25 มิถุนายน 2557 RS.องอาจ ระบุ ช่อง 8 ปรับอัตราค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นมีผลตั้งแต่วันที่1มิถุนายนที่ อยู่ที่ 20,000-200,000 บาทต่อนาที ซึ่งคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวที่เป็น Deal of the year
ประเด็นหลัก
นายองอาจ สิงห์ลำพอง กรรมการผู้อำนวยการสายงานโทรทัศน์ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารช่องทีวีระบบดิจิทัล "ช่อง 8" กล่าวว่า ภาพรวมการแข่งขันธุรกิจทีวีดิจิทัลค่อนข้างรุนแรงขึ้น โดยจะเห็นจากการใช้กลยุทธ์ดัมพ์ราคาค่าโฆษณา รวมถึงกลยุทธ์ขายโฆษณาพ่วงเป็นแพ็กเกจชัดเจนมากขึ้น เช่น แพ็กเกจขายโฆษณาสื่อทีวีระบบอนาล็อกพ่วงไปกับระบบดิจิทัล หรือระบบทีวีดาวเทียมพ่วงไปกับระบบดิจิทัล เป็นต้น
ทั้ง นี้ คาดว่าช่วงครึ่งปีหลังเม็ดเงินโฆษณาจะเติบโตขึ้น เนื่องจากเริ่มมีสัญญาณบวกที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัย เช่น การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทำให้ภาคเอกชนมีความเชื่อมั่น ส่งผลดีต่อธุรกิจโฆษณาที่ส่วนใหญ่ชะลอการใช้งบในช่วงครึ่งปีแรก, อีเวนต์ใหญ่ระดับโลกอย่างการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์โลก 2014 รวมถึงการแข่งขันดุเดือดจากผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่มีมากถึง 24 ช่อง เชื่อว่าจะได้เห็นแต่ละรายงัดกลยุทธ์ช่วงชิงลูกค้าให้หันมาใช้งบผ่านสื่อที วีดิจิทัลของตัวเอง หลังจากที่การออกอากาศของทีวีดิจิทัลมีการวัดเรตติ้งชัดเจนขึ้น
ขณะ เดียวกันบริษัทได้ปรับอัตราค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นมีผลตั้งแต่วันที่1มิถุนายนที่ ผ่านมา โดยราคาใหม่อยู่ที่ 20,000-200,000 บาทต่อนาที จากเดิม 10,000-120,000 บาทต่อนาที ซึ่งคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวที่เป็น Deal of the year เพราะเมื่อวัดจากจำนวนสายตาผู้ชมแล้วถือว่าคุ้มค่ามาก เนื่องจากเรตติ้งจำนวนผู้ชมดีขึ้น ดูได้จากการวัดผลของเอซี นีลเส็นฯ ในสัปดาห์ล่าสุด พบว่า ช่อง 8 มีเรตติ้งจำนวนผู้ชมอยู่ในอันดับ 5 โดยรายการที่มีเรตติ้งจำนวนผู้ชมสูงสุดของช่องเทียบเท่ากับละครหลังข่าวทาง ฟรีทีวีเดิม ได้แก่ เสียงสวรรค์ พิชิตฝัน เป็นต้น
______________________________________
ไม่แคร์เศรษฐกิจ "ปัญญา-เฮียฮ้อ" เดินหน้าขี้นค่าโฆษณาทีวีดิจิทัล
นายองอาจ สิงห์ลำพอง กรรมการผู้อำนวยการสายงานโทรทัศน์ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารช่องทีวีระบบดิจิทัล "ช่อง 8" กล่าวว่า ภาพรวมการแข่งขันธุรกิจทีวีดิจิทัลค่อนข้างรุนแรงขึ้น โดยจะเห็นจากการใช้กลยุทธ์ดัมพ์ราคาค่าโฆษณา รวมถึงกลยุทธ์ขายโฆษณาพ่วงเป็นแพ็กเกจชัดเจนมากขึ้น เช่น แพ็กเกจขายโฆษณาสื่อทีวีระบบอนาล็อกพ่วงไปกับระบบดิจิทัล หรือระบบทีวีดาวเทียมพ่วงไปกับระบบดิจิทัล เป็นต้น
ทั้งนี้ คาดว่าช่วงครึ่งปีหลังเม็ดเงินโฆษณาจะเติบโตขึ้น เนื่องจากเริ่มมีสัญญาณบวกที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัย เช่น การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทำให้ภาคเอกชนมีความเชื่อมั่น ส่งผลดีต่อธุรกิจโฆษณาที่ส่วนใหญ่ชะลอการใช้งบในช่วงครึ่งปีแรก, อีเวนต์ใหญ่ระดับโลกอย่างการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์โลก 2014 รวมถึงการแข่งขันดุเดือดจากผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่มีมากถึง 24 ช่อง เชื่อว่าจะได้เห็นแต่ละรายงัดกลยุทธ์ช่วงชิงลูกค้าให้หันมาใช้งบผ่านสื่อทีวีดิจิทัลของตัวเอง หลังจากที่การออกอากาศของทีวีดิจิทัลมีการวัดเรตติ้งชัดเจนขึ้น
ขณะเดียวกันบริษัทได้ปรับอัตราค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นมีผลตั้งแต่วันที่1มิถุนายนที่ผ่านมา โดยราคาใหม่อยู่ที่ 20,000-200,000 บาทต่อนาที จากเดิม 10,000-120,000 บาทต่อนาที ซึ่งคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวที่เป็น Deal of the year เพราะเมื่อวัดจากจำนวนสายตาผู้ชมแล้วถือว่าคุ้มค่ามาก เนื่องจากเรตติ้งจำนวนผู้ชมดีขึ้น ดูได้จากการวัดผลของเอซี นีลเส็นฯ ในสัปดาห์ล่าสุด พบว่า ช่อง 8 มีเรตติ้งจำนวนผู้ชมอยู่ในอันดับ 5 โดยรายการที่มีเรตติ้งจำนวนผู้ชมสูงสุดของช่องเทียบเท่ากับละครหลังข่าวทางฟรีทีวีเดิม ได้แก่ เสียงสวรรค์ พิชิตฝัน เป็นต้น
เช่นเดียวกับ นายปัญญา นิรันดร์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารช่องทีวีระบบดิจิทัล "เวิร์คพอยท์ ครีเอทีฟทีวี" กล่าวว่า หลังจากออกอากาศตั้งแต่เดือนเมษายน - มิถุนายนที่ผ่านมา ถือว่าได้รับผลการตอบรับดีทั้งจากผู้ชมและโฆษณา ในอนาคตมีแผนปรับขึ้นราคาโฆษณาอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เวิร์คพอยท์ฯได้ปรับขึ้นราคาโฆษณาไปแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากยกช่องเวิร์คพอยท์ทีวีมาออกอากาศระบบดิจิทัล วางราคาใหม่ตั้งแต่หลักหมื่นถึงแสนบาท โดยมีราคาต่ำสุดอยู่ที่ 20,000 บาทต่อนาที และสูงสุดอยู่ที่หลักแสนต่อนาที
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1403509012
ไม่มีความคิดเห็น: