Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

26 มิถุนายน 2557 LINE จะเป็นเจ้าตลาดเบอร์ 1 ในไทย // เวียดนามที่ถูกครองโดย “ไวเบอร์” // มาเลเซียครองตลาดโดย “วีแชท” “วอตส์แอพ” จากสหรัฐและอินโดนีเซีย ครองตลาดโดย “ระบบเมสเสจของแบล็คเบอร์รี่”


ประเด็นหลัก



เนื่องจากถึงแม้ว่า “ไลน์” จะเป็นเจ้าตลาดเบอร์ 1 ในไทย แต่เมื่อมองดูในระดับภูมิภาคแล้ว ไลน์ไม่ใช่เบอร์ 1 เนื่องจากในต่างประเทศต่างก็มีเจ้าตลาดที่ต่างกันออกไป เช่นใน เวียดนามที่ถูกครองโดย “ไวเบอร์” ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นข้อความจากไซปรัส ตามมาด้วย “ซาโล” จากเวียดนาม ขณะที่ในมาเลเซียครองตลาดโดย “วีแชท” ของบริษัท เทนเซนต์จากจีน ตามมาด้วย “วอตส์แอพ” จากสหรัฐและอินโดนีเซีย ครองตลาดโดย “ระบบเมสเสจของแบล็คเบอร์รี่” ตามด้วย “วอตส์แอพ”




______________________________________

สมรภูมิแอพเมสเสจระอุ!รุกตลาดอาเซียนทุกแนวรบ


โดย...พันธสิทธิ เจริญพาณิชย์พันธ์

กลายเป็นข่าวที่โจษจันไปทั่วทุกสังคม เมื่อปรากฏว่าพบบิลยอดค่าใช้บริการโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนจากลูกค้าผู้ใช้บริการรายหนึ่ง โดนเรียกค่าบริการรายเดือนจากบริษัทผู้ให้บริการสัญญาณมือถือถึง 2 แสนกว่าบาท ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามูลหนี้ที่เกิดขึ้นล้วนมาจากการที่ลูกชายของลูกค้ารายดังกล่าวไปโหลดเพื่อซื้อไอเท็มสินค้าในเกมคุกกี้รัน

แม้ประเด็นดังกล่าวจะเป็นเรื่องของความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กที่ไปซื้อไอเท็มในเกมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบการให้บริการจากแอพพลิเคชั่นข้อความออนไลน์ที่ชื่อว่า “ไลน์” ของ บริษัท นาเวอร์ คอร์ป โดยไม่ทันได้ยั้งคิด

แต่ประเด็นดังกล่าวก็กำลังสะท้อนให้เห็นถึงกระแสความนิยมของแอพพลิเคชั่นข้อความดาวน์โหลดฟรีในไทยกำลังแพร่กระจายไปเกือบทั่วทุกอณูของสังคมแล้ว ไม่เว้นแม้แต่เด็กประถมสมัยนี้ก็มีโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่มีแอพข้อความออนไลน์ใช้กันแล้ว

ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสความนิยมการใช้แอพพลิเคชั่นการส่งข้อความแบบทันที ไม่ได้จำกัดวงอยู่แต่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น หากแต่ยังเป็นไปเกือบทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) แล้ว เนื่องจากปัจจุบันประชาชนทั้งในอินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ กำลังหันมานิยมใช้บริการแอพพลิเคชั่นข้อความกันมากขึ้นทุกขณะ

เนื่องจากการสื่อสารผ่านทางข้อความออนไลน์ในแอพพลิเคชั่นในมือถือกำลังเข้ามาช่วยเติมเต็มและทดแทนการขาดหายไปของปัญหาการไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตลงได้ หลังจากที่รายได้ของคนในอาเซียนกำลังเพิ่มขึ้น สวนทางกับราคามือถือแบบสมาร์ทโฟนโดยรวมที่มีแนวโน้มถูกลงเรื่อยๆ

โดยผลวิจัยด้านการตลาดของนีลเส็น ระบุว่า ปัจจุบัน 50% ของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในไทยล้วนเป็นผู้ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน ขณะที่อินโดนีเซียอยู่ที่ 23% และฟิลิปปินส์ที่ 15% สะท้อนชัดว่าโอกาสทางธุรกิจในตลาดแอพพลิเคชั่นข้อความในอาเซียนยังคงเปิดกว้างอยู่

กระแสความนิยมการใช้บริการแอพข้อความออนไลน์ที่พุ่งกระฉูดหยุดไม่อยู่นี้เองที่ส่งผลทำให้เหล่าบรรดาบริษัทผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นข้อความในสมาร์ทโฟนต่างพร้อมใจกันอยากจะกระโจนเข้ามาเจาะตลาดในอาเซียนกันมากขึ้น และดูเหมือนว่าปัจจุบันจะยังไม่มีผู้ให้บริการแอพข้อความออนไลน์รายใดที่สามารถครองส่วนแบ่งในการเป็นเจ้าตลาดได้อย่างแท้จริง จึงทำให้เกมการแข่งขันจึงยังเปิดกว้างสำหรับทุกฝ่ายอยู่

เนื่องจากถึงแม้ว่า “ไลน์” จะเป็นเจ้าตลาดเบอร์ 1 ในไทย แต่เมื่อมองดูในระดับภูมิภาคแล้ว ไลน์ไม่ใช่เบอร์ 1 เนื่องจากในต่างประเทศต่างก็มีเจ้าตลาดที่ต่างกันออกไป เช่นใน เวียดนามที่ถูกครองโดย “ไวเบอร์” ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นข้อความจากไซปรัส ตามมาด้วย “ซาโล” จากเวียดนาม ขณะที่ในมาเลเซียครองตลาดโดย “วีแชท” ของบริษัท เทนเซนต์จากจีน ตามมาด้วย “วอตส์แอพ” จากสหรัฐและอินโดนีเซีย ครองตลาดโดย “ระบบเมสเสจของแบล็คเบอร์รี่” ตามด้วย “วอตส์แอพ”

ฉะนั้น จึงไม่แปลกที่ผ่านมาหลายบริษัทผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นออนไลน์จะหันมารุกทำการตลาดอย่างหนักหน่วงเพื่อหวังช่วงชิงการเป็นเจ้าตลาด เห็นได้จากการที่ไลน์เร่งออกโฆษณาในพื้นที่สื่อต่างๆ ในไทยมากขึ้น รวมถึงออกสติกเกอร์ข้อความใหม่ๆ ออกมาดึงดูดผู้ใช้อย่างไม่ขาดสาย ซึ่งก็ประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม เนื่องจากสามารถแซงหน้า “วอตส์แอพ” ขึ้นเป็นแอพพลิเคชั่นยอดนิยมอันดับ 1 ของไทยได้เมื่อปีที่แล้ว

“แน่นอนว่าการแข่งขันในตลาดอาเซียนกำลังร้อนระอุ และถ้าคุณมีมือถือสมาร์ทโฟนใช้ คุณย่อมต้องโหลดแอพพลิเคชั่นข้อความเข้ามาใช้แน่นอน” เนฮา ดาเรีย นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัย โอวัม กล่าว
โดยปัจจุบันไลน์มีผู้ใช้บริการที่ใช้อยู่บ่อยครั้งต่อเดือนทั่วโลกมากกว่า 500 ล้านคน และในจำนวนนี้เป็นชาวไทย 27 ล้านคน และอินโดนีเซีย 20 ล้านคน ซึ่งปัจจุบันทางบริษัท นาเวอร์ คอร์ป ผู้ให้บริการไลน์กำลังทำโปรเจกต์การตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าในตลาดชาวมุสลิมให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนรอมฎอนที่จะมีการถือศีลอด ทางไลน์ได้เพิ่มสติกเกอร์ไลน์ที่กำลังทำพิธีละหมาดและเฉลิมฉลองไว้แล้ว

ขณะที่วอตส์แอพเองก็ไม่น้อยหน้า เพราะดูเหมือนจะไม่หยุดเป้าหมายในการครองตลาดแอพพลิเคชั่นข้อความที่มีผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 500 ล้านคนเอาไว้เท่านี้ เนื่องจากทางผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นข้อความชื่อดังจากสหรัฐก็กำลังหันมามุ่งเจาะตลาดในอาเซียนโดยเฉพาะ โดยมุ่งเน้นการปรับลักษณะและการใช้และรูปแบบบริการให้เหมาะกับรสนิยมของคนในท้องถิ่นและดูเหมือนจะทำได้ดีทีเดียว
เนื่องจากปัจจุบันถึงแม้ว่าวอตส์แอพจะไม่ได้ครองความเป็นเจ้าตลาดในประเทศใดประเทศหนึ่งในกลุ่มอาเซียนอย่างชัดเจน แต่ก็ยังคงชิงส่วนแบ่งในการเป็นที่ 2 ได้ในหลายประเทศอยู่ เช่น ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

ขณะที่ วีแชท ซึ่งครองเจ้าตลาดในมาเลเซียก็หันมาอัดโปรโมรชั่นลด แลก แจก แถมด้วยการระบุว่า หากผู้ใช้บริการรายใดแอดแอคเคาท์แชตไทมส์ ผู้ให้บริการเครื่องดื่มชาที่อยู่ในวีแชทอย่างเป็นทางการ ก็จะได้รับส่วนลดการซื้อเครื่องดื่มชาทันที

ทั้งนี้ ถึงแม้บริษัทผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นข้อความออนไลน์ส่วนใหญ่จะไม่เก็บค่าบริการและเปิดให้โหลดฟรี แต่สิ่งที่จูงใจให้บริษัทต่างๆ ต้องเข้ามาแย่งชิงตลาดแอพพลิเคชั่นข้อความอย่างดุเดือดก็คือ ค่าบริการดาวน์โหลดจากบริการเสริมที่เพิ่มเติมขึ้นมา เช่น การดาวน์โหลดสติกเกอร์ตัวการ์ตูน ข้อความ เป็นต้น

ปัจจุบันไม่เพียงเฉพาะแค่การโหมทำเกมรุกเพื่อเจาะตลาดในอาเซียนเท่านั้น แต่ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นข้อความรายใหญ่ของโลกจำนวนมาก ต่างก็สนใจที่จะเข้าไปเทกโอเวอร์ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นข้อความหน้าใหม่ที่อยู่นอกภูมิภาคเข้ามากขึ้นเรื่อยๆ

เห็นได้จากการที่ บริษัท รูคาเต็น อิงค์ ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซในญี่ปุ่น ได้เข้าซื้อกิจการบริษัท ไวเบอร์ ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นข้อความจากไซปรัส ด้วยมูลค่า 900 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาโดยก่อนหน้าที่จะทุ่มทุนซื้อไวเบอร์แทบจะไม่เป็นที่รู้จักในตลาดอาเซียนเลย

ฉะนั้น ในอนาคตการแข่งขันในตลาดแอพพลิเคชั่นข้อความในอาเซียนจึงน่าจะร้อนแรงและแข่งกันดุเดือดเลือดพล่านกว่านี้แน่นอน อีกทั้งผู้ใช้บริการน่าจะได้เห็นบริการรูปแบบใหม่ๆ ออกมาเพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน


http://www.posttoday.com/ดิจิตอลไลฟ์/303093/สมรภูมิแอพแมสเสจระอุ-รุกตลาดอาเซียนทุกแนวรบ

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.