Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

23 สิงหาคม 2558 "ไปรษณีย์ไทย" ระบุ สำหรับผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2558 มีรายได้ 11,048 ล้านบาท กำไรสุทธิ1,361 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน โดย 46.36% ของรายได้มาจากบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) อีก 43.63% หรือ 4,860 ล้านบาท มาจากธุรกิจสื่อสาร ส่วนธุรกิจค้าปลีกมีรายได้ 4.49% หรือ 439 ล้านบาท

ประเด็นหลัก


พร้อมช่วยขับเคลื่อนธุรกิจคนไทยให้มากขึ้น ล่าสุดได้ร่วมมือกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) คัดเลือกสินค้าที่ได้รับรองมาตรฐานฮาลาล วางจำหน่าย ณ ที่ทำการไปรษณีย์นำร่อง 30 แห่ง ใน 14 จังหวัดภาคใต้และกรุงเทพฯ เพื่อสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่

สำหรับผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2558 มีรายได้ 11,048 ล้านบาท กำไรสุทธิ1,361 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน โดย 46.36% ของรายได้มาจากบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) อีก 43.63% หรือ 4,860 ล้านบาท มาจากธุรกิจสื่อสาร ส่วนธุรกิจค้าปลีกมีรายได้ 4.49% หรือ 439 ล้านบาท และธุรกิจการเงินมีรายได้ 286 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายรายได้สิ้นปี 22,000 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน


_____________________________________________________










"ไปรษณีย์ไทย" ปักธงโลจิสติกส์อาเซียน ยกเครื่องบริการกู้ภาพลักษณ์



ไปรษณีย์ไทยปักธงโลจิสติกส์ครบวงจรรับอาเซียน เพิ่มรอบส่งของ "กัมพูชา-พม่า"3 เที่ยว/สัปดาห์ ปรับปรุงคุณภาพบริการทุกขั้นตอนรับยอด EMS พุ่ง 10% ทุกปีก้าวเป็นรายได้อันดับหนึ่งของบริษัท หวังกู้ภาพลักษณ์ โชว์ผลประกอบการ 6 เดือนแรก รายได้ทะลุ 1.1 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 1,361 ล้านบาท มั่นใจสิ้นปีกำไรเกิน 2 พันล้าน


นายปิยะวัตร์ มหาเปารยะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทยจำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า จากนี้จะมุ่งรักษารายได้จากตลาดสื่อสารควบคู่ไปกับการพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทั้งตลาดขนส่ง ค้าปลีก และการเงิน เพื่อตอบสนองผู้ใช้บริการ และขยายโอกาสทางธุรกิจ เป็น Smart Post พร้อมก้าวเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรในอาเซียน โดยใช้เครือข่าย ปณท เชื่อมโยงสนามบิน ท่าเรือ สถานีขนส่ง จังหวัด และชุมชนทั่วประเทศ รวมถึงเป็นคลังสินค้าที่รวบรวม จัดเก็บและกระจายสินค้าไปยังจุดหมาย

ในเบื้องต้นได้เริ่มขยายบริการรับส่งสินค้าระหว่างประเทศรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้วโดยได้ทำความตกลงร่วมกันกับไปรษณีย์ของกัมพูชา และพม่า เพื่อเพิ่มรอบการนำส่งไปรษณียภัณฑ์ระหว่างประเทศเป็น 3 รอบ/สัปดาห์ จากเดิม 2 รอบ/สัปดาห์

พร้อมช่วยขับเคลื่อนธุรกิจคนไทยให้มากขึ้น ล่าสุดได้ร่วมมือกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) คัดเลือกสินค้าที่ได้รับรองมาตรฐานฮาลาล วางจำหน่าย ณ ที่ทำการไปรษณีย์นำร่อง 30 แห่ง ใน 14 จังหวัดภาคใต้และกรุงเทพฯ เพื่อสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่

สำหรับผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2558 มีรายได้ 11,048 ล้านบาท กำไรสุทธิ1,361 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน โดย 46.36% ของรายได้มาจากบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) อีก 43.63% หรือ 4,860 ล้านบาท มาจากธุรกิจสื่อสาร ส่วนธุรกิจค้าปลีกมีรายได้ 4.49% หรือ 439 ล้านบาท และธุรกิจการเงินมีรายได้ 286 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายรายได้สิ้นปี 22,000 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน

"บริการ EMS เติบโตมากกว่า 10% ทุกปีขณะที่ไปรษณียภัณฑ์ประเภทซองอื่น ๆ จะเพิ่มขึ้นราว 2% สิ่งสำคัญที่ ปณท ต้องปรับตัวคือ การอบรมบุคลากรและพัฒนาระบบไอที เพื่อปรับปรุงคุณภาพมาตรฐานการให้บริการ แม้ว่าไปรษณียภัณฑ์ที่เข้าระบบจะมีความเสียหายไม่ถึง 1% หรือประมาณ 33-35 ชิ้นจากที่ส่งกว่า 1 ล้านชิ้น แต่การร้องเรียนผ่านโซเชียลมีเดียส่งผลต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นในไปรษณีย์ไทย จึงต้องปรับปรุงตั้งแต่การคัดแยกสายพานการส่งของ ทั้งประเภทกล่องและซองขนาดใหญ่ การเพิ่มนวัตกรรมของอุปกรณ์ไปรษณีย์ เช่น ทำให้กล่องพัสดุหนามากขึ้น การติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดดูการทำงาน การอบรมพนักงานเพื่อให้การนำจ่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยตั้งเป้าลดจำนวนความเสียหายให้น้อยที่สุดหรือไม่มีเลย"

นอกจากนี้จะจัดจุดให้บริการหุ้มห่อสิ่งของที่ฝากทางไปรษณีย์ในที่ทำการไปรษณีย์ 17 แห่งนำร่องในกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อให้คำแนะนำในการแพ็กสิ่งของให้มีความคงทนแข็งแรง รวมถึงออกนโยบายพิเศษ คือ เพิ่มการชดใช้ค่าเสียหายจากบริการ EMS โดยหากสิ่งของที่ฝากส่งได้ผ่านการตรวจสอบจากพนักงานว่ามีการห่อหุ้มตามมาตรฐาน ด้วยการประทับตรา "ตรวจสอบแล้ว" แต่ผู้รับปลายทางได้รับสิ่งของที่ชำรุดเสียหาย ไปรษณีย์ไทยจะชดใช้ค่าเสียหายเพิ่มพิเศษ 1.5 เท่าของมูลค่าสิ่งของ แต่ไม่เกิน 3,000 บาท



http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1440048091

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.