Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

27 ธันวาคม 2557 MONO 29 ระบุ พร้อมใช้งบลงทุนอีกกว่า 800 ล้านบาท แบ่งเป็น 500 ล้านบาทสำหรับซื้อคอนเทนต์ภาพยนตร์และซีรีส์ และอีก 300 ล้านบาทในส่วนของโปรดักชันและเพิ่มสตูดิโอใหม่



ประเด็นหลัก



     ในปี 2558 บริษัทฯ พร้อมใช้งบลงทุนอีกกว่า 800 ล้านบาท แบ่งเป็น 500 ล้านบาทสำหรับซื้อคอนเทนต์ภาพยนตร์และซีรีส์ และอีก 300 ล้านบาทในส่วนของโปรดักชันและเพิ่มสตูดิโอใหม่ โดยจะมีการปรับผังรายการเล็กน้อยด้วยการเพิ่มเวลาช่วงภาพยนตร์และซีรีส์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น พร้อมปรับราคาโฆษณาจากเดิม 5 พันบาทต่อนาที เป็น 2.5 หมื่นบาทต่อนาที หรือจะมีรายได้สูงถึง 1 พันล้านบาทจากเดิมที่มีรายได้ 150 ล้านบาทในปี 2557
     


_____________________________________________________















ทีวีดิจิตอลส่อแววไปไม่รอด “โมโน” อัด 800 ล้านสู่ท็อป 5 ทีวีรวม



        ASTVผู้จัดการรายวัน - จับตาทีวีดิจิตอลปีหน้าส่อแววถอดใจเกิดการควบรวมบริษัทขึ้นแน่ ลุ้น 5 ช่องชิงเม็ดเงิน 1 หมื่นล้านบาท ล่าสุด “โมโน” ทุ่ม 800 ล้านบาทสู้ศึก หวังติดท็อป 5 ทีวีรวม พร้อมโกยรายได้ทีวีแตะ 1 พันล้านบาท ส่งรายได้รวมทะลุ 3 พันล้านบาท
     
       นายซัง โด ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่เอเยนซีมีการแยกกลุ่มช่องทีวีดิจิตอลออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มฟรีทีวีเดิมคือ ช่อง 3, 5, 7, 9 กลุ่มช่องใหม่ที่มีเรตติ้งคือ เวิร์คพ้อยท์ทีวี, ช่อง 8 และช่องโมโน กลุ่มช่องที่เริ่มจะเห็นโอกาสในการมีเรตติ้ง และกลุ่มช่องที่ยังไม่มีเรตติ้งเลย
     
       ทั้งนี้ มองว่าในปี 2558 จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดคือ กลุ่มที่ 1 จะเหลือแค่ 2 ช่อง คือ ช่อง 3 และช่อง 7 ส่วนกลุ่มที่ 2 จะเพิ่มเป็น 5 ช่อง คือ เวิร์คพ้อยท์ทีวี, โมโน, ช่อง 8 และอีก 2 ช่องมาจากกลุ่มที่ 3 ที่ขยับขึ้นมาคือ ช่องวัน และช่อง 9 ที่หล่นมาจากกลุ่มที่ 1 ส่วนกลุ่มที่ 4 นั้นมั่นใจจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สุด โดยอาจจะมีการควบรวมช่องเกิดขึ้น หรือควบรวมกิจการเปลี่ยนเจ้าของ เนื่องจากเป็นช่องที่ไม่มีเรตติ้งและสายป่านไม่ยาวจนไม่สามารถอยู่ได้
     
       “ปีหน้าทุกช่องจะเหนื่อยไม่แตกต่างกัน แต่กลุ่มช่องที่จะมีการเปลี่ยนแปลงชัดสุดจะเห็นการควบรวมเกิดขึ้นคือกลุ่มที่ยังไม่มีเรตติ้ง ส่วนกลุ่มที่ 2 ซึ่่งน่าจะมี 5 ช่องเป็นกลุ่มที่จะได้รับความสนใจจากเอเยนซีมากสุดในการชิงเม็ดเงินโฆษณาทีวีดิจิตอลมูลค่า 1 หมื่นล้านบาทในปี 2558 ส่วนช่องโมโนจากเดิมที่เป็นช่องนอกสายตา แต่สามารถมีเรตติ้งขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 ในกลุ่มทีวีดิจิตอล รองจากช่องเวิร์คพ้อยท์ และช่อง 8 หรืออยู่ในอันดับ 7 ในกลุ่มทีวีรวม ปีหน้าจะขอขยับขึ้นเป็นท็อป 5 ในกลุ่มทีวีรวม พร้อมทำรายได้ 1 พันล้านบาท”
     
       ในปี 2558 บริษัทฯ พร้อมใช้งบลงทุนอีกกว่า 800 ล้านบาท แบ่งเป็น 500 ล้านบาทสำหรับซื้อคอนเทนต์ภาพยนตร์และซีรีส์ และอีก 300 ล้านบาทในส่วนของโปรดักชันและเพิ่มสตูดิโอใหม่ โดยจะมีการปรับผังรายการเล็กน้อยด้วยการเพิ่มเวลาช่วงภาพยนตร์และซีรีส์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น พร้อมปรับราคาโฆษณาจากเดิม 5 พันบาทต่อนาที เป็น 2.5 หมื่นบาทต่อนาที หรือจะมีรายได้สูงถึง 1 พันล้านบาทจากเดิมที่มีรายได้ 150 ล้านบาทในปี 2557
     
       อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจทีวีจะเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้มากสุดในปีหน้า รองลงมาคือ อินเทอร์เน็ต จาก 150 ล้านบาทในปี 2557 เพิ่มเป็น 250 ล้านบาทในปี 2558 และโมบายล์จาก 1.3 พันล้านบาท เพิ่มเป็น 1.5 พันล้านบาท หรือภายในปี 2558 บริษัทจะมีรายได้รวมเติบโตขึ้น 100% คิดเป็นมูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท มาจากโมบายล์ 43% ทีวี 32% อินเทอร์เน็ต 8% สิ่งพิมพ์ 5% ภาพยนตร์ 4% เพลง 3% และอื่นๆ 5%
     
       นายซัง โด ลี กล่าวต่อว่า ในปี 2558 บริษัทฯ ยังพร้อมเข้าสู่ตลาด SET จากเดิมอยู่ใน MAI โดยตั้งเป้าเป็นท็อป 5 ของกลุ่มมีเดียเอนเตอร์เทนเมนต์ในฐานะผู้ผลิตคอนเทนต์ใหญ่ที่สุด โดยในปี 2558 จะมีการลงทุนในแต่ละกลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น โมบายล์จะมีการเปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ๆ ด้วยการจับมือกับต่างประเทศ เช่น พม่า และเวียดนาม 2. อินเทอร์เน็ต เพิ่มคอนเทนต์สร้างรายได้มากขึ้นเพื่อบริหารเว็บไซต์ให้ดีขึ้น 3. สิ่งพิมพ์ เข้าสู่แพลตฟอร์มดิจิตอลมากขึ้น เช่น อีแมกกาซีน จากปัจจุบันมีนิตยสารในเครือ 11 หัว เป็นต้น 4. มิวสิก รุกต่างประเทศ เช่น เปิดค่ายเพลงในเกาหลี และ 5. ภาพยนตร์ ซื้อภาพยนตร์มาฉายในโรง 50 เรื่อง ผลิตเอง 4 เรื่อง เป็นต้น ขณะที่ธุรกิจทีวีจะเป็นธุรกิจหลักในการสร้างรายได้ภายใน 2 ปี

http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9570000147912

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.