09 มกราคม 2557 กสทช.ยังลุ้นคำสั่งศาลจะชี้ขาด ฟุตบอลโลก!! (ไม่กลัวข้อกล่าวหาว่า จะไม่มีผู้ที่จะกล้าลงทุนเพื่อยื่นประมูลลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับโลก ชี้ FREE TV หารายได้จากการขายค่าโฆษณาได้ไม่ใช่มาเรียกเก็บสมาชิก )
ประเด็นหลัก
แต่ล่าสุดด้าน ดร.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช.และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ทาง กสทช.ยังหวังว่าคำพิพากษาสุดท้ายจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กสทช.วางไว้ "เรื่องดังกล่าวที่ออกมาเป็นเพียงคำแถลงของตุลาการเท่านั้น ไม่ใช่คำพิพากษาแต่อย่างใด และไม่ใช่ข้อผูกพันธ์กับคำตัดสินของศาลที่จะออกมาด้วย ดังนั้นผมจึงหวังว่าคำสั่งศาลที่จะมีขึ้นจะยังเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ออกมา และทำให้คนไทยได้ดูฟุตบอลโลกครบทุกแมตช์”
พร้อมกันนี้ ดร.นที ยังตอบข้อซักถามถึงกรณีที่กฎมัสต์ แฮฟ (Must Have) อาจทำให้ในอนาคตอาจจะไม่มีผู้ที่จะกล้าลงทุนเพื่อยื่นประมูลลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับโลกมาเผยแพร่ในเมืองไทย เนื่องจากไม่คุ้มกับการทำธุรกิจว่า “การแข่งขันฟุตบอลโลกก็เหมือนกับโอลิมปิกเกมส์ เป็นคอนเทนต์ที่คนไทยควรจะได้รับชมฟรี ต่างจากกรณีฟุตบอลยูโร ทำให้ผมยังเชื่อว่าจากนี้ยังมีอีกหลายเจ้าที่พร้อมจะยื่นประมูลและคว้าลิขสิทธิ์มาให้ประชาชนชาวไทยได้ดูผ่านทางฟรีทีวี โดยหารายได้จากการขายค่าโฆษณาไม่ใช่มาเรียกเก็บจากค่าสมาชิกแบบที่กำลังจะเกิดขึ้น”
______________________________________
กสทช.ยังลุ้นศาลตัดสินดูฟรี “บอลโลก”
ดร.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.ยังลุ้นว่าศาลจะมีคำพิพากษาให้คนไทยได้ดูถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ผ่านทางฟรีทีวีครบทุกแมตช์
แม้จะมีคำแถลงของตุลาการออกมาว่าเห็นควรเพิกถอนคำสั่งถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ผ่านทางฟรีทีวีครบทุกแมตช์ ตามที่ บริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ครอบครองลิขสิทธิ์ ได้ยื่นฟ้องสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.เพื่อให้มีคำสั่งยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 หรือที่เรียกว่ากฎมัสต์ แฮฟ (Must Have)
แต่ล่าสุดด้าน ดร.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช.และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ทาง กสทช.ยังหวังว่าคำพิพากษาสุดท้ายจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กสทช.วางไว้ "เรื่องดังกล่าวที่ออกมาเป็นเพียงคำแถลงของตุลาการเท่านั้น ไม่ใช่คำพิพากษาแต่อย่างใด และไม่ใช่ข้อผูกพันธ์กับคำตัดสินของศาลที่จะออกมาด้วย ดังนั้นผมจึงหวังว่าคำสั่งศาลที่จะมีขึ้นจะยังเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ออกมา และทำให้คนไทยได้ดูฟุตบอลโลกครบทุกแมตช์”
พร้อมกันนี้ ดร.นที ยังตอบข้อซักถามถึงกรณีที่กฎมัสต์ แฮฟ (Must Have) อาจทำให้ในอนาคตอาจจะไม่มีผู้ที่จะกล้าลงทุนเพื่อยื่นประมูลลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับโลกมาเผยแพร่ในเมืองไทย เนื่องจากไม่คุ้มกับการทำธุรกิจว่า “การแข่งขันฟุตบอลโลกก็เหมือนกับโอลิมปิกเกมส์ เป็นคอนเทนต์ที่คนไทยควรจะได้รับชมฟรี ต่างจากกรณีฟุตบอลยูโร ทำให้ผมยังเชื่อว่าจากนี้ยังมีอีกหลายเจ้าที่พร้อมจะยื่นประมูลและคว้าลิขสิทธิ์มาให้ประชาชนชาวไทยได้ดูผ่านทางฟรีทีวี โดยหารายได้จากการขายค่าโฆษณาไม่ใช่มาเรียกเก็บจากค่าสมาชิกแบบที่กำลังจะเกิดขึ้น”
สุดท้ายนี้ รองประธาน กสทช.ยังกล่าวว่าหากคำตัดสินของศาลออกมาตรงกับคำแถลงดังกล่าวที่ออกมา ก็ต้องเคารพรับฟังตามศาล และขอวอนให้ประชาชนเข้าใจว่าทาง กสทช.ได้พยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว
http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9570000003045&Keyword=%a1%ca%b7
ไม่มีความคิดเห็น: