Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

30 พฤษภาคม 2557 สตาร์คอม.อติพล ระบุ ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผลสำรวจของการวัดเรตติ้งจากบริษัทนีลเส้นฯ และสตาร์คอมเอง พบว่าช่องฟรีทีวีรายเดิมมีเรตติ้งลดลงประมาณ 8-15%


ประเด็นหลัก

 ++ เรตติ้งฟรีทีวีลด 15%                          
    นายอติพล  อิทธิวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์คอม ประเทศไทย จำกัด   กล่าวว่า ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาหลังจากเริ่มออกอากาศช่องทีวีดิจิตอลไปแล้วนั้น ผลสำรวจของการวัดเรตติ้งจากบริษัทนีลเส้นฯ และสตาร์คอมเอง พบว่าช่องฟรีทีวีรายเดิมมีเรตติ้งลดลงประมาณ 8-15%  ซึ่งเรตติ้งที่ลดลงบริษัทคาดการณ์ว่าอาจจะมาจากผู้ชมทดลองเปลี่ยนดูช่องบน ระบบทีวีดิจิตอล ทำให้เรตติ้งดังกล่าวลดลง ขณะเดียวกันในช่วงวันที่ 25-27 เมษายนที่ผ่านมาช่องทีวีดิจิตอลที่ได้รับความนิยมและมีผู้ชมมากสุด ได้แก่ ช่อง 8 ,เวิร์คพอยท์ ทีวี ,นิวส์ ทีวี (เดลินิวส์) และไทยรัฐทีวี


______________________________________

 'ฟรีทีวี' แข่งเดือดหั่นโฆษณาชนดิจิตอล




 ฟรี ทีวี เซลล์กระหน่ำปรับลดราคา - ขายพ่วงโฆษณาดักทางผู้ประกอบการโยกเงินลงช่องดิจิตอล  "ช่อง 7"   ชงราคาไพรม์ไทม์ 5 แสนบาทต่อนาที แถมพ่วงช่อง HD ฟรี ส่วน "ช่อง 9"  ส่งโปรโมชันเอาใจเอเยนซีหั่นลดกว่า 50% จาก 4.5 แสนบาทต่อนาทีเหลือ 2.2-3.8 แสนบาทต่อนาที ด้าน "สตาร์คอม" ชี้ผลสำรวจนีลเส็น เดือนแรกเรตติ้งโฆษณาฟรีทีวีลดฮวบ 8-15% เหตุผู้ชมเปลี่ยนช่องถี่ ขณะที่ "มายด์แชร์" เผยปรับพฤติกรรมซื้อสื่อเป็นแบบเดือนชนเดือนแทน
alt    แหล่งข่าวระดับสูงในวงการโฆษณา  เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"  ว่า  ปัจจุบันอัตราค่าโฆษณาของสื่อฟรีทีวี มีการปรับลดราคาลงเพื่อดึงดูดให้ผู้ผลิตสินค้าหันมาเลือกลงโฆษณามากขึ้น  หลังจากที่พบว่ามีสินค้าบางหมวดหันไปเลือกใช้สื่อโฆษณาผ่านทางทีวีดิจิตอล ซึ่งเริ่มออกอากาศจำนวน 24 ช่องตั้งแต่วันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา  ด้วยเหตุผลเพราะมีราคาที่ถูกกว่า และสามารถเลือกเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้มากกว่า ทำให้เกิดผลตอบรับที่ดีกว่า นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ประกอบการบางรายมีการขายแพ็กเกจโฆษณาพ่วงระหว่างทีวีอะนาล็อก และทีวีดิจิตอล เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับโฆษณาที่ลงไปด้วย  ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ากับการลงทุน
    ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่า ช่องฟรีทีวียักษ์ใหญ่ที่ขึ้นชื่อว่ามีเรตติ้งสูงสุดอย่างช่อง 7  ซึ่งหลังจากที่ออนแอร์ช่องทีวีดิจิตอลใหม่ในระบบความคมชัดสูง (HD) ภายใต้ชื่อ "ช่อง 7 HD" ล่าสุดงัดกลยุทธ์ขายพ่วง  ให้กับลูกค้าที่ลงโฆษณาผ่านเอเยนซี  โดยลูกค้าที่ลงโฆษณาในช่วงไพรม์ไทม์ ของช่อง 7 อะนาล็อก ซึ่งมีอัตราค่าโฆษณา 5 แสนบาทต่อนาที  จะสามารถลงโฆษณาได้ฟรีทางช่อง 7  HD ในสัดส่วนเท่ากัน เช่น โฆษณาช่อง 7  รวม 5 นาที จะได้รับฟรีโฆษณาทางช่อง 7 HD 5 นาทีเช่นกัน
 ++ ช่อง 9 หั่นราคา 50%
    ขณะที่ช่องฟรีทีวีอย่าง "ช่อง 9"  ซึ่งมีจุดเด่นทั้งเรื่องของรายการสำหรับเด็ก , ข่าว และวาไรตี  และเป็นช่องฟรีทีวีที่มีเรตติ้งสูงเป็นอันดับ 3 ก็ได้รับผลกระทบจากการเปิดทีวีดิจิตอลเช่นกัน  ส่งผลให้ล่าสุดต้องหั่นราคาอัตราค่าโฆษณาลงในรูปแบบของส่วนลด โดยมีส่วนลดสูงสุดกว่า 50% โดยเฉพาะในรายการที่มีเรตติ้งสูง เช่น บ้านนี้มีรัก ,   ล.หมัดเด็ดเสียงทอง เป็นต้น  จากปกติที่มีอัตราค่าโฆษณาประมาณ 4.5 แสนบาทต่อนาที  ลดลงเหลือเพียง 2.2 -3.8 แสนบาทต่อนาที
 ++ ช่อง 3 เมินลดไพรม์ไทม์
    จากการสอบถามไปยังช่อง 3 อะนาล็อก พบว่าอัตราค่าโฆษณายังคงอยู่ในเรตเดิม ไม่มีการปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด โดยช่วงไพรม์ไทม์ (ช่วงเวลา 20.15 น. ซึ่งเป็นละครหลังข่าว) พบว่า มีราคาเฉลี่ย 4.8 แสนบาทต่อนาทีเช่นเดิม และมีผู้สนใจจองโฆษณาอย่างต่อเนื่องไม่ลดลง  ขณะที่รายการที่ได้รับความนิยมของช่อง 3 ที่มีอัตราค่าโฆษณาตั้งแต่ 4 แสนบาทต่อนาทีขึ้นไปได้แก่ 3 แซ่บ ,ศึก 12 ราศี,เทคมีเอ้าท์ ไทยแลนด์  เป็นต้น
    ส่วนกรณีที่ผังรายการของช่อง 3 อะนาล็อก ไม่เดินคู่ขนานไปกับช่องทีวีดิจิตอลนั้น  ซึ่งจะต้องสิ้นสุดการทำหน้าที่เป็นผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ทั่วไปตามข้อ 8 ของประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)เรื่อง หลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (มัสต์แคร์รี)  นับตั้งแต่วันที่เริ่มแพร่ภาพออกอากาศในระบบดิจิตอลแล้ว 30 วันนั้น  ล่าสุดพบว่า ช่อง 3 ยังยืนยันเดินหน้าออกอากาศระบบอะนาล็อกตามปกติ พร้อมทั้งยื่น กสทช. เพื่อขอให้ศาลปกครองเพิกถอนประกาศฯ ฉบับดังกล่าวและขอคุ้มครองชั่วคราวในระหว่างพิจารณาคดีในสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วย
 ++ ไทยรัฐทีวีให้ส่วนลด
    ด้านนายวัชร วัชรพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด ผู้บริหารทีวีดิจิตอลช่อง "ไทยรัฐทีวี" กล่าวว่า ปัจจุบันอัตราค่าโฆษณาช่องไทยรัฐทีวีเฉลี่ยอยู่ที่ 1 แสนบาทต่อนาที ซึ่งราคาขายอาจจะมีส่วนลดบ้าง 20-30%  แล้วแต่กรณี ขณะเดียวกันบริษัทมองว่าเอเยนซีส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะเลือกลงโฆษณาโดยอาศัย เรตติ้งเป็นหลัก  ซึ่งเรตติ้งที่ใช้ก็ต้องเป็นเรตติ้งสากลระดับโกลบัล  ดังนั้นช่องทีวีหรือรายการนั้นๆต้องได้รับความนิยมจากตัวเลขเรตติ้งของ บริษัท เอจีบี นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัดเท่านั้น
    "สินค้าที่ลงโฆษณาของไทยรัฐทีวี จะมี 5 แบรนด์หลัก ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ  , อีซูซุ , เอไอเอส , ยูนิลิเวอร์ และเทสโก้ โลตัส  รวมไปถึงสินค้าอื่นๆที่สนใจลงโฆษณา  โดยอัตราค่าโฆษณาของไทยรัฐทีวีมีราคาต่ำกว่าฟรีทีวีประมาณ 50%  และหลังจากที่ช่องไทยรัฐทีวีได้ออกอากาศไป 1 เดือนก็ได้รับกระแสตอบรับดีกว่าที่คาดไว้ในตอนต้นเมื่อดูจากตัวเลขเรตติ้ง ของเอเยนซีที่ผ่านมา โดยรายการข่าวภาคค่ำและรายการในช่วง Super Program จะมีคนดูมากที่สุด  ซึ่งในอนาคตเมื่อมีรายการครบสมบูรณ์เต็มรูปแบบ บริษัทตั้งเป้าจะมีผู้ชมไทยรัฐทีวีเฉลี่ย 3-4 ล้านคนต่อวัน"
    อย่างไรก็ดี พบว่า หลังจากช่องทีวีดิจิตอลเริ่มออกอากาศได้เดือนเศษ และมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่การออกอากาศ รวมทั้งรายการที่มีทั้งรายการเก่าและใหม่สลับกันไป ทำให้มีคนดูค่อนข้างน้อย ส่งผลให้บางช่องรายการไม่ได้รับการตอบรับเรื่องของโฆษณาที่ดีเท่าไรนัก  โดยพบว่า บางช่องรายการลดราคาอัตราค่าโฆษณาลงมาจำนวนมาก รวมทั้งมีการจัดโปรโมชันลด แลก แจก แถม ควบคู่กันไป ส่งผลให้อัตราค่าโฆษณาในแต่ละช่วงเวลามีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักหมื่นบาทต่อ นาที ขณะที่ช่วงไพรม์ไทม์มีราคาเฉลี่ย 4-8 หมื่นบาทต่อนาที ซึ่งต่ำกว่าฟรีทีวีถึง 10 เท่า
 ++ เรตติ้งฟรีทีวีลด 15%                          
    นายอติพล  อิทธิวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์คอม ประเทศไทย จำกัด   กล่าวว่า ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาหลังจากเริ่มออกอากาศช่องทีวีดิจิตอลไปแล้วนั้น ผลสำรวจของการวัดเรตติ้งจากบริษัทนีลเส้นฯ และสตาร์คอมเอง พบว่าช่องฟรีทีวีรายเดิมมีเรตติ้งลดลงประมาณ 8-15%  ซึ่งเรตติ้งที่ลดลงบริษัทคาดการณ์ว่าอาจจะมาจากผู้ชมทดลองเปลี่ยนดูช่องบน ระบบทีวีดิจิตอล ทำให้เรตติ้งดังกล่าวลดลง ขณะเดียวกันในช่วงวันที่ 25-27 เมษายนที่ผ่านมาช่องทีวีดิจิตอลที่ได้รับความนิยมและมีผู้ชมมากสุด ได้แก่ ช่อง 8 ,เวิร์คพอยท์ ทีวี ,นิวส์ ทีวี (เดลินิวส์) และไทยรัฐทีวี
++ ปรับซื้อโฆษณาเดือนต่อเดือน
     ด้านนางสาวนภาพร เจตะวัฒนะ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนสื่อ  บริษัท มายด์แชร์ ประเทศไทย จำกัด  กล่าวว่า ปัจจุบันการซื้อโฆษณาของกลุ่มเอเยนซีจะซื้อแบบเดือนต่อเดือน จากเดิมที่ซื้อแบบ 3 เดือน ซึ่งหลักการซื้อโฆษณาเอเยนซีจะให้ความสำคัญกับราคาและการเข้าถึงกลุ่มผู้ชม  ซึ่งหากช่องใด หรือรายการใดมีคุณสมบัติดังกล่าวเอเยนซีย่อมให้ความสนใจ โดยเฉลี่ยเอเยนซีจะวัดเรตติ้งการเข้าถึงของประชากรต่อรายการต่างๆเฉลี่ยของ 50 ล้านคน แบ่งเป็นประเภท ละคร , ข่าว และรายการวาไรตี
    "ความคิดเห็นส่วนตัวมองว่าทีวีดิจิตอลที่เข้ามายังไม่ค่อยเสถียร ดังนั้นการซื้อโฆษณาในช่องดังกล่าวเบื้องต้นคงจะทำได้ยาก  แต่เมื่อไรที่ช่องต่างๆมีคอนเทนต์และช่องที่ดึงดูดกลุ่มผู้ชมได้เอเยนซีก็ พร้อมจะจ่าย"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=232744:2014-05-28-06-58-58&catid=85:2009-02-08-11-22-45&Itemid=417#.U4iI9Xaqlk4

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.