08 ธันวาคม 2557 CAT.สรรพชัย ระบุ MY by CAT MVNO และการทำตลาดแบรนด์ MY (เป้าลูกค้า 1 ล้านราย จาก 500,000 ราย) รายได้เฉลี่ยของพรีเพด MY อยู่ที่ 50 บาท โพสต์เพดอยู่ที่ 400 บาท/เดือน
ประเด็นหลัก
MVNO และการทำตลาดแบรนด์ MY (เป้าลูกค้า 1 ล้านราย จาก 500,000 ราย) การหาพันธมิตรเป็นช่องทางในการให้บริการลูกค้ารายย่อยสำหรับบรอดแบนด์ FTTx (เพิ่มพื้นที่บริการทั่วประเทศอีก 1.5 แสนพอร์ต จากที่มีแสนกว่าพอร์ต) และนำทรัพย์สิน เช่น ที่ดินต่าง ๆ ไปหารายได้
"ที่ผ่านมาระบบไอทีไม่สามารถซัพพอร์ตบริการได้เต็มที่ กำลังเร่งแก้ไข คาดว่าจะเสร็จในปีนี้ ปีหน้าจะเปิดรับ MVNO เพิ่มได้ 3-4 ราย คาดว่าจะมีรายได้ที่ 2,000 ล้านบาท ที่ผ่านมา คนใช้มือถือทะลุ 100 ล้านไปแล้ว และมีการใช้มากกว่า 2 ซิม/คน เราต้องช่วงชิงตลาดที่คนอื่นยึดครองอยู่"
รายได้เฉลี่ยของพรีเพด MY อยู่ที่ 50 บาท โพสต์เพดอยู่ที่ 400 บาท/เดือน
"ผลประกอบการปีนี้ จากที่เคยคาดว่าจะกำไร 931 ล้านบาท เชื่อว่าจะทำได้ดีกว่าที่คาดไว้มาก ตัวเลขยังไม่คอนเฟิร์มแต่เกินพันล้านบาท"
______________________________
พลิกองค์กรฟื้นกำไร CAT นับหนึ่งหาพันธมิตร
นับครั้งไม่ถ้วนกับการหาหนทางพลิกฟื้นองค์กรรัฐวิสาหกิจด้านการสื่อสาร แต่คงไม่มีครั้งไหนที่ทั้งคู่ (กสท โทรคมนาคม และทีโอที) เดินมาถึงจุดที่ไม่มีทางถอยอีกแล้ว เมื่อรายได้สัมปทานหายไป ก็จำเป็นต้องดิ้นรนทุกทาง
ล่าสุด กสทฯเซ็น MOU กับ "ดีแทค" เพื่อสร้างความร่วมมือในการใช้โครงสร้างพื้นฐาน การใช้โครงข่ายร่วมกัน และธุรกิจเกี่ยวกับการใช้โครงข่ายของทั้งสองฝ่าย
"พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์" รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กสท โทรคมนาคม พูดถึงจุดเริ่มต้นของความร่วมมือครั้งนี้ว่ามาจากนโยบายของบอร์ดที่ต้องการปลดล็อกข้อพิพาทที่คาราคาซังมานานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทั้งสององค์กร คาดว่าจะหารูปแบบความร่วมมือทางธุรกิจได้ในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้ และจะเริ่มต้นต่อไปใน ม.ค.ปีหน้า
"นอกจากแก้ปัญหาข้อพิพาทแล้วยังลดการลงทุนซ้ำซ้อน คาดหวังว่าการเจรจาจะเกิดผลลัพธ์ที่ดี ได้ข้อยุติ เพื่อนำทรัพย์สินมาใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ นโยบายรัฐบาลต้องการให้มีโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ อาจเกิดโดยมีหลายกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเอามารวมกัน เช่น ทรูหรือดีแทค หรือเราเอง กับทีโอทีก็คุยกัน เพื่อหาข้อยุติข้อพิพาทเรื่องไอซี และลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนเพื่อประโยชน์ประเทศ" เปลี่ยนจาก "คู่กรณี" มาเป็น "คู่หู" ได้ ย่อมดีกว่ากับทั้งคู่
"ซิกเว่ เบรกเก้" รักษาการซีอีโอดีแทค ระบุว่า มีการจัดตั้งทีมงานเพื่อร่วมกันพิจารณารูปแบบธุรกิจ และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า และอุตสาหกรรมทำให้มีความชัดเจนในการประกอบธุรกิจของทั้งสองฝ่าย ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
"การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในอัตราค่าบริการที่เหมาะสมเป็นพื้นฐานการนำไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งต้องการรูปแบบความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และเอกชน โดยแคทและดีแทคพร้อมเป็นผู้นำในการเป็นผู้จัดหา และบริหารโครงข่ายหรือโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม"
ดูดีทั้งแนวคิดและความตั้งใจ แต่จะไปได้ไกลแค่ไหน ต้องติดตาม และเป็นเพียง 1 ในหลายสิ่งที่ "กสทฯ" กำลัง (เร่ง) ทำ "พ.อ.สรรพชัย" ระบุว่า แผนงานปีหน้าที่ต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้คือเร่งพลิกฟื้นผลกำไรและเพิ่มรายได้ ทั้งจากธุรกิจมือถือ ในส่วน
MVNO และการทำตลาดแบรนด์ MY (เป้าลูกค้า 1 ล้านราย จาก 500,000 ราย) การหาพันธมิตรเป็นช่องทางในการให้บริการลูกค้ารายย่อยสำหรับบรอดแบนด์ FTTx (เพิ่มพื้นที่บริการทั่วประเทศอีก 1.5 แสนพอร์ต จากที่มีแสนกว่าพอร์ต) และนำทรัพย์สิน เช่น ที่ดินต่าง ๆ ไปหารายได้
"ที่ผ่านมาระบบไอทีไม่สามารถซัพพอร์ตบริการได้เต็มที่ กำลังเร่งแก้ไข คาดว่าจะเสร็จในปีนี้ ปีหน้าจะเปิดรับ MVNO เพิ่มได้ 3-4 ราย คาดว่าจะมีรายได้ที่ 2,000 ล้านบาท ที่ผ่านมา คนใช้มือถือทะลุ 100 ล้านไปแล้ว และมีการใช้มากกว่า 2 ซิม/คน เราต้องช่วงชิงตลาดที่คนอื่นยึดครองอยู่"
รายได้เฉลี่ยของพรีเพด MY อยู่ที่ 50 บาท โพสต์เพดอยู่ที่ 400 บาท/เดือน
"ผลประกอบการปีนี้ จากที่เคยคาดว่าจะกำไร 931 ล้านบาท เชื่อว่าจะทำได้ดีกว่าที่คาดไว้มาก ตัวเลขยังไม่คอนเฟิร์มแต่เกินพันล้านบาท"
สำหรับรายได้รวมปีนี้อยู่ที่ 39,000-40,000 ล้านบาท (ไม่รวมสัมปทานอีก 10,000 ล้านบาท) ปีหน้าจะอยู่ที่ 52,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจไร้สาย ที่ 26,000 ล้านบาท (ปีนี้ 25,000 ล้านบาท) ธุรกิจโทรศัพท์ 3,300 ล้านบาท ลดจาก 3,500-3,600 ล้านบาทปีนี้, บรอดแบนด์ 7,500 ล้านบาท เพิ่มจาก 7,000 ล้านบาท, ไอทีซิเคียวริตี้ และคลาวด์ 850 ล้านบาท จาก 600 ล้านบาท จากสัมปทาน 12,000 ล้านบาท จาก 10,000 ล้านบาทเทียบการเติบโตแต่ละธุรกิจ กลุ่มไอทีเติบโตสูงสุด และเตรียมขยับขยายบริการไปยังประเทศเพื่อนบ้านรองรับเออีซี
"การทำงานภายในเอง เราปรับโครงสร้างไปแล้วตั้งแต่ พ.ย.ปีที่แล้ว สิ่งที่ต้องโฟกัสปีหน้าคือการตลาด เน้นการขายมากขึ้นในแต่ละสายธุรกิจ"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1417673929
ไม่มีความคิดเห็น: