไทยยังไม่ได้ผูกขาดเหมือนเสาของการไฟฟ้า)
http://somagawn.blogspot.com/2013/07/11-2556-true-tam-cat.html______________________________________
ทรูฯขอตั้งกองทุนฯเลียนแบบBTS
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUEผู้ได้รับสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่จากบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)ได้ทำหนังสือแจ้งมายัง กสท เพื่อขอเจรจาเรื่องการโอนเสาโทรคมนาคมและอุปกรณ์โทรคมนาคมตามสัญญาสัมปทานอีกครั้งหลังจากมีการเจรจากันไปหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่มีข้อยุติ จนนำกรณีข้อพิพาทการโอนทรัพย์สินตามสัญญาสัมปทานเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการ และยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา
ทั้งนี้สาเหตุที่ทรูฯ ยื่นข้อเสนอเพื่อเจรจาเรื่องทรัพย์สินตามสัญญาอีกครั้ง เนื่องจากมีวัตถุประสงค์จะนำทรัพย์สินตามสัญญาสัมปทานทั้งหมด รวมทรัพย์สินของกลุ่มทรูด้วย จัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เพื่อระดมทุนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เช่นเดียวกันกองทุนโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือกองทุนบีทีเอส เพื่อนำเงินจากการระดมทุนไปลงทุนสร้างโครงข่ายโทรคมนาคม รองรับการให้บริการ 3G และ 4G ในอนาคต ปัจจุบันทรู มีเสาและอุปกรณ์โทรคมนาคมตามสัญญาสัมปทาน จำนวน 6,500 แห่ง แต่ไม่มีการโอนให้กับกสท แต่อย่างใด ขณะที่กสท มีเสาและอุปกรณ์โทรคมนาคมจำนวน 2,000 แห่ง
ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)กล่าวในกรณีเดียวกันนี้ว่า ได้รับทราบกรณีดังกล่าวแล้ว แต่ กสท และกระทรวงไอซีทียังไม่ได้ตัดสินใจดำเนินการใด เนื่องจากต้องศึกษารายละเอียดและขั้นตอน รวมถึงประเด็นข้อกฎหมายด้วยว่า จะเข้าข่ายพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมการงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุน)หรือไม่ รวมถึงกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ฉะนั้นเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องที่จะตัดสินใจอย่างเร่งด่วนได้ ต้องศึกษาอย่างละเอียดและรอบคอบ
http://www.naewna.com/business/60869
ไม่มีความคิดเห็น: