18 สิงหาคม 2557 APP เคลม ดิ เปิดบริการ สร้างความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าไม่ต้องรอตัวแทนจากบริษัทประกัน (เซอร์เวเยอร์) มาถ่ายรูปเป็นหลัก โดยคิดด่าบริการ 550 บาทต่อครั้งใน กทม. และ 1,100 บาทในต่างจังหวัด ซึ่งเคลม ดิจะไปเก็บจากบริษัทเอง
ประเด็นหลัก
ดังนั้น เคลม ดิ จะใช้ตลาดนี้ในการสร้างความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าไม่ต้องรอตัวแทนจากบริษัทประกัน (เซอร์เวเยอร์) มาถ่ายรูปเป็นหลัก แต่ลูกค้าถ่ายรูปได้เองทั้งหมด และส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทได้เลย โดยคิดด่าบริการ 550 บาทต่อครั้งใน กทม. และ 1,100 บาทในต่างจังหวัด ซึ่งเคลม ดิจะไปเก็บจากบริษัทเองตามจำนวนทรานเซคชั่นที่ใช้งาน ส่วนลูกค้าจะเก็บค่าบริการ 50 และ 100 บาทต่อครั้งในกทม.และต่างจังหวัดตามลำดับ
______________________________
'500 สตาร์ทอัพส์'ให้ทุน'เคลมดิ' ดันนักพัฒนาแอพไทยโกอินเตอร์
"500 สตาร์ทอัพ" อัดเงินหนุน "เคลม ดิ" โปรเจคดีแทค แอคเซเลเรท หวังดันแอพสู่ตลาดโลก
นายไคลี อึ้ง หุ้นส่วนนักลงทุน 500 สตาร์ทอัพส์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ตลาดของสตาร์ทอัพในภูมิภาคนี้เติบโตแบบก้าวกระโดด ตามการขยายตัวของการใช้สมาร์ทโฟน ซึ่ง 500 สตาร์ทอัพส์มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ และความพยายามการสร้างอุตสาหกรรมให้แข็งแกร่งมากขึ้นโดยเฉพาะในประเทศไทย
ทั้งนี้ที่ผ่านมา 500 สตาร์ทอัพส์ได้เข้าร่วมเป็นกรรมการ เป็นเมนทอร์ให้แก่นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นไทยและเล็งเห็นความมุ่งมั่นของสตาร์ทอัพหลายราย
ล่าสุด 500 สตาร์ทอัพส์ได้ให้เงินสนับสนุนลงทุนกับทีมบริษัท เอนนี่แวร์ ทู โก จำกัด ผู้ก่อตั้ง แอพพลิเคชั่น "เคลม ดิ" ซึ่งเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมโครงการดีแทค แอคเซเลเรท กับบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค)
โดยความสนใจลงทุนครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ดีแทค แอคเซเลเรท เทเลนอร์ ดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (ซิป้า) และบริษัท สามารถ มัลติมีเดีย จำกัด จัดงาน กรีก ออน เดอะ เพลน เชิญนักลงทุนผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ผู้ประกอบการเข้าร่วม
"การให้เงินสนับสนุนนี้ถือเป็นช่วงพรีซีรี่ส์ เอ หรือไม่เกิน 1 ล้านดอลลาร์ โดยเราเห็นความสามารถของแอพ เคลม ดิในการทำตลาดที่ผ่านมาในไทย และน่าจะไปได้ดีหากขยายตลาดไปต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้ก็มีธุรกิจกับบริษัทประกันแล้ว 40% ซึ่งกลุ่ม 500 สตาร์ทอัพส์ไม่ได้มองว่าจะต้องลงเงินกับไทยกี่เปอร์เซ็นต์ กับสิงคโปร์จำนวนเท่าไร แต่การออกไปพบกับสตาร์ทอัพบ่อยๆ เราจะเห็นโอกาสทางธุรกิจที่เราและนักพัฒนาช่วยเหลือกันได้"
พร้อมระบุว่า ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา 500 สตาร์ทอัพส์ให้เงินสนับสนุนเหล่าสตาร์ทอัพในไทยแล้ว 7 บริษัท ที่ผลิตแอพพลิเคชั่นต่าง ประกอบด้วย Noonswoon, Play basic, Taamkru, Claim di, EKO, Pomelo และ Builk
นายกิตตินันท์ อนุพันธ์ กรรมการผู้จัดการ และผู้ก่อตั้ง แอพ "เคลม ดิ" ระบุว่า สำหรับเคลม ดิ เป็นแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือที่ให้ผู้ใช้เคลมประกันได้ ณ จุดเกิดเหตุภายใน 15 นาที ช่วยประหยัดเวลามากถึง 90% ประหยัดค่าใช้จ่ายของบริษัทประกันได้ 80% ลดการโกงได้ทั้งหมด โดยหลังจากที่ได้เงินสนับสนุนแล้ว บริษัทก็จะคงอยู่ในบูธแคมป์ของดีแทค แอคเซเลเรท ต่อในเดือนที่ 3 และจะมีกำหนดเสนอเดโม เดย์ วันที่ 19 ส.ค.นี้
"สิ่งที่ต้องดำเนินการคือพยายามโปรโมตให้ผู้ใช้รถหรือผู้ที่มีสมาร์ทโฟนใช้งานรู้จักแอพ แม้จะใช้หรือไม่ใช่ก็ตามก็อยากให้มีแอพ เคลม ดิเก็บไว้ ความท้าทายต่อจากนี้คือพยายามทำให้บริษัทใหญ่ขึ้น ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวได้ 3-5 เท่า และเราก็จะคิดแผนการตลาดออกให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และในปีหน้าจะขยายตลาดไปยังสิงคโปร์ ฮ่องกง อินโดนีเซีย จีน ไต้หวัน และมาเลเซียด้วย"
สำหรับแอพ เคลม ดิ ปัจจุบันได้เป็นพันธมิตรกับบริษัทประกันภัยแล้ว 11 แห่ง คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 40% ในตลาดประกันภัยรถยนต์ที่มีผู้ซื้อกรมธรรม์จำนวน 8 ล้านคัน มีการทำทรานเซคชั่นในการเคลมประกันภัยประเภทต่างๆ ราว 14 ล้านครั้งต่อปี คิดเป็นมูลค่าตลาดมากถึง 3,000 ล้านบาท
ดังนั้น เคลม ดิ จะใช้ตลาดนี้ในการสร้างความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าไม่ต้องรอตัวแทนจากบริษัทประกัน (เซอร์เวเยอร์) มาถ่ายรูปเป็นหลัก แต่ลูกค้าถ่ายรูปได้เองทั้งหมด และส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทได้เลย โดยคิดด่าบริการ 550 บาทต่อครั้งใน กทม. และ 1,100 บาทในต่างจังหวัด ซึ่งเคลม ดิจะไปเก็บจากบริษัทเองตามจำนวนทรานเซคชั่นที่ใช้งาน ส่วนลูกค้าจะเก็บค่าบริการ 50 และ 100 บาทต่อครั้งในกทม.และต่างจังหวัดตามลำดับ
นายแอนดริว กวาลเซท ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย คอร์ปอเรท สตราทิจี้ แอนด์ บิสิเนส อินโนเวชั่น ดีแทค กล่าวว่า ผู้พัฒนาแอพ เคลม ดิ ได้รับเงินลงทุนจากบริษัทลงทุนระดับต้นๆ และนักลงทุนอิสระอย่าง 500 สตาร์ทอัพส์ และโกลเดน เกต เวนเจอร์ รวมถึงนักลงทุนชั้นนำ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นหุ้นส่วนทางกลยุทธ์สำคัญเพื่อช่วยให้เคลม ดี เติบโตได้อย่างรวดเร็วในตลาดอื่นๆ ในเอเชีย
"มูลค่าของ anywhere to go เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าภายในสองเดือนระหว่างบูทแคมป์ ถึงแม้ว่าบูทแคมป์จะยังไม่จบลงก็ตาม นี่คือสิ่งยืนยันว่าโครงการดีแทค แอคเซเลเรทสามารถผลักดันสตาร์ทอัพให้สำเร็จในการทำธุรกิจได้"
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20140815/598778/500-สตาร์ทอัพส์ให้ทุนเคลมดิ-ดันนักพัฒนาแอพไทยโกอินเตอร์.html
ดังนั้น เคลม ดิ จะใช้ตลาดนี้ในการสร้างความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าไม่ต้องรอตัวแทนจากบริษัทประกัน (เซอร์เวเยอร์) มาถ่ายรูปเป็นหลัก แต่ลูกค้าถ่ายรูปได้เองทั้งหมด และส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทได้เลย โดยคิดด่าบริการ 550 บาทต่อครั้งใน กทม. และ 1,100 บาทในต่างจังหวัด ซึ่งเคลม ดิจะไปเก็บจากบริษัทเองตามจำนวนทรานเซคชั่นที่ใช้งาน ส่วนลูกค้าจะเก็บค่าบริการ 50 และ 100 บาทต่อครั้งในกทม.และต่างจังหวัดตามลำดับ
______________________________
'500 สตาร์ทอัพส์'ให้ทุน'เคลมดิ' ดันนักพัฒนาแอพไทยโกอินเตอร์
"500 สตาร์ทอัพ" อัดเงินหนุน "เคลม ดิ" โปรเจคดีแทค แอคเซเลเรท หวังดันแอพสู่ตลาดโลก
นายไคลี อึ้ง หุ้นส่วนนักลงทุน 500 สตาร์ทอัพส์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ตลาดของสตาร์ทอัพในภูมิภาคนี้เติบโตแบบก้าวกระโดด ตามการขยายตัวของการใช้สมาร์ทโฟน ซึ่ง 500 สตาร์ทอัพส์มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ และความพยายามการสร้างอุตสาหกรรมให้แข็งแกร่งมากขึ้นโดยเฉพาะในประเทศไทย
ทั้งนี้ที่ผ่านมา 500 สตาร์ทอัพส์ได้เข้าร่วมเป็นกรรมการ เป็นเมนทอร์ให้แก่นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นไทยและเล็งเห็นความมุ่งมั่นของสตาร์ทอัพหลายราย
ล่าสุด 500 สตาร์ทอัพส์ได้ให้เงินสนับสนุนลงทุนกับทีมบริษัท เอนนี่แวร์ ทู โก จำกัด ผู้ก่อตั้ง แอพพลิเคชั่น "เคลม ดิ" ซึ่งเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมโครงการดีแทค แอคเซเลเรท กับบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค)
โดยความสนใจลงทุนครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ดีแทค แอคเซเลเรท เทเลนอร์ ดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (ซิป้า) และบริษัท สามารถ มัลติมีเดีย จำกัด จัดงาน กรีก ออน เดอะ เพลน เชิญนักลงทุนผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ผู้ประกอบการเข้าร่วม
"การให้เงินสนับสนุนนี้ถือเป็นช่วงพรีซีรี่ส์ เอ หรือไม่เกิน 1 ล้านดอลลาร์ โดยเราเห็นความสามารถของแอพ เคลม ดิในการทำตลาดที่ผ่านมาในไทย และน่าจะไปได้ดีหากขยายตลาดไปต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้ก็มีธุรกิจกับบริษัทประกันแล้ว 40% ซึ่งกลุ่ม 500 สตาร์ทอัพส์ไม่ได้มองว่าจะต้องลงเงินกับไทยกี่เปอร์เซ็นต์ กับสิงคโปร์จำนวนเท่าไร แต่การออกไปพบกับสตาร์ทอัพบ่อยๆ เราจะเห็นโอกาสทางธุรกิจที่เราและนักพัฒนาช่วยเหลือกันได้"
พร้อมระบุว่า ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา 500 สตาร์ทอัพส์ให้เงินสนับสนุนเหล่าสตาร์ทอัพในไทยแล้ว 7 บริษัท ที่ผลิตแอพพลิเคชั่นต่าง ประกอบด้วย Noonswoon, Play basic, Taamkru, Claim di, EKO, Pomelo และ Builk
นายกิตตินันท์ อนุพันธ์ กรรมการผู้จัดการ และผู้ก่อตั้ง แอพ "เคลม ดิ" ระบุว่า สำหรับเคลม ดิ เป็นแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือที่ให้ผู้ใช้เคลมประกันได้ ณ จุดเกิดเหตุภายใน 15 นาที ช่วยประหยัดเวลามากถึง 90% ประหยัดค่าใช้จ่ายของบริษัทประกันได้ 80% ลดการโกงได้ทั้งหมด โดยหลังจากที่ได้เงินสนับสนุนแล้ว บริษัทก็จะคงอยู่ในบูธแคมป์ของดีแทค แอคเซเลเรท ต่อในเดือนที่ 3 และจะมีกำหนดเสนอเดโม เดย์ วันที่ 19 ส.ค.นี้
"สิ่งที่ต้องดำเนินการคือพยายามโปรโมตให้ผู้ใช้รถหรือผู้ที่มีสมาร์ทโฟนใช้งานรู้จักแอพ แม้จะใช้หรือไม่ใช่ก็ตามก็อยากให้มีแอพ เคลม ดิเก็บไว้ ความท้าทายต่อจากนี้คือพยายามทำให้บริษัทใหญ่ขึ้น ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวได้ 3-5 เท่า และเราก็จะคิดแผนการตลาดออกให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และในปีหน้าจะขยายตลาดไปยังสิงคโปร์ ฮ่องกง อินโดนีเซีย จีน ไต้หวัน และมาเลเซียด้วย"
สำหรับแอพ เคลม ดิ ปัจจุบันได้เป็นพันธมิตรกับบริษัทประกันภัยแล้ว 11 แห่ง คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 40% ในตลาดประกันภัยรถยนต์ที่มีผู้ซื้อกรมธรรม์จำนวน 8 ล้านคัน มีการทำทรานเซคชั่นในการเคลมประกันภัยประเภทต่างๆ ราว 14 ล้านครั้งต่อปี คิดเป็นมูลค่าตลาดมากถึง 3,000 ล้านบาท
ดังนั้น เคลม ดิ จะใช้ตลาดนี้ในการสร้างความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าไม่ต้องรอตัวแทนจากบริษัทประกัน (เซอร์เวเยอร์) มาถ่ายรูปเป็นหลัก แต่ลูกค้าถ่ายรูปได้เองทั้งหมด และส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทได้เลย โดยคิดด่าบริการ 550 บาทต่อครั้งใน กทม. และ 1,100 บาทในต่างจังหวัด ซึ่งเคลม ดิจะไปเก็บจากบริษัทเองตามจำนวนทรานเซคชั่นที่ใช้งาน ส่วนลูกค้าจะเก็บค่าบริการ 50 และ 100 บาทต่อครั้งในกทม.และต่างจังหวัดตามลำดับ
นายแอนดริว กวาลเซท ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย คอร์ปอเรท สตราทิจี้ แอนด์ บิสิเนส อินโนเวชั่น ดีแทค กล่าวว่า ผู้พัฒนาแอพ เคลม ดิ ได้รับเงินลงทุนจากบริษัทลงทุนระดับต้นๆ และนักลงทุนอิสระอย่าง 500 สตาร์ทอัพส์ และโกลเดน เกต เวนเจอร์ รวมถึงนักลงทุนชั้นนำ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นหุ้นส่วนทางกลยุทธ์สำคัญเพื่อช่วยให้เคลม ดี เติบโตได้อย่างรวดเร็วในตลาดอื่นๆ ในเอเชีย
"มูลค่าของ anywhere to go เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าภายในสองเดือนระหว่างบูทแคมป์ ถึงแม้ว่าบูทแคมป์จะยังไม่จบลงก็ตาม นี่คือสิ่งยืนยันว่าโครงการดีแทค แอคเซเลเรทสามารถผลักดันสตาร์ทอัพให้สำเร็จในการทำธุรกิจได้"
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20140815/598778/500-สตาร์ทอัพส์ให้ทุนเคลมดิ-ดันนักพัฒนาแอพไทยโกอินเตอร์.html
ไม่มีความคิดเห็น: