07 มิถุนายน 2557 กสทช. ห้าม Set-Top-Box เวอร์จิ้น และ วินเนอร์ เข้าร่วมโครงการคูปอง!! ต้องมีมาตรการเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้น จะต้องส่งจดหมายไปทุกครัวเรือนที่เคยได้รับแผ่นประชาสัมพันธ์

ประเด็นหลัก


ทั้ง 2 บริษัทจะต้องมีมาตรการเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยจะต้องส่งจดหมายแจ้งไปยังผู้บริโภคว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับทาง กสทช.และยังไม่ได้รับอนุญาตจากทาง กสทช.ให้เป็นผู้จัดจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัล ทั้งนี้ จะต้องส่งจดหมายไปทุกครัวเรือนที่เคยได้รับแผ่นประชาสัมพันธ์ดังกล่าว โดยทั้ง 2 บริษัทจะต้องส่งแผนการเยียวยามาให้กับทางสำนักงาน กสทช.พิจารณาตรวจสอบภายในสัปดาห์นี้ ถ้าไม่ปฏิบัติตามจะถูกขึ้นแบล็กลิสต์และไม่ให้เข้าร่วมโครงการใช้สิทธิ์ คูปองทีวีและกล่องของ กสทช. โดยหลังจากได้รับแผนเยียวยาแล้วจะมีการพิจารณาอีกครั้ง ฝากผู้ประกอบการให้ทำตามกฎกติกาและแจ้งเตือนไปยังผู้บริโภคว่า บ้านเรือนใดที่เคยได้รับใบปลิวแล้วให้นำกล่องไปคืนและนำบัตรประชาชนกลับมาดีที่สุด อย่าเพิ่งหลงเชื่อผู้ประกอบการรายใด เนื่องจากกระบวนการแจกคูปองยังไม่เสร็จสิ้น"




______________________________________

เล็งแบนบ.ล็อกสิทธิ์คูปองดิจิทัล จี้มหาดไทยคุมกำนันผู้ใหญ่บ้าน


ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

"กสทช." เล็งห้าม Set-Top-Box "วินเนอร์" เข้าร่วมโครงการ หลังแอบอ้างชื่อ ลวงผู้บริโภคล็อกสิทธิ์คูปองดิจิทัล พร้อมประสานมหาดไทยกวดขันผู้นำชุมชน เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อให้สำเนาบัตรประชาชน

นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เปิดเผยว่า ได้รับร้องเรียนจากเครือข่ายผู้บริโภคว่ามีบริษัทและกลุ่มบุคคลติดแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ รวมถึงแจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้านและกำนันทั่วประเทศให้ประชาชนนำสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน จองสิทธิ์รับกล่องแปลงสัญญาณโทรทัศน์ (Set-Top-Box) ทีวีดิจิทัล โดยอ้างว่า หากไม่ลงทะเบียนจะไม่ได้สิทธิ์รับคูปองส่วนลดทีวีดิจิทัลที่ กสทช.จะแจกให้ประชาชน

หลังจากได้ตรวจสอบข้อร้องเรียนแล้วจึงเรียกผู้ประกอบการ 6 บริษัทที่ร้องเรียนให้มาชี้แจง ได้แก่ บริษัท โปร คอนเซ็นพท์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตกล่องรับสัญญาณยี่ห้อ One Box Home บริษัท วันบ๊อกซ์ โฮม จำกัด ผู้จำหน่ายกล่องรับสัญญาณ บริษัท ท็อปสตาร์ เพลนนารี่ จำกัด ผู้จำหน่ายกล่องยี่ห้อเวอร์จิ้น บริษัท แฟมิลี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิต Set-Top-Box บริษัท การศึกษาก้าวไกล จำกัด ผู้จัดจำหน่ายกล่องยี่ห้อวินเนอร์ ดิจิทัล และบริษัท วินเนอร์ ดิจิตอล จำกัด ผู้จัดจำหน่ายกล่องยี่ห้อวินเนอร์ ดิจิทัล

"บริษัทการศึกษาก้าวไกลและวินเนอร์ ดิจิตอล ยอมรับว่าทำจริง แต่เป็น การรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดย Set-Top-Box ที่นำมาจำหน่ายยี่ห้อวินเทอร์ ดิจิทัล ที่บริษัท แฟมิลี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตและนำเข้า Set-Top-Box เป็นผู้รับจ้างผลิต แต่ทางแฟมิลี่ฯยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำของทั้ง 2 บริษัท จากนี้ กสทช.จะตรวจสอบข้อมูลเพิ่ม"

พฤติกรรมที่ถูกร้องเรียนคือ บริษัทได้แจกใบปลิวกว่า 3 แสนใบ รวมถึงแจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้านและกำนันทั่วประเทศ ให้ประชาชนนำสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน มาจองสิทธิ์ใช้คูปองนำมาแลกรับ Set-Top-Box ยี่ห้อวินเนอร์ โดยอ้างว่า เป็นกล่องที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก กสทช. ทั้งที่ กสทช.ยังไม่ได้อนุมัติให้ผู้ประกอบการรายใดเข้าร่วมโครงการคูปองทีวีดิจิทัล และโครงการนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ด้วย การกระทำดังกล่าวจึงถือว่า ก่อให้เกิดความเสียหายกับทาง กสทช.อย่างยิ่ง ดังนั้นหากบริษัทใดยังกระทำการในรูปแบบนี้อีก จะเสนอให้ทาง กสทช.สั่งห้ามไม่ให้บริษัท รวมถึงกล่องรับสัญญาณแบรนด์ที่ถูกนำไปใช้ในรูปแบบดังกล่าวเข้าร่วมโครงการคู ปองดิจิทัลของ กสทช.

"ทั้ง 2 บริษัทจะต้องมีมาตรการเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยจะต้องส่งจดหมายแจ้งไปยังผู้บริโภคว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับทาง กสทช.และยังไม่ได้รับอนุญาตจากทาง กสทช.ให้เป็นผู้จัดจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัล ทั้งนี้ จะต้องส่งจดหมายไปทุกครัวเรือนที่เคยได้รับแผ่นประชาสัมพันธ์ดังกล่าว โดยทั้ง 2 บริษัทจะต้องส่งแผนการเยียวยามาให้กับทางสำนักงาน กสทช.พิจารณาตรวจสอบภายในสัปดาห์นี้ ถ้าไม่ปฏิบัติตามจะถูกขึ้นแบล็กลิสต์และไม่ให้เข้าร่วมโครงการใช้สิทธิ์ คูปองทีวีและกล่องของ กสทช. โดยหลังจากได้รับแผนเยียวยาแล้วจะมีการพิจารณาอีกครั้ง ฝากผู้ประกอบการให้ทำตามกฎกติกาและแจ้งเตือนไปยังผู้บริโภคว่า บ้านเรือนใดที่เคยได้รับใบปลิวแล้วให้นำกล่องไปคืนและนำบัตรประชาชนกลับมาดีที่สุด อย่าเพิ่งหลงเชื่อผู้ประกอบการรายใด เนื่องจากกระบวนการแจกคูปองยังไม่เสร็จสิ้น"

ขณะเดียวกันยังได้รับการร้องเรียนเพิ่มมาอีก 1 บริษัท ได้แก่ บริษัท โซกู๊ด โกบอล จำกัด ซึ่งจะได้เรียกให้มาชี้แจงต่อไป พร้อมกันนี้จะประสานกับกระทรวงมหาดไทยและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ให้กวดขันกับผู้นำชุมชนในกรณีนี้ด้วย



http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1404707244