Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

20 กันยายน 2557 (บทความ) นักการตลาดดิจิตอล ชี้ ไอโฟน 6 จุดพลุอุปกรณ์ยุค อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ // ซีอีโอ บ.โธมัสไอเดีย กล่าวต่อว่า แอพพลิเคชั่นใหม่อย่าง Apple Pay ในไอโฟน 6 ที่ใช้วิธี Touch ID เข้ามา ทำให้การจ่ายเงินผ่านมือถือสะดวกมาก

ประเด็นหลัก


บริการชำระเงิน Apple Pay

ซีอีโอ บ.โธมัสไอเดีย กล่าวต่อว่า แอพพลิเคชั่นใหม่อย่าง Apple Pay ในไอโฟน 6 ที่ใช้วิธี Touch ID เข้ามา ทำให้การจ่ายเงินผ่านมือถือสะดวกมาก เกิดจากการที่ทีมงานแอ๊ปเปิ้ลทำงานร่วมกับเครดิตรายใหญ่ระดับโลกทั้งหลาย เช่น วีซ่า มาสเตอร์การ์ด และอเมริกันเอ็กซ์เพรส เพื่อให้การชำระเงินจาก Touch ID เพื่อปลอดล็อกด้านการตรวจสอบข้อมูลโดยวิธีเดิม เพิ่มความสะดวกปลอดภัยในขั้นตอนเดียว สำหรับนักธุรกิจไทยควรต้องจัดเตรียมระบบเพื่อเชื่อมต่อกับการชำระเงินรูปแบบใหม่และพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่สามารถตอบโจทย์ขององค์กรให้ทัน หรือแม้แต่การขยายผลต่อยอดสู่ “สมาร์ทโฮม” แอปเปิลจับมือกับ Honeywell ผู้เชี่ยวชาญด้านอาคารและระบบควบคุมในอาคาร เพื่อพัฒนาแอพต่อยอด Home Kit และเชื่อว่าจะเป็นการเปิดยุคใหม่สำหรับอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (Internet of Things: IoT) ภายในบ้านหรืออาคาร



______________________________




นักการตลาดดิจิตอล ชี้ ไอโฟน 6 จุดพลุอุปกรณ์ยุค อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์


ธอมัสไอเดีย ชี้ การมาของ ไอโฟน 6 - แอปเปิล วอตช์ เป็นการต่อยอดนำนวัตกรรมให้ใกล้ชิดผู้บริโภค ปูทางสู่ธุรกิจใหม่ด้าน Home และ Health ตามกลยุทธ์ Ecosystem สร้างพันธมิตร ดึงนักพัฒนา ผู้ใช้มาอยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกันในยุคอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT)...



นางสาวอุไรพร ชลสิริรุ่งสกุล ซีอีโอ โธมัสไอเดีย

นางสาวอุไรพร ชลสิริรุ่งสกุล ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ บริษัทธอมัสไอเดีย ดิจิตอลเอเยนซี่เครือ WPP กล่าวว่า หลังการประกาศจำนวนยอดจองไอโฟน 6 (iPhone 6) ที่ล้นหลาม เป็นการตอกย้ำจุด เด่นที่แอปเปิลท้าทายนักธุรกิจทั่วโลก คือ การที่แอปเปิลสามารถสร้างสรรค์อุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ให้ใช้งานได้ง่ายและทันสมัย การออกแบบที่สวยและมีสไตล์เป็นแฟชั่น ดึงดูดให้สินค้าแอปเปิลเป็นเทรนด์ที่ขาดไม่ได้ของคนทั่วโลก ดังนั้น การที่แอปเปิลเปิดตัว ไอโฟน 6 และ ไอโฟน 6 พลัส (iPhone 6 & iPhone 6 Plus) และ แอปเปิล วอตช์ (Apple Watch) ครั้งนี้  ถือเป็นการสร้างนวัตกรรมที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพและบ้านพักอาศัย (Health & Home)

เทคโนโลยีที่ซ่อนอยู่



แอปเปิล ไอโฟน 6

หลังจากที่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาที่แอปเปิลได้เปิดตัว Health Kit และ Home Kit สำหรับนักพัฒนาทั่วโลก ได้ศึกษาและพัฒนาแอพพลิเคชั่นหลากหลายรูปแบบต่อยอด ไอโอเอส (iOS) และดีไวซ์ที่มีอยู่ รวมถึงไอโฟน 6 และ แอปเปิลวอตช์ในวันนี้ ที่แอพและข้อมูลในแอปเปิลวอทช์สามารถทำงานได้ควบคู่ไปกับไอโฟน 6 ความง่ายที่เกิดขึ้นแม้แต่การป้อนคำสั่งของ แอปเปิล วอตช์ ด้วยการกดและสัมผัสบนหน้าจอ เป็นสิ่งที่นักพัฒนาต่างทึ่งในความคิดสร้างสรรค์และความพยายามของทีม แอปเปิล เพราะต้องอาศัยคุณภาพของเซ็นเซอร์ที่ล้ำหน้ามากๆ ในส่วนประกอบกลไกอัจฉริยะครั้งนี้ โดยผู้ใช้งานสามารถวัดการเคลื่อนไหวในแนวดิ่งผ่านบาร์รอมิเตอร์ (Barometer) อันเป็นเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งมากับไอโฟน 6 หรือ แอปเปิลวอตช์ ที่เชื่อมถึงกันได้ นอกเหนือจากการเก็บข้อมูลสุขภาพบนข้อมืออย่างเดียว


แอปเปิล วอตช์

"Apple Watch แตกต่างจากอุปกรณ์สวมใส่ได้ หรือ wearable device ทั่วไป เพราะเป็นการรุก เพื่อให้ข้อมูลเหล่านี้หากได้รับอนุญาตสามารถส่งต่อไปยังระบบและแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ทำงานร่วมกับ Ecosystem หรือ ระบบนิเวศของแอปเปิล ส่ง ผลให้ข้อมูลเหล่านี้สามารถถูกวิเคราะห์ ถูกจัดเก็บข้อมูล หรือถูกส่งต่อไปยังระบบการแพทย์ เพื่อเป็นการติดตามและแจ้งเตือนถึงสุขภาพผู้ใช้ไปยังแพทย์ผู้ดูแลเป็นการป้องกัน" นางสาวอุไรพร กล่าว



บริการชำระเงิน Apple Pay

ซีอีโอ บ.โธมัสไอเดีย กล่าวต่อว่า แอพพลิเคชั่นใหม่อย่าง Apple Pay ในไอโฟน 6 ที่ใช้วิธี Touch ID เข้ามา ทำให้การจ่ายเงินผ่านมือถือสะดวกมาก เกิดจากการที่ทีมงานแอ๊ปเปิ้ลทำงานร่วมกับเครดิตรายใหญ่ระดับโลกทั้งหลาย เช่น วีซ่า มาสเตอร์การ์ด และอเมริกันเอ็กซ์เพรส เพื่อให้การชำระเงินจาก Touch ID เพื่อปลอดล็อกด้านการตรวจสอบข้อมูลโดยวิธีเดิม เพิ่มความสะดวกปลอดภัยในขั้นตอนเดียว สำหรับนักธุรกิจไทยควรต้องจัดเตรียมระบบเพื่อเชื่อมต่อกับการชำระเงินรูปแบบใหม่และพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่สามารถตอบโจทย์ขององค์กรให้ทัน หรือแม้แต่การขยายผลต่อยอดสู่ “สมาร์ทโฮม” แอปเปิลจับมือกับ Honeywell ผู้เชี่ยวชาญด้านอาคารและระบบควบคุมในอาคาร เพื่อพัฒนาแอพต่อยอด Home Kit และเชื่อว่าจะเป็นการเปิดยุคใหม่สำหรับอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (Internet of Things: IoT) ภายในบ้านหรืออาคาร

แอปเปิล ชู Ecosystem สร้างพันธมิตร

แอปเปิลได้สร้าง Ecosystem ขึ้น มาให้นักพัฒนาพันธมิตรและผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลทั่วโลกได้เข้ามาใช้ แพลตฟอร์มร่วมกัน เกิดเป็นธุรกิจและการพัฒนาอุตสาหกรรมของตนเองได้ นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกและการใช้งานที่ง่ายแล้ว แอปเปิลได้พัฒนาสินค้าด้วยการอินทริเกรตเข้ากับระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์



การชำระเงินผ่าน Apple Pay ด้วยไอโฟน 6
       
“เสน่ห์ของแอปเปิลในการเป็นผู้สร้างเทรนด์ในเรื่องความสะดวก เรียบง่าย ทันสมัยมีไลฟ์สไตล์ จะช่วยให้ Wearable Device อย่างแอปเปิลวอชท์กลายเป็นเทรนด์สินค้าใหม่ที่แบรนด์อื่นๆ ไม่สามารถทำได้สำเร็จ และยังต่อยอดการใช้งานออกไปถึงความเป็น Smart Device ที่มากกว่าอุปกรณ์ติดตัว ด้วยการเพิ่มศักยภาพของสินค้าทุกอย่างให้ทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้อีก ผ่านการใช้งานที่เรียบหรู มีรูปลักษณ์สวยงาม ดูปลอดภัยและเชื่อถือได้ ทำให้คนไม่กังวล หรือ ไม่ลังเลที่จะลองไลฟสไตล์แบบใหม่ๆ จากแอปเปิล ถ้า ย้อนดูประวัติ แอปเปิลสร้าง ไอทูนส์ สโตร์ (iTunes Store) เพื่อเป็นศูนย์กลางของสินค้าที่คนจับจ่ายผ่านแอพได้อย่างง่ายดาย เป็นการสร้างไลฟ์สไตล์ในคนทั่วโลกให้คุ้นชินกับอีคอมเมิร์ซ (การทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์) โดยไม่รู้ตัว ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลต่อจากนี้ น่าจะเป็นการขยับและเตรียมผู้บริโภคทั่วโลกให้พร้อมเคลื่อนตัวเข้าสู่ยุคอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) สิ่งที่มากกว่าความสะดวกสบาย คือ การดำรงชีวิตประจำวันร่วมกับเทคโนโลยีดิจิตอลอย่างเรียบง่ายและมีความสุขมากขึ้นนั่นเอง”


แอพพลิเคชั่น ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายในแอปเปิล วอตช์


ซีอีโอ บ.โธมัสไอเดีย กล่าวอีกว่า จากข้อมูลของการ์ทเนอร์ ประมาณการว่า ภายใน ปี 2017 แอพพลิเคชั่นมากกว่า 50% จะเป็นแอพสำหรับ เทคโนโลยีที่สวมใส่ได้ หรือ wearable technology พร้อมทั้งประเมินว่า กลุ่มสุขภาพ และ ฟิตเนส จะเป็นกลุ่มหลักที่ดันความนิยมของ wearable technology และรายได้จากแอพของตลาดเฉพาะกลุ่มนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2016 จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ ไอดีซี ประเมินว่าในปีนี้ ตลาด wearable devices จะอยู่ที่ 19.2 ล้านเครื่อง และจะมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยไอดีซีคาดการณ์ว่าในปี 2018 จะพุ่งไปที่ 111.9 ล้านเครื่อง
     
นางสาวอุไรพร กล่าวด้วยว่า ก้าวต่อไปนี้คงต้องรอดูผลงานของแอปเปิล ผ่านสมาร์ทดีไวซ์ชิ้นใหม่ ที่ทำให้ผู้คนหันมาปรับ ใช้ในชีวิตประจำวัน จนทำให้เรื่องอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ เป็นเรื่องใกล้ตัวจริงๆ และเป็นโจทย์ที่สะท้อนกลับมาที่นักออกแบบและนักธุรกิจไทย ว่าจะอาศัยดิจิตอลเทคโนโลยีต่อยอดสินค้าและบริการที่มีอยู่ ผ่านช่องทางดิจิตอลที่มีผู้บริโภคทั่วโลกอยู่ปลายทางอย่างไร.


http://www.thairath.co.th/content/451440

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.