Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

25 กรกฎาคม 2556 อนุดิษฐ์ชี้!! การที่ TRUE กล่อม CAT (กรณีไม่คืนเสาแต่ตั้งกองทุนโทรคมนาคมแทนนั้น) นั้น ICT และ CAT ยังไม่มีการตั้งสินใจทั้งสิ้นขอศ฿กษาก่อนและยังมีเรื่องฟ้องไม่คืนเสา-อุปกรณ์ในศาล

ประเด็นหลัก

























 TRUE ระบุว่าการขายทรัพย์สินและรายได้และการให้เช่าทรัพย์สินแก่กองทุน จะมีมูลค่ารวมขนาดของรายการไม่น้อยกว่า 7 หมื่นล้านบาท (ทั้งนี้ราคาขายทรัพย์สินจะขึ้นอยู่กับความสนใจ และความต้องการผลตอบแทนของนักลงทุน ตลอดจนสภาวะตลาด ณ เวลาที่ทำรายการ และตามที่TRUE หรือบริษัทย่อย และกองทุนจะได้ตกลงกัน) และขนาดของรายการตามประกาศการได้มาหรือจำหน่ายไป โดยอ้างอิงข้อมูลจากงบการเงินรวมฉบับสอบทานล่าสุดของTRUEและบริษัทย่อย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2556
    ขณะที่TRUEหรือนิติบุคคลที่TRUE กำหนดให้เป็นผู้ทำหน้าที่จองซื้อหน่วยลงทุนมีแผนที่จะจองซื้อหน่วยลงทุนจำนวนไม่เกิน 1ใน3 (หรือประมาณ 33.33 % ) ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของกองทุนที่ออกเสนอขาย โดยจำนวนเงินจองซื้อขั้นต่ำเท่ากับ 7 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้จำนวนเงินจองซื้อสุดท้ายขึ้นอยู่กับราคาเสนอขายสุดท้ายของหน่วยลงทุนของกองทุนซึ่งจะกำหนดโดยวิธีการสำรวจปริมาณความต้องการซื้อหน่วยลงทุนของนักลงทุนสถาบัน (บุ๊คบิ้วดิ้ง) และขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการเช่นสภาวะของตลาดในขณะนั้นและจำนวนเงินกู้ที่กองทุนจัดหาเพื่อซื้อทรัพย์สิน (หากมี) เป็นต้น
    พร้อมกันนี้TRUE ได้แต่งตั้ง บริษัท เจวีเอส ที่ปรึกษาการเงิน จำกัด ให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อให้ความเห็นแก่ผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับการเข้าทำธุรกรรมกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งจัดเตรียมเอกสารอื่นๆ ที่จำเป็นตามที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนดในธุรกรรมการขายทรัพย์สินและรายได้และให้เช่าทรัพย์สิน ทรัพย์สินซึ่งจำหน่ายไปจะมีรายละเอียดดังนี้
    1. ขายทรัพย์สินที่เป็นเสาโทรคมนาคม (ซึ่งรวมทั้งเสาที่ตั้งบนพื้นดินเสาที่ตั้งบนดาดฟ้าและโครงข่าย Distributed Antenna System) จำนวนประมาณ 13,000 เสา  และโครงข่ายใยแก้วนำแสง (Fiber OpticCable, "FOC") อุปกรณ์ระบบสื่อสัญญาณ จำนวน 45,000 คอร์กิโลเมตร (core-km) และ 9,000 ลิ้งค์ และโครงข่ายบรอดแบนด์ในเขตพื้นที่ต่างจังหวัด มีจำนวน 1.2 ล้านพอร์ต
    2.ขายสิทธิรายได้ สิทธิในการรับประโยชน์จากรายได้ที่เกิดจากการให้เช่าอุปกรณ์ 3G HSPA (Node B และอุปกรณ์โครงข่ายหลัก) จำนวน 13,500 สถานีฐาน และ 3.ให้เช่าทรัพย์สิน เสาโทรคมนาคม ไม่เกิน 100 เสา
    ทั้งนี้ มูลค่าของสินทรัพย์ที่จะมีการจำหน่ายไปในธุรกรรมขายทรัพย์สินและรายได้และให้เช่าทรัพย์สินจะไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นล้านบาท โดยมูลค่าของสินทรัพย์ที่จะมีการได้มาในธุรกรรมเช่ากลับและเช่า/เช่าช่วงจะไม่เกิน 5.5 หมื่นล้านบาท (ระยะเวลาการเช่าไม่เกิน 15 ปี)
    สำหรับเงินที่ได้จากออกกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานTRUE ระบุว่าจะนำไปชำระหนี้สินบางส่วนซึ่งรวมถึงเงินกู้ยืมมาจากสถาบันการเงินซึ่งจะช่วยปรับโครงสร้างเงินทุนให้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอันจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการลงทุน นอกจากนี้กลุ่มบริษัทฯอาจนำเงินบางส่วนไปลงทุนในโครงการอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต




















______________________________________





'ทรู'ตั้งกองทุน7หมื่นล.โบรกฯมองภาพชัดไตรมาส3คาดมีกำไร 2.5-2.6 หมื่นล.

ที่ประชุมบอร์ดทรู ไฟเขียวตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน 7 หมื่นล้านบาท  นำเงินใช้หนี้-ลงทุนโครงการอื่นในอนาคต  คาดความสามารถลงทุนเพิ่มหลังโครงสร้างการเงินดีขึ้น  นักวิเคราะห์คาดภาพชัดไตรมาส 3 นี้  ประเมินสัดส่วนหนี้สินต่อทุนลดเหลือ 2 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.6 เท่า  มีกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน 2.5-2.6 หมื่นล้านบาท

alt    บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)(บมจ.) (TRUE) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมาว่า  ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)เห็นชอบให้บริษัทฯ และ/หรือบริษัทย่อย เข้าทำธุรกรรมกับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน(อินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์)ซึ่งอยู่ระหว่างการขออนุมัติจัดตั้งกองทุนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)
    TRUE ระบุว่าการขายทรัพย์สินและรายได้และการให้เช่าทรัพย์สินแก่กองทุน จะมีมูลค่ารวมขนาดของรายการไม่น้อยกว่า 7 หมื่นล้านบาท (ทั้งนี้ราคาขายทรัพย์สินจะขึ้นอยู่กับความสนใจ และความต้องการผลตอบแทนของนักลงทุน ตลอดจนสภาวะตลาด ณ เวลาที่ทำรายการ และตามที่TRUE หรือบริษัทย่อย และกองทุนจะได้ตกลงกัน) และขนาดของรายการตามประกาศการได้มาหรือจำหน่ายไป โดยอ้างอิงข้อมูลจากงบการเงินรวมฉบับสอบทานล่าสุดของTRUEและบริษัทย่อย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2556
    ขณะที่TRUEหรือนิติบุคคลที่TRUE กำหนดให้เป็นผู้ทำหน้าที่จองซื้อหน่วยลงทุนมีแผนที่จะจองซื้อหน่วยลงทุนจำนวนไม่เกิน 1ใน3 (หรือประมาณ 33.33 % ) ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของกองทุนที่ออกเสนอขาย โดยจำนวนเงินจองซื้อขั้นต่ำเท่ากับ 7 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้จำนวนเงินจองซื้อสุดท้ายขึ้นอยู่กับราคาเสนอขายสุดท้ายของหน่วยลงทุนของกองทุนซึ่งจะกำหนดโดยวิธีการสำรวจปริมาณความต้องการซื้อหน่วยลงทุนของนักลงทุนสถาบัน (บุ๊คบิ้วดิ้ง) และขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการเช่นสภาวะของตลาดในขณะนั้นและจำนวนเงินกู้ที่กองทุนจัดหาเพื่อซื้อทรัพย์สิน (หากมี) เป็นต้น
    พร้อมกันนี้TRUE ได้แต่งตั้ง บริษัท เจวีเอส ที่ปรึกษาการเงิน จำกัด ให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อให้ความเห็นแก่ผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับการเข้าทำธุรกรรมกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งจัดเตรียมเอกสารอื่นๆ ที่จำเป็นตามที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนดในธุรกรรมการขายทรัพย์สินและรายได้และให้เช่าทรัพย์สิน ทรัพย์สินซึ่งจำหน่ายไปจะมีรายละเอียดดังนี้
    1. ขายทรัพย์สินที่เป็นเสาโทรคมนาคม (ซึ่งรวมทั้งเสาที่ตั้งบนพื้นดินเสาที่ตั้งบนดาดฟ้าและโครงข่าย Distributed Antenna System) จำนวนประมาณ 13,000 เสา  และโครงข่ายใยแก้วนำแสง (Fiber OpticCable, "FOC") อุปกรณ์ระบบสื่อสัญญาณ จำนวน 45,000 คอร์กิโลเมตร (core-km) และ 9,000 ลิ้งค์ และโครงข่ายบรอดแบนด์ในเขตพื้นที่ต่างจังหวัด มีจำนวน 1.2 ล้านพอร์ต
    2.ขายสิทธิรายได้ สิทธิในการรับประโยชน์จากรายได้ที่เกิดจากการให้เช่าอุปกรณ์ 3G HSPA (Node B และอุปกรณ์โครงข่ายหลัก) จำนวน 13,500 สถานีฐาน และ 3.ให้เช่าทรัพย์สิน เสาโทรคมนาคม ไม่เกิน 100 เสา
    ทั้งนี้ มูลค่าของสินทรัพย์ที่จะมีการจำหน่ายไปในธุรกรรมขายทรัพย์สินและรายได้และให้เช่าทรัพย์สินจะไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นล้านบาท โดยมูลค่าของสินทรัพย์ที่จะมีการได้มาในธุรกรรมเช่ากลับและเช่า/เช่าช่วงจะไม่เกิน 5.5 หมื่นล้านบาท (ระยะเวลาการเช่าไม่เกิน 15 ปี)
    สำหรับเงินที่ได้จากออกกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานTRUE ระบุว่าจะนำไปชำระหนี้สินบางส่วนซึ่งรวมถึงเงินกู้ยืมมาจากสถาบันการเงินซึ่งจะช่วยปรับโครงสร้างเงินทุนให้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอันจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการลงทุน นอกจากนี้กลุ่มบริษัทฯอาจนำเงินบางส่วนไปลงทุนในโครงการอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
    ด้านบริษัทหลักทรัพย์(บล.)เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ ว่าราคาเหมาะสมหุ้น TRUE อยู่ที่ 10.10 บาท โดยประเมินว่าหุ้น TRUE ช่วงสั้น มีประเด็นเก็งกำไรจากความคาดหวังเชิงบวกในการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะเห็นภาพชัดเจนภายในไตรมาส 3/56   อีกทั้งการออกกองทุนฯ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเชิงโครงสร้างทางการเงิน ประเมินเบื้องต้นคาดอัตราส่วนหนี้สินจากสถาบันการเงินต่อฐานทุนจะลดลงเหลือเพียง 2  เท่า จากปัจจุบันที่ราว 7.6 เท่า บวกกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนประมาณ 2.5-2.6 หมื่นล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=192110:73-25-26-&catid=104:-financial-&Itemid=443

__________________________________________________













ข่าวหุ้นธุรกิจ 25 กรกฎาคม 2556
_

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.