Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

18 กรกฎาคม 2557 กสทช.นัดค่ายมือถือถกเรื่องการถือหุ้นต่างชาติ 24 ก.ค.!! ต้องนำส่งโครงสร้างการถือหุ้นและการถือครองธุรกิจของกลุ่มบริษัทในเครือ ข้อกำหนดหรือสิทธิ์ในการออกเสียงของผู้ถือหุ้นของบริษัท

ประเด็นหลัก


    นายก่อกิจ ด้านชัยวิจิตร รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ได้มีหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 16 ก.ค.57 ถึงผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 ราย คือ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส , บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค และ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ผู้ให้บริการทรูมูฟเอช เข้าชี้แจงสถานภาพการครอบงำกิจการตามประกาศ กสทช.
    ทั้งนี้ การเข้าตรวจสอบสถานภาพครอบงำกิจการของผู้ให้บริการทั้ง 3 ราย เป็นไปตามประกาศ กสทช. เรื่อง การกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำโดยคนต่างด้าว พ.ศ.2555 โดยขอให้ทั้ง 3 รายเตรียมข้อมูลนำส่ง กสทช. ในวันที่ 24 ก.ค.57 คือ ภาพรวมการประกอบธุรกิจของบริษัทและนิติบุคคลที่เป็นบริษัทใหญ่ บริษัทย่อยและบริษัทร่วม นอกจากนี้ยังต้องนำส่งโครงสร้างการถือหุ้นและการถือครองธุรกิจของกลุ่มบริษัทในเครือ ข้อกำหนดหรือสิทธิ์ในการออกเสียงของผู้ถือหุ้นของบริษัท รวมไปถึงโครงสร้างการบริหารภายในของบริษัท โดยแสดงให้เห็นถึงรายชื่อและตำแหน่งของผู้บริหารที่มีความสำคัญ
    อย่างไรก็ตาม การเรียกเข้าชี้แจงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ไม่พอใจผู้บริหารเทเลนอร์อย่างมาก กรณีให้สัมภาษณ์ว่าหนึ่งในกรรมการ กสทช. เป็นผู้สั่งให้ปิดเว็บไซต์เฟซบุ๊กในไทย จากเหตุการณ์เฟซบุ๊กล่ม 40 นาทีเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยประธาน กทค. ระบุชัดเจนว่าจะเข้าตรวจสอบโครงสร้างการถือหุ้นของดีแทค


______________________________




กสทช.นัดค่ายมือถือถกเรื่องการถือหุ้นต่างชาติ 24 ก.ค.




       กสทช.นัด 3 ค่ายมือถือเอไอเอส ดีแทค ทรู ถกเรื่องการถือหุ้นต่างชาติ ใน 3 ประเด็นหลัก เพื่อเตรียมความพร้อมรอการประมูลความถี่ 1800 MHz กับ 900 MHz หาก คสช.มีคำสั่งให้จัดประมูลได้
     
       พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช.ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) กล่าวว่า ถึงแม้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังไม่มีคำสั่งเรื่องการประมูลความถี่ 1800 MHz และ 900 MHz หลังจากที่ให้ชะลอออกไปก่อน แต่ กทค.จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมล่วงหน้า เพื่อรองรับการประมูลที่ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบใดก็ตาม โดยในวันที่ 24 ก.ค. จะเรียกโอเปอเรเตอร์มาประชุมเพื่อหารือในเรื่องการถือหุ้นของต่างชาติ เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของ กสทช.เรื่องการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำโดยคนต่างด้าว
     
       ทั้งนี้ โอเปอเรเตอร์ที่เข้าร่วมประชุมจะต้องเตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงประกอบด้วย 1.ภาพรวมการประกอบธุรกิจของบริษัท และนิติบุคคลที่เป็นบริษัทใหญ่ บริษัทย่อย และบริษัทร่วม รวมถึงโครงสร้างการถือหุ้น และการถือครองธุรกิจของกลุ่มบริษัทในเครือ 2.ข้อกำหนดหรือสิทธิในการออกเสียงของผู้ถือหุ้นของบริษัท และ 3.โครงสร้างการบริหารภายในบริษัท โดยแสดงให้เห็นถึงรายชื่อ และตำแหน่งของผู้บริหารที่มีความสำคัญ
     
       “ประเด็นการตรวจสอบการถือหุ้นของต่างชาติว่าเป็นไปตามกฎหมาย และประกาศของ กสทช.นั้น เป็นการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา และเป็นการตรวจสอบทุกราย มิใช่รายใดรายหนึ่งเท่านั้น”
     
       ก่อนหน้าที่ คสช.จะมีคำสั่งให้ชะลอการประมูลความถี่ 1800 MHz และ 900 MHz นั้น กทค.ได้มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขร่างประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่านความถี่ 1800 MHz ตามที่คณะอนุกรรมการ 1800 MHz เสนอมาภายหลังได้นำความคิดเห็นต่างๆ ที่ได้จากเวทีรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) เมื่อวันที่ 28 พ.ค.มาวิเคราะห์โดยสรุปมีประเด็นที่ต้องปรับแก้ไขเพียงเรื่องเดียวที่สำคัญคือ วิธีการจัดสรรใบอนุญาต
     
       โดยถ้ามีผู้เข้าประมูลไม่ถึง 3 ราย คือ มีเพียง 2 ราย หรือแค่ 1 รายเท่านั้น กสทช.ก็จะเปิดประมูลต่อไปเช่นเดิม แต่ กสทช.จะขยายวันรับสมัครผู้เข้าประมูลออกไปอีก 30 วัน แต่หากครบกำหนดยังไม่มีผู้เข้าร่วมประมูลเพิ่มขึ้น กสทช.ก็ยืนยันเปิดการประมูลต่อไป เพราะในเมื่อบทบาทของ กสทช.จะต้องเป็นจัดสรรคลื่นความถี่ให้แก่ผู้ประกอบการ ก็จำเป็นต้องทำหน้าที่ต่อไป จากเดิมที่ประเด็นวิธีการจัดสรรใบอนุญาตจะระบุไว้ว่า หากมีผู้เข้าร่วมประมูลเพียง 2 ราย ซึ่งจะเท่ากับจำนวนใบอนุญาต หรือเข้าประมูลเพียง 1 ราย กสทช.จะยกเลิกการประมูลในทันที
     
       ขณะที่เกณฑ์การประมูลสำคัญอื่นๆ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด เช่น ราคาตั้งต้นของใบอนุญาตที่ใบละ 11,600 ล้านบาท ต่อ 12.5 MHz อายุใบอนุญาต 19 ปี การเคาะราคาต่อ 1 ครั้ง จะเพิ่มขึ้น 580 ล้านบาท หรือ 5% ของราคาตั้งต้น อนุญาตให้บริษัท ทีโอที และบริษัท กสท โทรคมนาคม สามารถเข้าร่วมประมูลได้ การชำระเงินค่าใบอนุญาตแบ่งเป็น 3 งวด คือ งวดที่ 1 จำนวน 50% งวดที่ 2 และ 3 งวดละ 25% และกำหนดความครอบคลุมโครงข่ายที่ 40% ของอัตราประชากรภายในระยะเวลา 4 ปี
     
       ทั้งนี้ การปรับแก้ในประเด็นวิธีการจัดสรรใบอนุญาตในเรื่องการเปลี่ยนแปลงจำนวนผู้เข้าร่วมประมูลใบอนุญาตดังกล่าว อาจมีผลสืบเนื่องจากความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่าง กทค.กับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ภายหลังผู้ถือหุ้นคือ เทเลนอร์ เอเชีย ให้สัมภาษณ์แก่หนังสือพิมพ์ต่างประเทศว่า กทค.ได้สั่งให้ดีแทคดำเนินการปิดเฟซบุ๊ก ต่อมายังล็อบบี้ กทค.ห้ามไม่ให้พูดถึงเรื่องนี้ จนเป็นสาเหตุให้ กทค.จะมีการตรวจสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบุคคลต่างด้าวในกิจการโทรคมนาคมก่อนเข้าประมูล 1800 MHz อย่างเข้มข้น จนอาจจะเป็นสาเหตุทำให้ดีแทคไม่ผ่านหลักเกณฑ์การเข้าประมูล และเมื่อพิจารณาตามข้อกำหนดในหลักเกณฑ์ใหม่นี้ หากมีเพียง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) และบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น เพียง 2 ราย กสทช.ก็จะสามารถเดินหน้าการประมูลได้ ต่างจากเดิมที่หากมีผู้เข้าประมูลเพียง 2 ราย หรือน้อยกว่าใบอนุญาตที่จัดสรร กสทช.จะต้องยกเลิกการประมูลทันที
     
       *** กสทช.รีฟาร์มมิ่งความถี่ทหาร
     
       นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุม กสทช.วันที่ 16 ก.ค.มีมติเห็นชอบ ร่างแผนปฏิบัติการกำหนด และจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่ หรือการกำหนดและจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่ เพื่อปรับปรุงการใช้งานคลื่นความถี่ (รีฟาร์มมิ่ง) ในกิจการวิทยุคมนาคมบนความถี่วิทยุย่าน 790-960 MHz และ 1710 - 1880 MHz เพื่อมาใช้ในการประมูลคลื่นความถี่ในกิจการโทรคมนาคม ทั้งย่าน 900 และ 1800 MHz โดยแผนการรีฟาร์มมิ่ง ความถี่ 900 MHz จะเริ่มดำเนินการตามระยะเวลา ส่วนความถี่ 1800 MHz จะให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.นี้
     
       โดยการรีฟาร์มมิ่งความถี่ ดังกล่าว เป็นการนำความถี่จากการใช้งานด้านความมั่นคงของทหาร เพื่อมาจัดสรรใช้ในความถี่กิจการโทรคมนาคม และหาความถี่ทดแทนใหม่ให้ทหารได้ใช้ในงานด้านความมั่นคงต่อไป โดยมติดังกล่าวเป็นผลมาจากการประชุมร่วมกันมาตลอด 2 ปี ของคณะอนุกรรมการประสานงานการบริหารคลื่นความถี่เพื่อความมั่นคงของรัฐในกิจการโทรคมนาคมและกิจการวิทยุคมนาคม
     
       นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้กำหนดวาระพิเศษเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การแจกคูปองกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลแก่ประชาชน โดยเบื้องต้นเชื่อว่าหลักเกณฑ์จะแล้วเสร็จในเดือน ส.ค.นี้ และน่าจะเริ่มขั้นตอนการแจกคูปองให้แก่ประชาชนได้ไม่เกินวันที่ 15 ก.ย.นี้
     
       ที่ประชุม กสทช.ยังมีมติเห็นชอบสรุปผลการรับฟังความเห็นสาธารณะ และ (ร่าง) ประกาศ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์การพิจารณากำหนดผู้มีอำนาจเหนือตลาดอย่างมีนัยสำคัญในตลาด เพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาด หรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรม ในการแข่งขัน พ.ศ. ... และ (ร่าง) ประกาศ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์การพิจารณาและกำหนดมาตรการเฉพาะเพื่อแก้ไขผลที่เกิดจากพฤติกรรมอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันใน กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. ... ซึ่งได้ปรับปรุงภายหลังการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ และผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) แล้ว
     
       สำหรับสาระสำคัญของประกาศเรื่องหลักเกณฑ์การพิจารณากำหนดผู้มีอำนาจเหนือตลาดฯ ได้มีการกำหนดนิยามของตลาด และขอบเขตของตลาดที่เกี่ยวข้องในกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ เพื่อใช้ในการประเมินสภาพการแข่งขัน และกำหนดมาตรการเฉพาะสำหรับตลาดที่เกี่ยวข้อง และให้มีการพิจารณาทบทวนนิยามที่เกี่ยวข้องทุกระยะเวลา 3 ปี หรือตามที่ กสท.เห็นสมควร
     
       ส่วนสาระสำคัญเรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาและกำหนดมาตรการเฉพาะเพื่อแก้ไขผลที่เกิดจากพฤติกรรมฯ นั้น ได้แก่ หลักเกณฑ์การพิจารณาพฤติกรรมที่เป็นการผูกขาด หรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ มาตรการเฉพาะเพื่อเป็นการเยียวยาผลจากการกระทำอันเป็นการผูกขาด หรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการฯ
     
       สำหรับการพิจารณาในด้านอื่นนั้น ที่ประชุมยังได้มีมติเห็นชอบ (ร่าง) ประกาศ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์การจัดทำผังรายการสำหรับการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. ...เพื่อนำไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ตามมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ต่อไป โดยสาระสำคัญของร่างประกาศ กสทช. ดังกล่าว เป็นการปรับปรุงเนื้อหาจากประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดทำผังรายการสำหรับการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ.2556 เพื่อให้การออกอากาศรายการข่าวในพระราชสำนักสามารถออกอากาศได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยขยายระยะเวลาการออกอากาศรายการข่าวในพระราชสำนักในเวลาที่มีเหตุจำเป็นทำให้ไม่สามารถออกอากาศได้ในเวลาปกติ เป็นให้ออกอากาศได้ในช่วงระหว่างเวลา 18.00-22.00 น. โดยในเวลาปกติกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตที่ใช้คลื่นความถี่ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป ต้องจัดให้มีการออกอากาศ รายการเพลงชาติไทย ทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ในเวลา 08.00 น. และเวลา 18.00 น. และรายการข่าวในพระราชสำนัก โดยสำหรับกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ กำหนดให้ออกอากาศทุกวัน ในระหว่างเวลา 19.00-20.30 น.
     
       นายฐากร กล่าวว่า สำหรับยอดผู้ประกอบการวิทยุกระจายเสียงเข้ามายืนยันตนและดำเนินการขอออกอากาศ ณ สำนักงาน กสทช. เขตทั้ง 14 เขต มีจำนวนทั้งสิ้น 460 ราย โดยสำนักงาน กสทช. ได้ประกาศรายชื่อผู้ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงที่สามารถออกอากาศทางเว็บไซต์สำนักงาน กสทช. https://broadcast.nbtc.go.th/radio/ แล้ว 82 ราย แบ่งเป็นผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงประเภทธุรกิจ 73 ราย สาธารณะ 6 ราย และชุมชน 3 ราย



http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000080391


______________________________





กสทช.เคลียร์ปมต่างด้าว ดีแทคให้ส่วนลดมือถือ



  กสทช.เรียก 3 ค่ายมือถือเคลียร์ปมต่างด้าว 24 ก.ค. ดีแทคจัดยิ่งอยู่นานยิ่งรักกัน ปี 2 ตั้งเป้าปีนี้ดึงคนใช้สิทธิ์ 3 แสนราย
    นายก่อกิจ ด้านชัยวิจิตร รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ได้มีหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 16 ก.ค.57 ถึงผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 ราย คือ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส , บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค และ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ผู้ให้บริการทรูมูฟเอช เข้าชี้แจงสถานภาพการครอบงำกิจการตามประกาศ กสทช.
    ทั้งนี้ การเข้าตรวจสอบสถานภาพครอบงำกิจการของผู้ให้บริการทั้ง 3 ราย เป็นไปตามประกาศ กสทช. เรื่อง การกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำโดยคนต่างด้าว พ.ศ.2555 โดยขอให้ทั้ง 3 รายเตรียมข้อมูลนำส่ง กสทช. ในวันที่ 24 ก.ค.57 คือ ภาพรวมการประกอบธุรกิจของบริษัทและนิติบุคคลที่เป็นบริษัทใหญ่ บริษัทย่อยและบริษัทร่วม นอกจากนี้ยังต้องนำส่งโครงสร้างการถือหุ้นและการถือครองธุรกิจของกลุ่มบริษัทในเครือ ข้อกำหนดหรือสิทธิ์ในการออกเสียงของผู้ถือหุ้นของบริษัท รวมไปถึงโครงสร้างการบริหารภายในของบริษัท โดยแสดงให้เห็นถึงรายชื่อและตำแหน่งของผู้บริหารที่มีความสำคัญ
    อย่างไรก็ตาม การเรียกเข้าชี้แจงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ไม่พอใจผู้บริหารเทเลนอร์อย่างมาก กรณีให้สัมภาษณ์ว่าหนึ่งในกรรมการ กสทช. เป็นผู้สั่งให้ปิดเว็บไซต์เฟซบุ๊กในไทย จากเหตุการณ์เฟซบุ๊กล่ม 40 นาทีเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยประธาน กทค. ระบุชัดเจนว่าจะเข้าตรวจสอบโครงสร้างการถือหุ้นของดีแทค
    ด้านนายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด ดีแทค กล่าวว่า จากความสำเร็จของโปรโมชั่น ยิ่งอยู่นาน ยิ่งรักกัน ในปี 2556 ที่ผ่านมา มีลูกค้ากว่า 120,000 ราย ที่นำอายุการใช้งานมาเป็นส่วนลดค่าเครื่อง ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 140 ล้านบาท ทำให้บริษัทเดินหน้าจัดโครงการนี้ในปีที่ 2 จะมีลูกค้าให้ความสนใจนำอายุการใช้งานมาเป็นส่วนลดค่าเครื่องราว 300,000 แสนราย ซึ่งในจำนวนนี้คาดว่ามี 50,000 ราย ที่เปิดเบอร์ใหม่หรือย้ายค่ายเบอร์เดิม โดยมีมูลค่าส่วนลดถึง 300 ล้านบาท.


 http://www.thaipost.net/news/180714/93267

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.