Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

09 กุมภาพันธ์ 2558 บริษัทวิจัย อีมาร์เก็ตเตอร์ระบุว่า ส่วนแบ่งตลาดโฆษณาโมบายทั่วโลกของ GOOGLE ลดลงเหลือ 41% ในปี 2557 จาก 47% ในปี 2556 ขณะที่ส่วนแบ่งของ FACEBOOK เพิ่มขึ้นจาก 17% เป็น 18%

ประเด็นหลัก


    ส่วนแบ่งตลาดโฆษณาออนไลน์ของกูเกิลกำลังเผชิญกับแรงกดดัน เมื่อผู้ใช้อินเตอร์เน็ตหันไปใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเลตมากขึ้น ข้อมูลจากบริษัทวิจัย อีมาร์เก็ตเตอร์ระบุว่า ส่วนแบ่งตลาดโฆษณาโมบายทั่วโลกของกูเกิลลดลงเหลือ 41% ในปี 2557 จาก 47% ในปี 2556 ขณะที่ส่วนแบ่งของเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้นจาก 17% เป็น 18% "ตลาดโมบายเป็นสิ่งที่นักลงทุนกังวล ความเป็นผู้นำของกูเกิลกำลังถูกท้าทายจากการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อคนทั่วโลกหันไปสู่อุปกรณ์โมบาย" โรเบิร์ต เพค นักวิเคราะห์จากซันทรัสต์ โรบินสัน ฮัมฟรีย์ ให้ความเห็น




_____________________________________________________



















 กูเกิลลงทุนธุรกิจใหม่ต่อเนื่อง

 กูเกิลเร่งลงทุนเพิ่มเติมในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อตอบโต้การแข่งขันในธุรกิจอุปกรณ์โมบาย แม้ว่ารายได้จากโฆษณาบนเสิร์ชเอนจินซึ่งเป็นธุรกิจหลักจะทำได้ต่ำกว่าความคาดหมายของนักวิเคราะห์ในไตรมาสที่ผ่านมา
   alt กูเกิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 4 ของปี 2557 ด้วยรายได้รวม 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 6.9% แต่ต่ำกว่าความคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์รายได้ของกูเกิลไว้ที่ 1.47 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่เล็กน้อย โดยกูเกิลมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มจำนวนพนักงานและอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนส่งผลกระทบต่อรายได้
    ในขณะที่เฟซบุ๊กและบริษัทอินเตอร์เน็ตอื่นๆ กำลังพยายามหาช่องทางดึงผู้ใช้และเจ้าของโฆษณาไปสู่บริการบนอุปกรณ์แท็บเลตและสมาร์ทโฟน แต่นักลงทุนพึงพอใจกับสัญญาณความแข็งแกร่งของธุรกิจเสิร์ชเอนจิน ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของกูเกิล และเชื่อว่าบริษัทจะนำเงินสดที่มีอยู่ในมือไปลงทุนในตลาดใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต
    กูเกิลกล่าวว่า การผันผวนของเงินตราต่างประเทศส่งผลกดดันรายได้ โดยรายได้รวมควรจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 541 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถ้าไม่มีผลกระทบจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า นอกจากนี้ เจ้าของโฆษณายังจ่ายเงินให้กับโฆษณาบนแพลตฟอร์มโมบายลดลง ทำให้ราคาเฉลี่ยของพื้นที่โฆษณาโมบายลดลง 3% ในไตรมาสที่ผ่านมา
    แลร์รี เพจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกูเกิล เพิ่มค่าใช้จ่ายในการลงทุนกับธุรกิจที่อยู่นอกเหนือจากธุรกิจเสิร์ชเอนจินหลัก ตั้งแต่บริการไฮสปีดอินเตอร์เน็ต รถยนต์ที่ไร้คนขับ ไปจนถึงระบบชำระเงินดิจิตอล และแว่นตาอัจฉริยะ
    ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเพิ่มขึ้นเป็น 6.78 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 35% จากปีก่อนหน้า เทียบกับคู่แข่งอย่างแอปเปิลที่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่มีรายได้สูงกว่ากูเกิลกว่า 5 เท่าตัวในไตรมาสเดียวกัน
    แพทริค พีเชตต์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของกูเกิล กล่าวว่า ปี 2557 เป็นปีที่มีการเติบโตด้านการลงทุนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ กูเกิลจะพยายามสร้างความสมดุลระหว่างการเติบโตและการควบคุมค่าใช้จ่าย โดยพีเชตต์ระบุว่ามีหลายธุรกิจที่มีศักยภาพที่จะเติบโตได้ในอนาคต แต่ขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะชะลอการลงทุนถ้าผลที่ได้ไม่เป็นไปตามความคาดหมาย
    กำไรสุทธิในไตรมาส 4 เพิ่มขึ้น 41% เป็น 4.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 3.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีก่อนหน้า ขณะที่รายได้จากเว็บไซต์กูเกิลเพิ่มขึ้น 18% เป็น 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รายได้จากธุรกิจอื่นๆ อาทิ เพลย์สโตร์ และฮาร์ดแวร์ เพิ่มขึ้น 19%
    ส่วนแบ่งตลาดโฆษณาออนไลน์ของกูเกิลกำลังเผชิญกับแรงกดดัน เมื่อผู้ใช้อินเตอร์เน็ตหันไปใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเลตมากขึ้น ข้อมูลจากบริษัทวิจัย อีมาร์เก็ตเตอร์ระบุว่า ส่วนแบ่งตลาดโฆษณาโมบายทั่วโลกของกูเกิลลดลงเหลือ 41% ในปี 2557 จาก 47% ในปี 2556 ขณะที่ส่วนแบ่งของเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้นจาก 17% เป็น 18% "ตลาดโมบายเป็นสิ่งที่นักลงทุนกังวล ความเป็นผู้นำของกูเกิลกำลังถูกท้าทายจากการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อคนทั่วโลกหันไปสู่อุปกรณ์โมบาย" โรเบิร์ต เพค นักวิเคราะห์จากซันทรัสต์ โรบินสัน ฮัมฟรีย์ ให้ความเห็น





จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,024  วันที่  5 - 7  กุมถาพันธ์  พ.ศ. 2558

http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=263925:2015-02-03-07-59-08&catid=109:2009-02-08-11-36-01&Itemid=460#.VNdMOUJAeuw

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.