22 พฤศจิกายน 2557 ปัจจุบันแอปพลิเคชัน Viber มีผู้ใช้งานกว่า 460 ล้านคนทั่วโลก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านคนในปีนี้ สำหรับในประเทศไทย ไวเบอร์มีผู้ใช้งานประมาณ 4 ล้านคน
ประเด็นหลัก
ปัจจุบันแอปพลิเคชันไวเบอร์มีผู้ใช้งานกว่า 460 ล้านคนทั่วโลก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านคนในปีนี้ สำหรับในประเทศไทย ไวเบอร์มีผู้ใช้งานประมาณ 4 ล้านคน และตั้งเป้าเพิ่มจำนวนยอดผู้ใช้งานเป็น 4.5 ล้านคนภายในสิ้นปี โดยบริการ Public Chat จะเป็นตัวผลักดันสำคัญให้มีผู้เข้ามาใช้งานมากขึ้น
“ข้อมูลล่าสุดแอปพลิเคชันในรูปแบบของการแชตนั้น อันดับ 1 เป็นของ Whatapp 39% อันดับ 2 Viber 12% อันดับ 3 Line 10% ส่วนที่เหลือเป็นของ Kakaotalk และ WeChat โดยหากแบ่งเป็นความนิยมในการใช้งานไวเบอร์นั้นส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย 29.9% รองลงมาเป็นยุโรปตะวันตก 19.9% ตะวันออกกลาง 14.25% ที่เหลือเป็นภูมิภาคอื่นๆ”
______________________________
Viber ส่งบริการใหม่ Public Chat หวังดันยอดผู้ใช้ไทย 4.5 ล้าน
“ไวเบอร์” เปิดบริการใหม่ Public Chat พร้อมกัน 5 ประเทศ เผยเป็นบริการที่ช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ใกล้ชิดการสนทนาของเซเลบ และคนดังแบบเรียลไทม์ เผยปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานทั่วโลก 460 ล้านราย ส่วนไทย 4 ล้านราย หวังบริการใหม่จะดันให้ยอดรวมปลายปีเพิ่มขึ้นเป็น 500 และ 4.5 ล้านรายตามลำดับ เตรียมทำมาร์เกตติ้งแคมเปญกระตุ้นการรับรู้ และเพิ่มยอดการใช้งาน
นายทัลมอล มาร์โก้ ซีอีโอ Viber กล่าวว่า ไวเบอร์ได้ทำการเปิดตัวบริการใหม่ Public Chat พร้อมกัน 5 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย พม่า มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย โดยบริการดังกล่าวเป็นการคุยกันแบบเรียลไทม์ระหว่างเซเลบ และคนดัง เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ไวเบอร์สามารถเข้าไปติดตามชมได้ โดยในระยะแรกจะสามารถทำได้เพียงการกดไลก์ให้แก่เรื่องราวเหล่านั้น แต่ในอนาคตจะมีการพัฒนาฟีเจอร์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น การแสดงความคิดเห็น เป็นต้น
ปัจจุบันแอปพลิเคชันไวเบอร์มีผู้ใช้งานกว่า 460 ล้านคนทั่วโลก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านคนในปีนี้ สำหรับในประเทศไทย ไวเบอร์มีผู้ใช้งานประมาณ 4 ล้านคน และตั้งเป้าเพิ่มจำนวนยอดผู้ใช้งานเป็น 4.5 ล้านคนภายในสิ้นปี โดยบริการ Public Chat จะเป็นตัวผลักดันสำคัญให้มีผู้เข้ามาใช้งานมากขึ้น
“ข้อมูลล่าสุดแอปพลิเคชันในรูปแบบของการแชตนั้น อันดับ 1 เป็นของ Whatapp 39% อันดับ 2 Viber 12% อันดับ 3 Line 10% ส่วนที่เหลือเป็นของ Kakaotalk และ WeChat โดยหากแบ่งเป็นความนิยมในการใช้งานไวเบอร์นั้นส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย 29.9% รองลงมาเป็นยุโรปตะวันตก 19.9% ตะวันออกกลาง 14.25% ที่เหลือเป็นภูมิภาคอื่นๆ”
นายทัลมอล กล่าวว่า สำหรับ Public Chat นั้นเป็นบริการที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ โดยผู้ใช้งานไวเบอร์จะสามารถเข้าไปชการสนทนาแบบเรียลไทม์ระหว่างเซเลบกับคนดัง โดยสามารถติดตามการสนทนาได้แบบไม่จำกัดบนมือถือทั้งในรูปแบบของมัลติมีเดีย ข้อความ รูปภาพ เสียง วิดีโอ สติกเกอร์ รวมไปถึงยังสามารถลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ได้อีกด้วย โดย Public Chat จะเปิดตัวด้วยเซเลบคนดัง และแบรนด์ชื่อดังระดับโลก ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถอัปเดตคอนเทนต์ในเรื่องที่ตนเองสนใจได้มากที่สุด
สำหรับประเทศไทย Public Chat จะมีคนดัง เช่น กวิสรา ปัทมสูต พิธีกร และบล็อกเกอร์สายไอที แอปพลิเคชันจองโรงแรม Hotel Quickly นิตยสาร The BigChilli นอกจากนี้ ยังมีออนไลน์แฟชันชอปปิ้งมอลล์อย่าง WearYouWant เป็นต้น โดยกลุ่มเป้าหมายที่ไวเบอร์จะให้เข้ามาใช้บริการคือ วัยรุ่นอายุ 18-25 ปี ที่มีการใช้งานด้านการแชต และแชร์เป็นประจำ โดยนับจากนี้จะมีการทำประชาสัมพันธ์ และมาร์เกตติ้งแคมเปญต่างๆ เพื่อผลักดันให้บริการนี้ได้รับความนิยม และทำให้เป้าหมายยอดผู้ใช้งานเป็นไปตามที่ตั้งไว้
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000134693
ปัจจุบันแอปพลิเคชันไวเบอร์มีผู้ใช้งานกว่า 460 ล้านคนทั่วโลก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านคนในปีนี้ สำหรับในประเทศไทย ไวเบอร์มีผู้ใช้งานประมาณ 4 ล้านคน และตั้งเป้าเพิ่มจำนวนยอดผู้ใช้งานเป็น 4.5 ล้านคนภายในสิ้นปี โดยบริการ Public Chat จะเป็นตัวผลักดันสำคัญให้มีผู้เข้ามาใช้งานมากขึ้น
“ข้อมูลล่าสุดแอปพลิเคชันในรูปแบบของการแชตนั้น อันดับ 1 เป็นของ Whatapp 39% อันดับ 2 Viber 12% อันดับ 3 Line 10% ส่วนที่เหลือเป็นของ Kakaotalk และ WeChat โดยหากแบ่งเป็นความนิยมในการใช้งานไวเบอร์นั้นส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย 29.9% รองลงมาเป็นยุโรปตะวันตก 19.9% ตะวันออกกลาง 14.25% ที่เหลือเป็นภูมิภาคอื่นๆ”
______________________________
Viber ส่งบริการใหม่ Public Chat หวังดันยอดผู้ใช้ไทย 4.5 ล้าน
“ไวเบอร์” เปิดบริการใหม่ Public Chat พร้อมกัน 5 ประเทศ เผยเป็นบริการที่ช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ใกล้ชิดการสนทนาของเซเลบ และคนดังแบบเรียลไทม์ เผยปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานทั่วโลก 460 ล้านราย ส่วนไทย 4 ล้านราย หวังบริการใหม่จะดันให้ยอดรวมปลายปีเพิ่มขึ้นเป็น 500 และ 4.5 ล้านรายตามลำดับ เตรียมทำมาร์เกตติ้งแคมเปญกระตุ้นการรับรู้ และเพิ่มยอดการใช้งาน
นายทัลมอล มาร์โก้ ซีอีโอ Viber กล่าวว่า ไวเบอร์ได้ทำการเปิดตัวบริการใหม่ Public Chat พร้อมกัน 5 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย พม่า มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย โดยบริการดังกล่าวเป็นการคุยกันแบบเรียลไทม์ระหว่างเซเลบ และคนดัง เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ไวเบอร์สามารถเข้าไปติดตามชมได้ โดยในระยะแรกจะสามารถทำได้เพียงการกดไลก์ให้แก่เรื่องราวเหล่านั้น แต่ในอนาคตจะมีการพัฒนาฟีเจอร์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น การแสดงความคิดเห็น เป็นต้น
ปัจจุบันแอปพลิเคชันไวเบอร์มีผู้ใช้งานกว่า 460 ล้านคนทั่วโลก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านคนในปีนี้ สำหรับในประเทศไทย ไวเบอร์มีผู้ใช้งานประมาณ 4 ล้านคน และตั้งเป้าเพิ่มจำนวนยอดผู้ใช้งานเป็น 4.5 ล้านคนภายในสิ้นปี โดยบริการ Public Chat จะเป็นตัวผลักดันสำคัญให้มีผู้เข้ามาใช้งานมากขึ้น
“ข้อมูลล่าสุดแอปพลิเคชันในรูปแบบของการแชตนั้น อันดับ 1 เป็นของ Whatapp 39% อันดับ 2 Viber 12% อันดับ 3 Line 10% ส่วนที่เหลือเป็นของ Kakaotalk และ WeChat โดยหากแบ่งเป็นความนิยมในการใช้งานไวเบอร์นั้นส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย 29.9% รองลงมาเป็นยุโรปตะวันตก 19.9% ตะวันออกกลาง 14.25% ที่เหลือเป็นภูมิภาคอื่นๆ”
นายทัลมอล กล่าวว่า สำหรับ Public Chat นั้นเป็นบริการที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ โดยผู้ใช้งานไวเบอร์จะสามารถเข้าไปชการสนทนาแบบเรียลไทม์ระหว่างเซเลบกับคนดัง โดยสามารถติดตามการสนทนาได้แบบไม่จำกัดบนมือถือทั้งในรูปแบบของมัลติมีเดีย ข้อความ รูปภาพ เสียง วิดีโอ สติกเกอร์ รวมไปถึงยังสามารถลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ได้อีกด้วย โดย Public Chat จะเปิดตัวด้วยเซเลบคนดัง และแบรนด์ชื่อดังระดับโลก ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถอัปเดตคอนเทนต์ในเรื่องที่ตนเองสนใจได้มากที่สุด
สำหรับประเทศไทย Public Chat จะมีคนดัง เช่น กวิสรา ปัทมสูต พิธีกร และบล็อกเกอร์สายไอที แอปพลิเคชันจองโรงแรม Hotel Quickly นิตยสาร The BigChilli นอกจากนี้ ยังมีออนไลน์แฟชันชอปปิ้งมอลล์อย่าง WearYouWant เป็นต้น โดยกลุ่มเป้าหมายที่ไวเบอร์จะให้เข้ามาใช้บริการคือ วัยรุ่นอายุ 18-25 ปี ที่มีการใช้งานด้านการแชต และแชร์เป็นประจำ โดยนับจากนี้จะมีการทำประชาสัมพันธ์ และมาร์เกตติ้งแคมเปญต่างๆ เพื่อผลักดันให้บริการนี้ได้รับความนิยม และทำให้เป้าหมายยอดผู้ใช้งานเป็นไปตามที่ตั้งไว้
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000134693
ไม่มีความคิดเห็น: