Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

04 มีนาคม 2557 รถจากค่ายหรูและรถบ้านบางค่าย จับมือ APPLE เปิดตัว “คาร์เพลย์ (CarPlay)” ใช้ชื่อ ฉลาดกว่า ปลอดภัยกว่า และได้รับอรรถรสมากกว่า ต้องการให้ไอโฟนกลายเป็นศูนย์กลางความบันเทิง


ประเด็นหลัก



       รายงานระบุว่า รถจากค่ายหรูอย่างเฟอร์รารี่ (Ferrari), เมอร์เซเดส เบนซ์ (Mercedes-Benz) และวอลโว (Volvo) จะชิมลางพร้อมโชว์ระบบคาร์เพลย์เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสระบบคาร์เพลย์ภายในงานที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยกลุ่มค่ายรถที่กำลังเตรียมการรองรับคาร์เพลย์ในอนาคตคือบีเอ็มดับบลิว (BMW Group), ฟอร์ด (Ford), จีเอ็ม (General Motors), ฮอนด้า (Honda), ฮุนได (Hyundai Motor), จากัวร์ แลนด์ โรเวอร์ (Jaguar Land Rover), เกีย มอเตอร์ (Kia Motors), มิตซูบิชิ มอเตอร์ (Mitsubishi Motors), นิสสัน (Nissan Motor Company), เปอร์โยต์ ซีตรอง (PSA Peugeot Citroën), ซูบารุ (Subaru), ซูซูกิ (Suzuki) และโตโยต้า (Toyota Motor)
   
       ทั้งหมดนี้ เกรก จอสเวียก (Greg Joswiak) รองประธานฝ่ายการตลาดไอโฟนและไอโอเอส ให้ความเห็นว่าระบบคาร์เพลย์ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานไอโฟนในรถ ซึ่งนอกจากค่ายรถ คาร์เพลย์ยังมีความร่วมมือกับกลุ่มผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องเสียงด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดเผยชื่อในงานมหกรรมยานยนต์ที่เจนีวาเช่นกัน
   
       คุณสมบัติคาร์เพลย์จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 7 เวอร์ชันอัปเดทล่าสุด โดยสามารถทำงานผ่านไอโฟนที่รองรับพอร์ตใหม่ Lightning ทั้งหมด ได้แก่ iPhone 5s, iPhone 5c และ iPhone 5 คาดว่าจะเปิดให้ใช้งานจริงในรถบางรุ่นภายในปีนี้






______________________________________







Apple เปิดตัว CarPlay เพื่อการใช้ iPhone บนรถอย่างปลอดภัย




แอปเปิล (Apple) เปิดตัว “คาร์เพลย์ (CarPlay)” คุณสมบัติใหม่ในระบบปฏิบัติการ iOS 7 ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานไอโฟนในรถได้อย่าง “ฉลาดกว่า ปลอดภัยกว่า และได้รับอรรถรสมากกว่า” สะท้อนความชัดเจนว่าแอปเปิลต้องการให้ไอโฟนกลายเป็นศูนย์กลางความบันเทิงในรถแทนวิทยุหรือเครื่องเล่นซีดีดั้งเดิม
     
       ระบบคาร์เพลย์นี้ถูกนำมาสาธิตอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมรถยนต์ Geneva International Motor Show ที่เจนีวา สวิสเซอร์แลนด์ โดยงานนี้แอปเปิลแสดงให้เห็นว่าคาร์เพลย์จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถต่อสายโทรศัพท์, ใช้แผนที่, ฟังเพลง และเปิดอ่านข้อความในไอโฟนด้วยการเปล่งเสียงพูดเพียงคำเดียว หรือการสัมผัสหน้าจอทัชสกรีนบนหน้าปัดรถเพียง 1 ครั้งเท่านั้น ขณะเดียวกัน ผู้ใช้จะสามารถใช้อินเทอร์เฟซดั้งเดิมของรถหรือกดปุ่ม voice control บนพวงมาลัยรถค้างไว้เพื่อเปิดการใช้งานโปรแกรมผู้ช่วยอัจฉริยะ “Siri” ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่วางมือจากพวงมาลัยรถน้อยลง
     
       ในงาน แอปเปิลสาธิตให้เห็นว่าไอโฟนจะถูกเชื่อมต่อกับรถผ่านคุณสมบัติคาร์เพลย์ จากนั้น Siri จะรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงข้อมูลรายการเบอร์โทร การต่อสายโทรศัพท์ การเปิดดูสายมิสคอลล์ หรือการเปิดกล่องข้อความเสียง voicemail จุดนี้หากมีข้อความเข้าใหม่ Siri จะเป็นผู้อ่านข้อความนั้นให้ผู้ขับฟัง รวมถึงรอรับคำสั่งตอบกลับข้อความนั้นด้วยการโทรกลับหรือการพิมพ์ข้อความแล้วส่งกลับ
     
       นอกจากนี้ คาร์เพลย์ยังสามารถแนะนำเส้นทางได้ด้วยการใช้ข้อมูลจากบริการแผนที่ Apple Maps ระบบสามารถบอกสภาพการจราจรในเวลานั้น และคำนวณเวลาถึงที่หมายได้อย่างแม่นยำ ผู้ขับยังสามารถสั่ง Siri ให้แสดงรายละเอียดเส้นทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยวหรือ turn-by-turn บนหน้าจอที่ฝังไว้ในรถได้เช่นกัน
     
       รายงานระบุว่า รถจากค่ายหรูอย่างเฟอร์รารี่ (Ferrari), เมอร์เซเดส เบนซ์ (Mercedes-Benz) และวอลโว (Volvo) จะชิมลางพร้อมโชว์ระบบคาร์เพลย์เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสระบบคาร์เพลย์ภายในงานที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยกลุ่มค่ายรถที่กำลังเตรียมการรองรับคาร์เพลย์ในอนาคตคือบีเอ็มดับบลิว (BMW Group), ฟอร์ด (Ford), จีเอ็ม (General Motors), ฮอนด้า (Honda), ฮุนได (Hyundai Motor), จากัวร์ แลนด์ โรเวอร์ (Jaguar Land Rover), เกีย มอเตอร์ (Kia Motors), มิตซูบิชิ มอเตอร์ (Mitsubishi Motors), นิสสัน (Nissan Motor Company), เปอร์โยต์ ซีตรอง (PSA Peugeot Citroën), ซูบารุ (Subaru), ซูซูกิ (Suzuki) และโตโยต้า (Toyota Motor)
     
       ทั้งหมดนี้ เกรก จอสเวียก (Greg Joswiak) รองประธานฝ่ายการตลาดไอโฟนและไอโอเอส ให้ความเห็นว่าระบบคาร์เพลย์ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานไอโฟนในรถ ซึ่งนอกจากค่ายรถ คาร์เพลย์ยังมีความร่วมมือกับกลุ่มผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องเสียงด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดเผยชื่อในงานมหกรรมยานยนต์ที่เจนีวาเช่นกัน
     
       คุณสมบัติคาร์เพลย์จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 7 เวอร์ชันอัปเดทล่าสุด โดยสามารถทำงานผ่านไอโฟนที่รองรับพอร์ตใหม่ Lightning ทั้งหมด ได้แก่ iPhone 5s, iPhone 5c และ iPhone 5 คาดว่าจะเปิดให้ใช้งานจริงในรถบางรุ่นภายในปีนี้


http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000024680

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.