30 มกราคม 2558 กสทช. เร่งประกาศ ให้การใช้งานมือถือแบบพรีเพดต้องลงทะเบียนซิมการ์ด ภายใน 31 ก.ค. 2558 มิฉะนั้น เบอร์ดังกล่าวอาจไม่สามารถใช้บริการได้ (โดยซิมพรีเพดในปัจจุบันมีผู้ใช้ มากกว่า 90 ล้านเลขหมาย แต่มีการลงทะเบียนเพียง 1.6 ล้านเลขหมายเท่านั้น)
ประเด็นหลัก
ล่าสุด "ฐากร ตัณฑสิทธิ์" เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) เปิดเผยว่า เตรียมออกประกาศให้การใช้งานมือถือแบบพรีเพดต้องลงทะเบียนซิมการ์ด ภายใน 31 ก.ค. 2558 มิฉะนั้น เบอร์ดังกล่าวอาจไม่สามารถใช้บริการได้ครบถ้วน เช่น รับสาย และข้อความได้ แต่โทร.ออกไม่ได้ เป็นต้น ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการแต่ละราย
พร้อมระบุว่า ซิมพรีเพดในปัจจุบันมีผู้ใช้ มากกว่า 90 ล้านเลขหมาย แต่มีการลงทะเบียนเพียง 1.6 ล้านเลขหมายเท่านั้น ซึ่งการไม่ลงทะเบียนแสดงตัวตนอาจก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ทั้งที่เกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงเรื่องความมั่นคงที่ไม่สามารถตามหาผู้กระทำผิดได้ และแม้ที่ผ่านมา กสทช.จะพยายามร่วมมือกับหลายหน่วยงานเพื่อให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนซิมการ์ดได้สะดวกขึ้น แต่ยังไม่ได้รับความร่วมมือ
_____________________________________________________
คุ้มครองผู้บริโภค? บีบลงทะเบียน ก่อน "ปิดซิม"
หลังจากมีความพยายามจะให้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงิน(พรีเพด) ต้องลงทะเบียนซิมการ์ดเพื่อให้ยืนยันตัวตนผู้ใช้งานได้ มาตั้งแต่ยุค "กทช." ผ่านมาเกือบ 10 ปี ถึงยุค "กสทช." ก็ยังไม่ได้มีการบังคับใช้จริงจัง
ล่าสุด "ฐากร ตัณฑสิทธิ์" เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) เปิดเผยว่า เตรียมออกประกาศให้การใช้งานมือถือแบบพรีเพดต้องลงทะเบียนซิมการ์ด ภายใน 31 ก.ค. 2558 มิฉะนั้น เบอร์ดังกล่าวอาจไม่สามารถใช้บริการได้ครบถ้วน เช่น รับสาย และข้อความได้ แต่โทร.ออกไม่ได้ เป็นต้น ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการแต่ละราย
พร้อมระบุว่า ซิมพรีเพดในปัจจุบันมีผู้ใช้ มากกว่า 90 ล้านเลขหมาย แต่มีการลงทะเบียนเพียง 1.6 ล้านเลขหมายเท่านั้น ซึ่งการไม่ลงทะเบียนแสดงตัวตนอาจก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ทั้งที่เกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงเรื่องความมั่นคงที่ไม่สามารถตามหาผู้กระทำผิดได้ และแม้ที่ผ่านมา กสทช.จะพยายามร่วมมือกับหลายหน่วยงานเพื่อให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนซิมการ์ดได้สะดวกขึ้น แต่ยังไม่ได้รับความร่วมมือ
ด้าน "ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา" กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชนในกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า การลงทะเบียนซิมการ์ด ส่งผลดีด้านความมั่นคง ขณะเดียวกันก็คุ้มครองสิทธิ์ของผู้บริโภคหากเกิดปัญหาจากการใช้บริการก็แสดงตนเรียกร้องสิทธิ์ได้ โดยเฉพาะการจะ "ย้ายค่ายเบอร์เดิม" แต่ที่ผ่านมาบรรดาโอเปอเรเตอร์ รวมถึงสำนักงาน กสทช.ต่างละเลยหน้าที่ ยอมให้มีการเปิดซิมใช้งานโดยไม่ต้องลงทะเบียนจนเกิดเป็นปัญหาในปัจจุบัน
"ตอนจะเปิดบริการ 3G บนคลื่น 2100 MHz กทค. (คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม) มีนโยบายชัดว่าต้องมีการลงทะเบียนซิมอย่างจริงจัง แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองทั้งจากผู้ให้บริการและสำนักงาน กสทช. มาครั้งนี้ทางสำนักงานประกาศจะเอาจริง ก็เป็นเรื่องดี แต่การออกมาตรการโดยอนุญาตให้ค่ายมือถือระงับบริการหรือ "ปิดซิม" ได้ จนกว่าจะมาลงทะเบียน ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ที่สำคัญก็คือ อำนาจระงับบริการนั้นจะทำบนฐานกฎหมายใด วิธีนี้เป็นการละเมิดสิทธิ์และส่งผลกระทบมากกว่าการกำหนดเป็นเงื่อนไขให้ดำเนินการก่อนเข้าสู่บริการ เช่น จะเติมเงินไม่ได้หากไม่ลงทะเบียน เป็นต้น ซึ่งในที่สุดถ้าเงินหรือเวลาหมดก็จะทำให้บริการสิ้นสุดเอง แบบนี้จะดีกว่า" นายประวิทย์กล่าว
นอกจากการบังคับให้ผู้ใช้ลงทะเบียนซิมการ์ดแล้ว เลขาธิการ กสทช.กล่าวอีกว่า ที่ประชุมบอร์ด กสทช. ล่าสุด (21 ม.ค. 2558) ได้เห็นชอบให้นำร่างประกาศ กสทช. เรื่อง การกระทำที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม โดยอาศัยการใช้เครือข่าย หรือการโฆษณาอันมีลักษณะเป็นการค้ากำไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ พ.ศ.... เข้าสู่กระบวนการรับฟังความเห็นสาธารณะ
โดยในร่างประกาศนี้ นิยาม "การโฆษณา" ให้รวมถึงข้อความเพื่อประโยชน์ทางการค้าและกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ทั้งที่จัดโดยค่ายมือถือหรือคู่ค้าหรือตัวแทนช่วง ซึ่งการกระทำที่ถือว่าเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ได้แก่ การไม่แจ้งให้ผู้บริโภคทราบรายละเอียดการให้บริการอย่างชัดเจน เพื่อให้ทำสัญญาและเลือกใช้บริการได้อย่างถูกต้อง การให้บริการในลักษณะที่บังคับให้ผู้บริโภคต้องใช้บริการนั้นทั้งที่ไม่ประสงค์ การทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการบริการ การคิดค่าบริการไม่เป็นธรรม การโทรศัพท์หรือส่งข้อความโฆษณาที่ทำให้เดือดร้อนรำคาญหรือโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้บริโภค (ยกเว้นการแจ้งภัยพิบัติ/เพื่อประโยชน์สาธารณะ/ข้อมูลเงื่อนไขการให้บริการ)
โดยให้ กสทช. สั่งปรับทางปกครองได้ไม่เกิน 5 ล้านบาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 1 แสนบาท ตลอดเวลาที่ยังไม่ได้ปฏิบัติตาม
"หลังประกาศนี้บังคับใช้จะแก้ปัญหาผู้บริโภคที่ถูกคิดค่าบริการเสริม หรือ SMS โฆษณาที่ไม่ได้สมัคร รวมถึงจะมีผลบังคับให้โอเปอเรเตอร์ ต้องคิดค่าโทร.เป็นวินาทีตามการใช้งานจริงได้" เลขาธิการ กสทช.กล่าว
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1422506162
ล่าสุด "ฐากร ตัณฑสิทธิ์" เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) เปิดเผยว่า เตรียมออกประกาศให้การใช้งานมือถือแบบพรีเพดต้องลงทะเบียนซิมการ์ด ภายใน 31 ก.ค. 2558 มิฉะนั้น เบอร์ดังกล่าวอาจไม่สามารถใช้บริการได้ครบถ้วน เช่น รับสาย และข้อความได้ แต่โทร.ออกไม่ได้ เป็นต้น ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการแต่ละราย
พร้อมระบุว่า ซิมพรีเพดในปัจจุบันมีผู้ใช้ มากกว่า 90 ล้านเลขหมาย แต่มีการลงทะเบียนเพียง 1.6 ล้านเลขหมายเท่านั้น ซึ่งการไม่ลงทะเบียนแสดงตัวตนอาจก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ทั้งที่เกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงเรื่องความมั่นคงที่ไม่สามารถตามหาผู้กระทำผิดได้ และแม้ที่ผ่านมา กสทช.จะพยายามร่วมมือกับหลายหน่วยงานเพื่อให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนซิมการ์ดได้สะดวกขึ้น แต่ยังไม่ได้รับความร่วมมือ
_____________________________________________________
คุ้มครองผู้บริโภค? บีบลงทะเบียน ก่อน "ปิดซิม"
หลังจากมีความพยายามจะให้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงิน(พรีเพด) ต้องลงทะเบียนซิมการ์ดเพื่อให้ยืนยันตัวตนผู้ใช้งานได้ มาตั้งแต่ยุค "กทช." ผ่านมาเกือบ 10 ปี ถึงยุค "กสทช." ก็ยังไม่ได้มีการบังคับใช้จริงจัง
ล่าสุด "ฐากร ตัณฑสิทธิ์" เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) เปิดเผยว่า เตรียมออกประกาศให้การใช้งานมือถือแบบพรีเพดต้องลงทะเบียนซิมการ์ด ภายใน 31 ก.ค. 2558 มิฉะนั้น เบอร์ดังกล่าวอาจไม่สามารถใช้บริการได้ครบถ้วน เช่น รับสาย และข้อความได้ แต่โทร.ออกไม่ได้ เป็นต้น ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการแต่ละราย
พร้อมระบุว่า ซิมพรีเพดในปัจจุบันมีผู้ใช้ มากกว่า 90 ล้านเลขหมาย แต่มีการลงทะเบียนเพียง 1.6 ล้านเลขหมายเท่านั้น ซึ่งการไม่ลงทะเบียนแสดงตัวตนอาจก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ทั้งที่เกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงเรื่องความมั่นคงที่ไม่สามารถตามหาผู้กระทำผิดได้ และแม้ที่ผ่านมา กสทช.จะพยายามร่วมมือกับหลายหน่วยงานเพื่อให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนซิมการ์ดได้สะดวกขึ้น แต่ยังไม่ได้รับความร่วมมือ
ด้าน "ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา" กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชนในกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า การลงทะเบียนซิมการ์ด ส่งผลดีด้านความมั่นคง ขณะเดียวกันก็คุ้มครองสิทธิ์ของผู้บริโภคหากเกิดปัญหาจากการใช้บริการก็แสดงตนเรียกร้องสิทธิ์ได้ โดยเฉพาะการจะ "ย้ายค่ายเบอร์เดิม" แต่ที่ผ่านมาบรรดาโอเปอเรเตอร์ รวมถึงสำนักงาน กสทช.ต่างละเลยหน้าที่ ยอมให้มีการเปิดซิมใช้งานโดยไม่ต้องลงทะเบียนจนเกิดเป็นปัญหาในปัจจุบัน
"ตอนจะเปิดบริการ 3G บนคลื่น 2100 MHz กทค. (คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม) มีนโยบายชัดว่าต้องมีการลงทะเบียนซิมอย่างจริงจัง แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองทั้งจากผู้ให้บริการและสำนักงาน กสทช. มาครั้งนี้ทางสำนักงานประกาศจะเอาจริง ก็เป็นเรื่องดี แต่การออกมาตรการโดยอนุญาตให้ค่ายมือถือระงับบริการหรือ "ปิดซิม" ได้ จนกว่าจะมาลงทะเบียน ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ที่สำคัญก็คือ อำนาจระงับบริการนั้นจะทำบนฐานกฎหมายใด วิธีนี้เป็นการละเมิดสิทธิ์และส่งผลกระทบมากกว่าการกำหนดเป็นเงื่อนไขให้ดำเนินการก่อนเข้าสู่บริการ เช่น จะเติมเงินไม่ได้หากไม่ลงทะเบียน เป็นต้น ซึ่งในที่สุดถ้าเงินหรือเวลาหมดก็จะทำให้บริการสิ้นสุดเอง แบบนี้จะดีกว่า" นายประวิทย์กล่าว
นอกจากการบังคับให้ผู้ใช้ลงทะเบียนซิมการ์ดแล้ว เลขาธิการ กสทช.กล่าวอีกว่า ที่ประชุมบอร์ด กสทช. ล่าสุด (21 ม.ค. 2558) ได้เห็นชอบให้นำร่างประกาศ กสทช. เรื่อง การกระทำที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม โดยอาศัยการใช้เครือข่าย หรือการโฆษณาอันมีลักษณะเป็นการค้ากำไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ พ.ศ.... เข้าสู่กระบวนการรับฟังความเห็นสาธารณะ
โดยในร่างประกาศนี้ นิยาม "การโฆษณา" ให้รวมถึงข้อความเพื่อประโยชน์ทางการค้าและกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ทั้งที่จัดโดยค่ายมือถือหรือคู่ค้าหรือตัวแทนช่วง ซึ่งการกระทำที่ถือว่าเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ได้แก่ การไม่แจ้งให้ผู้บริโภคทราบรายละเอียดการให้บริการอย่างชัดเจน เพื่อให้ทำสัญญาและเลือกใช้บริการได้อย่างถูกต้อง การให้บริการในลักษณะที่บังคับให้ผู้บริโภคต้องใช้บริการนั้นทั้งที่ไม่ประสงค์ การทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการบริการ การคิดค่าบริการไม่เป็นธรรม การโทรศัพท์หรือส่งข้อความโฆษณาที่ทำให้เดือดร้อนรำคาญหรือโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้บริโภค (ยกเว้นการแจ้งภัยพิบัติ/เพื่อประโยชน์สาธารณะ/ข้อมูลเงื่อนไขการให้บริการ)
โดยให้ กสทช. สั่งปรับทางปกครองได้ไม่เกิน 5 ล้านบาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 1 แสนบาท ตลอดเวลาที่ยังไม่ได้ปฏิบัติตาม
"หลังประกาศนี้บังคับใช้จะแก้ปัญหาผู้บริโภคที่ถูกคิดค่าบริการเสริม หรือ SMS โฆษณาที่ไม่ได้สมัคร รวมถึงจะมีผลบังคับให้โอเปอเรเตอร์ ต้องคิดค่าโทร.เป็นวินาทีตามการใช้งานจริงได้" เลขาธิการ กสทช.กล่าว
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1422506162
ไม่มีความคิดเห็น: