Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

07 พฤศจิกายน 2557 pantip.อภิศิลป์ ระบุ หากต้องการให้เว็บไซต์อยู่ได้ นอกจากคอนเทนต์ต้องดีเว็บยังต้องประกอบด้วยเลย์เอาต์ที่รองรับทุกขนาดหน้าจอ, มีแผนมาร์เก็ตติ้งเพื่อหารายได้มีภาษาใหม่ ๆ ที่จะมาช่วยให้การสร้างเว็บไซต์มีสีสันมากขึ้น

ประเด็นหลัก

"อภิศิลป์ ตรุงกานนท์" ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท อินเทอร์เน็ต มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เจ้าของเว็บไซต์ pantip.com กล่าวว่า การเกิดขึ้นของเว็บไซต์ใหม่ ในปีนี้มีมากกว่าปีที่ผ่านมาพอสมควร เนื่องจากเทคโนโลยีการพัฒนาเว็บไซต์ง่ายขึ้น รวมถึงเนื้อหาที่คนปัจจุบันสนใจไม่ได้มีแค่เรื่องบันเทิงหรือเหตุการณ์บ้านการเมืองทำให้บล็อกเกอร์เกิดขึ้นมากเช่นกัน เพราะเขียนวิเคราะห์ในเรื่องราวเฉพาะทาง เช่น โทรศัพท์มือถือ, รวบรวมกระแสบ้านเมือง ไว้บนเว็บ เป็นต้น

ช่วงแรกนักพัฒนาหน้าใหม่อาจต้องสร้างแอปพลิเคชั่น แต่สุดท้ายจะหันมาช่วยกันสร้างเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาแตกต่างจากที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตนมองว่าการสร้างแอปพลิเคชั่นเริ่มเกร่อ เหมือนช่วงอินเทอร์เน็ตมาใหม่ ๆ ใคร ๆ ก็อยากสร้างเว็บไซต์ แต่สุดท้ายไม่มีคุณภาพเพียงพอ และต้องปิดตัวไปในที่สุด ขณะที่ผู้บริโภคมีความรู้เรื่องอินเทอร์เน็ตมากกว่าแต่ก่อน ถ้าจะสร้างอะไรที่เข้าถึงพวกเขาได้จะทำให้เว็บไซต์หรือบริการออนไลน์ต่าง ๆ อยู่ได้ยืนยาวขึ้น

หากต้องการให้เว็บไซต์อยู่ได้ นอกจากคอนเทนต์ต้องดีเว็บยังต้องประกอบด้วยเลย์เอาต์ที่รองรับทุกขนาดหน้าจอ, มีแผนมาร์เก็ตติ้งเพื่อหารายได้มีภาษาใหม่ ๆ ที่จะมาช่วยให้การสร้างเว็บไซต์มีสีสันมากขึ้น เนื่องจากเทรนด์หลักของวงการเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นในปีหน้าคือการให้สิ่งที่นักพัฒนาสรรค์สร้างออกมาสามารถทำงานได้ทุกขนาดหน้าจอ ไม่ใช่แค่คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ รวมถึงสมาร์ททีวีและแวเรเบิลต่าง ๆ





______________________________



การปรับตัวของเว็บ(ไทย) ปรับคอนเทนต์-ตอบโจทย์มัลติสกรีน



ปัจจุบันการใช้อินเทอร์เน็ตกลายเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นมาก โดยเฉพาะเมื่อระบบโทรศัพท์มือถือพัฒนาความเร็วในการใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 2G ไปยัง 3G และกำลังจะเข้าสู่ยุค 4G ส่งผลถึงบรรดาผู้พัฒนาคอนเทนต์ทั้งหลายที่ต้องปรับปรุงคอนเทนต์ให้เหมาะสม

"อภิศิลป์ ตรุงกานนท์" ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท อินเทอร์เน็ต มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เจ้าของเว็บไซต์ pantip.com กล่าวว่า การเกิดขึ้นของเว็บไซต์ใหม่ ในปีนี้มีมากกว่าปีที่ผ่านมาพอสมควร เนื่องจากเทคโนโลยีการพัฒนาเว็บไซต์ง่ายขึ้น รวมถึงเนื้อหาที่คนปัจจุบันสนใจไม่ได้มีแค่เรื่องบันเทิงหรือเหตุการณ์บ้านการเมืองทำให้บล็อกเกอร์เกิดขึ้นมากเช่นกัน เพราะเขียนวิเคราะห์ในเรื่องราวเฉพาะทาง เช่น โทรศัพท์มือถือ, รวบรวมกระแสบ้านเมือง ไว้บนเว็บ เป็นต้น

ช่วงแรกนักพัฒนาหน้าใหม่อาจต้องสร้างแอปพลิเคชั่น แต่สุดท้ายจะหันมาช่วยกันสร้างเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาแตกต่างจากที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตนมองว่าการสร้างแอปพลิเคชั่นเริ่มเกร่อ เหมือนช่วงอินเทอร์เน็ตมาใหม่ ๆ ใคร ๆ ก็อยากสร้างเว็บไซต์ แต่สุดท้ายไม่มีคุณภาพเพียงพอ และต้องปิดตัวไปในที่สุด ขณะที่ผู้บริโภคมีความรู้เรื่องอินเทอร์เน็ตมากกว่าแต่ก่อน ถ้าจะสร้างอะไรที่เข้าถึงพวกเขาได้จะทำให้เว็บไซต์หรือบริการออนไลน์ต่าง ๆ อยู่ได้ยืนยาวขึ้น

หากต้องการให้เว็บไซต์อยู่ได้ นอกจากคอนเทนต์ต้องดีเว็บยังต้องประกอบด้วยเลย์เอาต์ที่รองรับทุกขนาดหน้าจอ, มีแผนมาร์เก็ตติ้งเพื่อหารายได้มีภาษาใหม่ ๆ ที่จะมาช่วยให้การสร้างเว็บไซต์มีสีสันมากขึ้น เนื่องจากเทรนด์หลักของวงการเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นในปีหน้าคือการให้สิ่งที่นักพัฒนาสรรค์สร้างออกมาสามารถทำงานได้ทุกขนาดหน้าจอ ไม่ใช่แค่คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ รวมถึงสมาร์ททีวีและแวเรเบิลต่าง ๆ

เว็บไซต์ที่ขายเพียงคอนเทนต์โดยไม่ปรับปรุงตัวเอง มีโอกาสที่ผู้ใช้งานในแต่ละวันจะลดลง เพราะผู้บริโภคเสพคอนเทนต์ที่คล้ายกันได้จากหลากหลายแหล่งข้อมูล "พันทิป" จึงทยอยเปลี่ยนแปลงไปตามเทรนด์ตั้งแต่ 2 ปีก่อน ในคอนเซ็ปต์

"พันทิป 3G" ไล่ตั้งแต่เปลี่ยนแปลงเลย์เอาต์การใช้งานทั้งหมด และเปิดบริการ m.pantip.com เพื่อให้ใช้บนหน้าจอขนาดเล็กได้ดีขึ้น ส่วนคอนเทนต์ทยอยเพิ่มห้อง เช่น เปิดห้อง "บางขุนพรหม"

"พันทิป" เปิดบริการมากว่า 18 ปี มีผู้ใช้งาน 4 ล้าน UIP/วัน เพจวิว 16 ล้านครั้ง/วัน แบ่งเป็นการเข้าใช้งานจากมือถือกว่า 50% เข้ามาใช้จากการค้นหาผ่านเสิร์ชเอนจิ้น 40%, 30% ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก และ 30% ผ่านหน้าเว็บไซต์โดยตรง

ด้าน "วโรรส โรจนะ" ผู้อำนวยการด้านการตลาดและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท เด็กดี อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด ผู้ให้บริการเว็บไซต์ dek-d.com เปิดเผยว่า ผู้บริโภคในปัจจุบันต้องการเข้ามาค้นหาข้อมูลตามความต้องการของแต่ละคน การสร้างเว็บไซต์หลังจากนี้ จึงควรทำให้เว็บมีเนื้อหาเฉพาะทางจะสร้างโอกาสในการหารายได้ผ่านสินค้า และบริการที่จะเข้ามาลงโฆษณาได้เช่นกัน

"ปีหน้านักพัฒนาต้องจับจุดให้ได้ว่าจะเดินไปทางไหน แต่คอนเทนต์ยังเป็นหัวใจสำคัญที่สุดเพราะผู้บริโภคจะเข้ามาใช้งานก็ต่อเมื่อเนื้อหาโดนใจ ลำดับถัดมาค่อยมาดูว่าจะจัดวางเลย์เอาต์หน้าเว็บอย่างไรให้ใช้ง่าย และดึงข้อมูลของเนื้อหาให้น่าสนใจมากขึ้น โดยนักพัฒนาอาจใช้ภาษาโปรแกรมใหม่ ๆ ช่วยเขียน"

สุดท้ายคือต้องมีฝ่ายหารายได้เลี้ยงเว็บไซต์ ขึ้นอยู่กับเนื้อหาด้วยว่าเดินไปทางไหน และมีวิธีขายโฆษณาอย่างไร

เว็บไซต์ "เด็กดี" มีการปรับปรุงเว็บเช่นกัน มีการเพิ่มเติมด้านความบันเทิง และมีแอปพลิเคชั่น Dek-D Writer App (นำนิยายจากบนเว็บไซต์มารวบรวมไว้ให้ผู้อ่านได้ใช้งานกันง่ายขึ้น) มียอดดาวน์โหลดเกือบ 1 ล้านครั้ง จากเดิมเน้นเรื่องการศึกษาเป็นหลัก

"นิยายแต่งเองเป็นคอนเทนต์ที่มีการใช้งานค่อนข้างมาก แต่ยังน้อยกว่าคอนเทนต์การศึกษา โดยเฉพาะการเรียนพิเศษ และผลสอบแอดมิสชั่น ปัจจุบันเว็บไซต์มีผู้เข้าใช้งาน 1 ล้าน UIP/วัน เพจวิวกว่า 6.8 ล้านครั้ง/วัน"

"ขจร เจียรนัยพานิชย์" ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์รวมข่าวสารเกี่ยวกับแอปเปิล www.macthai.com กล่าวว่า เทคโนโลยีง่ายขึ้น ทำให้เกิดบล็อกเกอร์หรือนักเขียนเรื่องเฉพาะทางต่าง ๆ บนโลกออนไลน์จำนวนมาก หากเนื้อหาถูกใจผู้บริโภค โอกาสที่จะลาออกจากงานประจำมาทำบล็อกได้ มีรายได้จากโฆษณา ซึ่งเนื้อหาที่กำลังเป็นที่นิยม นอกจากเรื่องไอทีแล้ว ยังมีเรื่องความงามและเรื่องอาหาร

"กลุ่มบล็อกเกอร์เป็นกลุ่มคนที่เชี่ยวชาญเรื่องใดเรื่องหนึ่ง คงไม่แปลกที่บางคนจะมีผู้ติดตามเป็นหลักแสน การหารายได้ผ่านช่องทางนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป"

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1415170973

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.