18 กรกฎาคม 2557 CA.ฉั่ว ไอ พิน ระบุ ธุรกิจทุกส่วนนับจากนี้จะมีแอปพลิเคชันอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น เผย 5 เทรนด์ที่จะกระทบธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก คือ 1.Cloud Computing 2.Mobility 3.Business Intelligence 4.Devops และ 5.Big Data ด้านตลาดไทยพร้อมแล้วที่จะสร้างแอปสำหรับธุรกิจ
ประเด็นหลัก
ฉั่ว ไอ พิน รองประธานเอเชียใต้ บริษัท ซีเอ เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า ธุรกิจทุกส่วนนับจากนี้จะมีแอปพลิเคชันอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น โดยซีเอเชื่อว่าแอปพลิเคชันจะเป็นตัวสร้างรายได้ให้แก่องค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันลูกค้าเริ่มเข้าสู่โลกดิจิตอลมากขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มใช้โมบายมากขึ้น และใช้งานดีไวซ์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งการใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นส่วนใหญ่นี่เองจะทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อรับมือต่อความต้องการดังกล่าวด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชันขึ้นมาตอบสนอง
นอกจากนี้ ธุรกิจจะสามารถทำธุรกิจข้ามกันได้ เช่น แบงก์สามารถทำธุรกรรมกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในเรื่องการทำสินเชื่อเรื่องบ้าน ในเรื่องของแอปในการคุยกับหลังบ้านเป็นเรื่องสำคัญ ทำให้ลูกค้าสะดวกมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเข้าเว็บนี้แล้วไปเข้าเว็บอื่น ซึ่งต้องมีระบบการคุยกันหลังบ้าน ดังนั้น ธุรกิจต้องทำการพัฒนาแอปให้ทันต่อลูกค้า และคู่แข่ง เพราะถือว่าเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้องค์กรสามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะองค์กรใหญ่ๆ
“บทบาทของไอที และผู้นำฝ่ายไอทีกำลังจะเปลี่ยนไป เนื่องจากเทรนด์ใหม่ๆ เริ่มเข้ามา ทำให้การรันไอทีแบบเดิมเริ่มมีผลกระทบ รวมไปถึงความคาดหวังจากไอทีที่เพิ่มขึ้น เพราะลูกค้ามีความต้องการความรวดเร็ว ดังนั้น ฝ่ายไอทีต้องให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต้องเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจในการให้ไอเดีย รวมถึงวางแผนภาคธุรกิจด้วย นอกจากนี้ ผู้บริหารไอทีในปัจจุบันจะต้องมุ่งเน้นเขียนแอปพลิเคชัน โดยเฉพาะบนโมบายแอปพลิเคชันมากกว่า เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้ายุคใหม่”
______________________________
ซีเอ ชี้อนาคตแอปจะเป็นตัวสร้างรายได้ให้ธุรกิจ
“ซีเอ” ชี้ธุรกิจทุกส่วนนับจากนี้จะมีแอปพลิเคชันอยู่เบื้องหลัง และเป็นตัวสร้างรายได้ให้แก่องค์กร แนะธุรกิจต้องเร่งพัฒนาแอปให้พร้อมรับมือกับลูกค้า และคู่แข่ง บทบาทของผู้นำด้านไอทีจะเปลี่ยนไป และมีส่วนร่วมในการสร้างสินค้าและบริการใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น เผย 5 เทรนด์ที่จะกระทบธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก คือ 1.Cloud Computing 2.Mobility 3.Business Intelligence 4.Devops และ 5.Big Data ด้านตลาดไทยพร้อมแล้วที่จะสร้างแอปสำหรับธุรกิจ
ฉั่ว ไอ พิน รองประธานเอเชียใต้ บริษัท ซีเอ เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า ธุรกิจทุกส่วนนับจากนี้จะมีแอปพลิเคชันอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น โดยซีเอเชื่อว่าแอปพลิเคชันจะเป็นตัวสร้างรายได้ให้แก่องค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันลูกค้าเริ่มเข้าสู่โลกดิจิตอลมากขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มใช้โมบายมากขึ้น และใช้งานดีไวซ์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งการใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นส่วนใหญ่นี่เองจะทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อรับมือต่อความต้องการดังกล่าวด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชันขึ้นมาตอบสนอง
นอกจากนี้ ธุรกิจจะสามารถทำธุรกิจข้ามกันได้ เช่น แบงก์สามารถทำธุรกรรมกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในเรื่องการทำสินเชื่อเรื่องบ้าน ในเรื่องของแอปในการคุยกับหลังบ้านเป็นเรื่องสำคัญ ทำให้ลูกค้าสะดวกมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเข้าเว็บนี้แล้วไปเข้าเว็บอื่น ซึ่งต้องมีระบบการคุยกันหลังบ้าน ดังนั้น ธุรกิจต้องทำการพัฒนาแอปให้ทันต่อลูกค้า และคู่แข่ง เพราะถือว่าเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้องค์กรสามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะองค์กรใหญ่ๆ
“บทบาทของไอที และผู้นำฝ่ายไอทีกำลังจะเปลี่ยนไป เนื่องจากเทรนด์ใหม่ๆ เริ่มเข้ามา ทำให้การรันไอทีแบบเดิมเริ่มมีผลกระทบ รวมไปถึงความคาดหวังจากไอทีที่เพิ่มขึ้น เพราะลูกค้ามีความต้องการความรวดเร็ว ดังนั้น ฝ่ายไอทีต้องให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต้องเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจในการให้ไอเดีย รวมถึงวางแผนภาคธุรกิจด้วย นอกจากนี้ ผู้บริหารไอทีในปัจจุบันจะต้องมุ่งเน้นเขียนแอปพลิเคชัน โดยเฉพาะบนโมบายแอปพลิเคชันมากกว่า เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้ายุคใหม่”
ไอ พิน กล่าวว่า สำหรับเทรนด์ที่สำคัญ และจะส่งผลกระทบในเอเชียแปซิฟิกนับจากนี้ ประกอบด้วย 5 เทรนด์หลักประกอบไปด้วย 1.Cloud Computing ที่จะมีการใช้งานแอปบนคลาวด์มากขึ้น 2.Mobility มีการใช้แอปบนโมบายดีไวซ์มากขึ้น 3.Business Intelligence 4.Devops คือ การนำทีมดีเวลลอปเมนต์กับโอเปอเรชันมาทำงานร่วมกัน และ 5.Big Data ที่จะมีการใช้ดึงข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์เพื่อให้การสร้างบริการที่ดีให้แก่ลูกค้า
ซีเอ ชี้อนาคตแอปจะเป็นตัวสร้างรายได้ให้ธุรกิจ
“Devops เป็นสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นในเอเชียแปซิฟิก เป็นไอเดียใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากความต้องการสร้างแอปพลิเคชัน โดยหลายองค์กรจะมีการพัฒนาแอปแบบใหม่ที่ไม่ใช่เป็นขั้นเป็นตอนเหมือนเดิม ซึ่งล่าช้า และไม่ตอบสนองความต้องการใหม่ๆ จึงเกิดวิธีการใหม่ที่เป็นการกระจาย และช่วยกันทำแล้วค่อยนำมาร่วมเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งซีเอมีโซลูชันที่ช่วยตอบสนองความต้องการทางด้านนี้ ในการจัดการต่อการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ช่วยให้ประสานกันได้เป็นอย่างดี”
โดยจากเทรนด์สำคัญดังกล่าว ซีเอ จะสามารถช่วยลูกค้าทั้งด้านการวางแผน การพัฒนาแอป ความปลอดภัย และการบริหารจัดการ รวมไปถึงยังช่วยตอบสนองเทรนด์ทั้ง 5 ได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงยังมั่นใจได้ว่า แอปที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจะมีความปลอดภัย และสามารถซัปพอร์ตได้ทุกแพลตฟอร์ม โดยที่ผ่านมา ซีเอ ได้ตอบสนองต่อลูกค้าทั้งธนาคารรายใหญ่ๆ กลุ่มรีเทล ในการสร้างแอปพลิเคชันได้เร็วขึ้น ใช้งานได้ดีมีความปลอดภัย และช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจได้
ทั้งนี้ ซีเอ ได้ทำการสำรวจซีไอโอในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจำนวน 1,300 ราย พบว่า 81% คาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า การพัฒนาของไอทีจะมีความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงขององค์กร 89% เห็นด้วยว่าไอทีมีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจ และเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ 44% เชื่อว่าซีไอโอจะเป็นตัวแทนสำคัญในความสำเร็จของธุรกิจ และ 74% เห็นว่าซีไอโอจะมีบาทบาทที่สำคัญมากในธุรกิจ
โดย 13% มุ่งเน้นนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านผลิตภัณฑ์และบริการที่น่าสนใจ 21% คิดว่าตัวเองมีส่วนในการผลักดันธุรกิจใหม่ๆ นอกจากดูแลระบบซีอาร์เอ็มแล้ว ยังเอามาต่อยอดด้านอื่นๆ ได้อีก 30% ตัวเองมีส่วนช่วยปรับปรุงความพึงพอในของผู้บริโภค 34% ซีไอโอในเอเชียแปซิฟิก มองว่าตัวเองเป็นพาร์ตหนึ่งของการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ ซึ่งในอีกใน 3 ปีข้างหน้า ซีไอโอจะมีส่วนก่อให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ ด้วย
ด้านนายสุทัศน์ วงศ์วิเศษกุล ผู้จัดการทั่วไป ซีเอ โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า สำหรับตลาดในเมืองไทยเราเริ่มเข้าสู่โลกดิจิตอลมากขึ้น มีการใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นมาเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ลูกค้าธุรกิจในเมืองไทยเริ่มหันมามองเรื่องแอปพลิเคชันเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร ค้าปลีก และเทลโก้ นอกจากนี้ ยังพบว่าลูกค้าในเมืองไทยยังมองเห็นความสำคัญของแอปพลิเคชันอีโคโนมี มีการสร้างหน่วยงานใหม่ขึ้นมาเพื่อดูแลด้านนี้โดยเฉพาะ
ซีเอ มองว่าประเทศไทยยังมีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง และยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เป็นประเทศที่สามารถดึงดูดบริษัทต่างประเทศได้ ดังนั้น แอปพลิเคชันดีเวลลอปเมนต์ทูลถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับซีเอในปีนี้ เป็นประเด็นที่องค์กรใหญ่ๆ ต้องให้ความสำคัญมากขึ้น และต้องพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีคุณภาพ โดยเฉพาะโมบายแอปพลิเคชันที่ต้องเร่งพัฒนาให้รวดเร็วขึ้นตามเทรนด์ อีกทั้งต้องเตรียมพร้อมแบ็กออฟฟิศให้รองรับอีกด้วย
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000080905
ฉั่ว ไอ พิน รองประธานเอเชียใต้ บริษัท ซีเอ เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า ธุรกิจทุกส่วนนับจากนี้จะมีแอปพลิเคชันอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น โดยซีเอเชื่อว่าแอปพลิเคชันจะเป็นตัวสร้างรายได้ให้แก่องค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันลูกค้าเริ่มเข้าสู่โลกดิจิตอลมากขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มใช้โมบายมากขึ้น และใช้งานดีไวซ์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งการใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นส่วนใหญ่นี่เองจะทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อรับมือต่อความต้องการดังกล่าวด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชันขึ้นมาตอบสนอง
นอกจากนี้ ธุรกิจจะสามารถทำธุรกิจข้ามกันได้ เช่น แบงก์สามารถทำธุรกรรมกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในเรื่องการทำสินเชื่อเรื่องบ้าน ในเรื่องของแอปในการคุยกับหลังบ้านเป็นเรื่องสำคัญ ทำให้ลูกค้าสะดวกมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเข้าเว็บนี้แล้วไปเข้าเว็บอื่น ซึ่งต้องมีระบบการคุยกันหลังบ้าน ดังนั้น ธุรกิจต้องทำการพัฒนาแอปให้ทันต่อลูกค้า และคู่แข่ง เพราะถือว่าเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้องค์กรสามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะองค์กรใหญ่ๆ
“บทบาทของไอที และผู้นำฝ่ายไอทีกำลังจะเปลี่ยนไป เนื่องจากเทรนด์ใหม่ๆ เริ่มเข้ามา ทำให้การรันไอทีแบบเดิมเริ่มมีผลกระทบ รวมไปถึงความคาดหวังจากไอทีที่เพิ่มขึ้น เพราะลูกค้ามีความต้องการความรวดเร็ว ดังนั้น ฝ่ายไอทีต้องให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต้องเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจในการให้ไอเดีย รวมถึงวางแผนภาคธุรกิจด้วย นอกจากนี้ ผู้บริหารไอทีในปัจจุบันจะต้องมุ่งเน้นเขียนแอปพลิเคชัน โดยเฉพาะบนโมบายแอปพลิเคชันมากกว่า เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้ายุคใหม่”
______________________________
ซีเอ ชี้อนาคตแอปจะเป็นตัวสร้างรายได้ให้ธุรกิจ
“ซีเอ” ชี้ธุรกิจทุกส่วนนับจากนี้จะมีแอปพลิเคชันอยู่เบื้องหลัง และเป็นตัวสร้างรายได้ให้แก่องค์กร แนะธุรกิจต้องเร่งพัฒนาแอปให้พร้อมรับมือกับลูกค้า และคู่แข่ง บทบาทของผู้นำด้านไอทีจะเปลี่ยนไป และมีส่วนร่วมในการสร้างสินค้าและบริการใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น เผย 5 เทรนด์ที่จะกระทบธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก คือ 1.Cloud Computing 2.Mobility 3.Business Intelligence 4.Devops และ 5.Big Data ด้านตลาดไทยพร้อมแล้วที่จะสร้างแอปสำหรับธุรกิจ
ฉั่ว ไอ พิน รองประธานเอเชียใต้ บริษัท ซีเอ เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า ธุรกิจทุกส่วนนับจากนี้จะมีแอปพลิเคชันอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น โดยซีเอเชื่อว่าแอปพลิเคชันจะเป็นตัวสร้างรายได้ให้แก่องค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันลูกค้าเริ่มเข้าสู่โลกดิจิตอลมากขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มใช้โมบายมากขึ้น และใช้งานดีไวซ์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งการใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นส่วนใหญ่นี่เองจะทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อรับมือต่อความต้องการดังกล่าวด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชันขึ้นมาตอบสนอง
นอกจากนี้ ธุรกิจจะสามารถทำธุรกิจข้ามกันได้ เช่น แบงก์สามารถทำธุรกรรมกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในเรื่องการทำสินเชื่อเรื่องบ้าน ในเรื่องของแอปในการคุยกับหลังบ้านเป็นเรื่องสำคัญ ทำให้ลูกค้าสะดวกมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเข้าเว็บนี้แล้วไปเข้าเว็บอื่น ซึ่งต้องมีระบบการคุยกันหลังบ้าน ดังนั้น ธุรกิจต้องทำการพัฒนาแอปให้ทันต่อลูกค้า และคู่แข่ง เพราะถือว่าเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้องค์กรสามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะองค์กรใหญ่ๆ
“บทบาทของไอที และผู้นำฝ่ายไอทีกำลังจะเปลี่ยนไป เนื่องจากเทรนด์ใหม่ๆ เริ่มเข้ามา ทำให้การรันไอทีแบบเดิมเริ่มมีผลกระทบ รวมไปถึงความคาดหวังจากไอทีที่เพิ่มขึ้น เพราะลูกค้ามีความต้องการความรวดเร็ว ดังนั้น ฝ่ายไอทีต้องให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต้องเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจในการให้ไอเดีย รวมถึงวางแผนภาคธุรกิจด้วย นอกจากนี้ ผู้บริหารไอทีในปัจจุบันจะต้องมุ่งเน้นเขียนแอปพลิเคชัน โดยเฉพาะบนโมบายแอปพลิเคชันมากกว่า เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้ายุคใหม่”
ไอ พิน กล่าวว่า สำหรับเทรนด์ที่สำคัญ และจะส่งผลกระทบในเอเชียแปซิฟิกนับจากนี้ ประกอบด้วย 5 เทรนด์หลักประกอบไปด้วย 1.Cloud Computing ที่จะมีการใช้งานแอปบนคลาวด์มากขึ้น 2.Mobility มีการใช้แอปบนโมบายดีไวซ์มากขึ้น 3.Business Intelligence 4.Devops คือ การนำทีมดีเวลลอปเมนต์กับโอเปอเรชันมาทำงานร่วมกัน และ 5.Big Data ที่จะมีการใช้ดึงข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์เพื่อให้การสร้างบริการที่ดีให้แก่ลูกค้า
ซีเอ ชี้อนาคตแอปจะเป็นตัวสร้างรายได้ให้ธุรกิจ
“Devops เป็นสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นในเอเชียแปซิฟิก เป็นไอเดียใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากความต้องการสร้างแอปพลิเคชัน โดยหลายองค์กรจะมีการพัฒนาแอปแบบใหม่ที่ไม่ใช่เป็นขั้นเป็นตอนเหมือนเดิม ซึ่งล่าช้า และไม่ตอบสนองความต้องการใหม่ๆ จึงเกิดวิธีการใหม่ที่เป็นการกระจาย และช่วยกันทำแล้วค่อยนำมาร่วมเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งซีเอมีโซลูชันที่ช่วยตอบสนองความต้องการทางด้านนี้ ในการจัดการต่อการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ช่วยให้ประสานกันได้เป็นอย่างดี”
โดยจากเทรนด์สำคัญดังกล่าว ซีเอ จะสามารถช่วยลูกค้าทั้งด้านการวางแผน การพัฒนาแอป ความปลอดภัย และการบริหารจัดการ รวมไปถึงยังช่วยตอบสนองเทรนด์ทั้ง 5 ได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงยังมั่นใจได้ว่า แอปที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจะมีความปลอดภัย และสามารถซัปพอร์ตได้ทุกแพลตฟอร์ม โดยที่ผ่านมา ซีเอ ได้ตอบสนองต่อลูกค้าทั้งธนาคารรายใหญ่ๆ กลุ่มรีเทล ในการสร้างแอปพลิเคชันได้เร็วขึ้น ใช้งานได้ดีมีความปลอดภัย และช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจได้
ทั้งนี้ ซีเอ ได้ทำการสำรวจซีไอโอในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจำนวน 1,300 ราย พบว่า 81% คาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า การพัฒนาของไอทีจะมีความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงขององค์กร 89% เห็นด้วยว่าไอทีมีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจ และเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ 44% เชื่อว่าซีไอโอจะเป็นตัวแทนสำคัญในความสำเร็จของธุรกิจ และ 74% เห็นว่าซีไอโอจะมีบาทบาทที่สำคัญมากในธุรกิจ
โดย 13% มุ่งเน้นนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านผลิตภัณฑ์และบริการที่น่าสนใจ 21% คิดว่าตัวเองมีส่วนในการผลักดันธุรกิจใหม่ๆ นอกจากดูแลระบบซีอาร์เอ็มแล้ว ยังเอามาต่อยอดด้านอื่นๆ ได้อีก 30% ตัวเองมีส่วนช่วยปรับปรุงความพึงพอในของผู้บริโภค 34% ซีไอโอในเอเชียแปซิฟิก มองว่าตัวเองเป็นพาร์ตหนึ่งของการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ ซึ่งในอีกใน 3 ปีข้างหน้า ซีไอโอจะมีส่วนก่อให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ ด้วย
ด้านนายสุทัศน์ วงศ์วิเศษกุล ผู้จัดการทั่วไป ซีเอ โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า สำหรับตลาดในเมืองไทยเราเริ่มเข้าสู่โลกดิจิตอลมากขึ้น มีการใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นมาเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ลูกค้าธุรกิจในเมืองไทยเริ่มหันมามองเรื่องแอปพลิเคชันเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร ค้าปลีก และเทลโก้ นอกจากนี้ ยังพบว่าลูกค้าในเมืองไทยยังมองเห็นความสำคัญของแอปพลิเคชันอีโคโนมี มีการสร้างหน่วยงานใหม่ขึ้นมาเพื่อดูแลด้านนี้โดยเฉพาะ
ซีเอ มองว่าประเทศไทยยังมีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง และยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เป็นประเทศที่สามารถดึงดูดบริษัทต่างประเทศได้ ดังนั้น แอปพลิเคชันดีเวลลอปเมนต์ทูลถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับซีเอในปีนี้ เป็นประเด็นที่องค์กรใหญ่ๆ ต้องให้ความสำคัญมากขึ้น และต้องพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีคุณภาพ โดยเฉพาะโมบายแอปพลิเคชันที่ต้องเร่งพัฒนาให้รวดเร็วขึ้นตามเทรนด์ อีกทั้งต้องเตรียมพร้อมแบ็กออฟฟิศให้รองรับอีกด้วย
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000080905
ไม่มีความคิดเห็น: