23 สิงหาคม 2558 (บทความ) "iflix" เขย่าตลาด วีดิโอออนดีมานด์ // เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ iflix โฟกัสก็เป็นตลาดที่มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนกว่า 250 ล้านราย โดยเป้าหมายของ iflix อยู่ที่ดึงมาให้ได้ 20 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 5-10 ปี หรือให้ได้สมาชิก 50 ล้าน ภายใน 10 ปี
ประเด็นหลัก
iflix เป็นบริการวิดีโอออนดีมานด์ที่มีหนัง การ์ตูน ซีรีส์ และรายการโชว์ต่าง ๆ ให้เลือกดูในระบบสมาชิก ตั้งราคาไว้ที่ 100 บาทต่อเดือน ให้เลือกดูได้ไม่จำกัด ผ่านอุปกรณ์ทุกประเภท ทั้งพีซี แท็บเลต หรือสมาร์ทโฟน ทั้งหมดไม่เกิน 5 เครื่อง และให้ดูได้พร้อมกันครั้งละไม่เกิน 2 เครื่อง
เป็นราคาที่ถือว่าถูก ไม่มีซับซ้อนให้ต้องคิดคำนวณอะไรกันมาก ที่เหลือเป็นเรื่องของการบริการและเนื้อหา ซึ่งหมายถึงบรรดาหนัง ซีรีส์ และรายการในตลาด ที่ยังไม่มีรายใดโดดเด่นมาก ราคาถือเป็นจุดดึงดูดได้ดี ขณะที่จุดสำคัญยังอยู่ที่เนื้อหาหรือพูดตรง ๆ ความสามารถในการเจรจาลิขสิทธิ์ให้ได้เรื่องหรือรายการที่โดดเด่นกว่า หรือเร็วกว่ามาได้ ความได้เปรียบของ iflix คงอยู่ที่มีตลาดนอกเหนือจากเมืองไทยอยู่ด้วย อาจทำให้มีพลังในการต่อรองหรือช่วงชิงลิขสิทธิ์ได้มากกว่า
จุดหนึ่งที่ iflix ดูเหมือนจะให้น้ำหนักเป็นพิเศษคือการดูผ่านสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์โมบาย ที่ตอกย้ำมาตั้งแต่การเปิดตัวบริษัทเมื่อต้นปีถึงจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนในภูมิภาคนี้ ว่ามีถึงกว่า 700 ล้านราย เมื่อเทียบเพียง 200 กว่าล้านรายในสหรัฐอเมริกา ดินแดนที่ Netfilx ประสบความสำเร็จสูงมาก
และเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ iflix โฟกัสก็เป็นตลาดที่มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนกว่า 250 ล้านราย โดยเป้าหมายของ iflix อยู่ที่ดึงมาให้ได้ 20 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 5-10 ปี หรือให้ได้สมาชิก 50 ล้าน ภายใน 10 ปี
_____________________________________________________
"iflix" เขย่าตลาด วีดิโอออนดีมานด์
คอลัมน์ IT.Talentz โดย siripong@kidtalentz.com
ภายในสิงหานี้จะเป็นเดือนที่ในไทยมีผู้ให้บริการวิดีโอออนดีมานด์รายใหม่เปิดเพิ่มอีกรายหนึ่งจากเดิมที่มีอยู่แล้ว5-6 ราย การแข่งขันย่อมจะเข้มข้นขึ้นตามเวลาและจำนวนผู้แข่งขัน ที่น่าสนใจคือ รายใหม่นี้ไม่ใช่เป็นบริษัทท้องถิ่น แต่ข้ามพรมแดนเข้ามาเปิดบริการ
iflix คือชื่อของผู้ให้บริการรายใหม่ที่ผู้ลงทุนหลักคือกลุ่ม Catcha ซึ่งมีฐานอยู่ในมาเลเซียและเพิ่งเริ่มเปิดให้บริการในมาเลเซียกับฟิลิปปินส์ไม่นานมานี้ ไทยเป็นประเทศที่สามที่จะเปิดให้บริการ
หมายมั่นว่าจะเป็น Netflix แห่งเอเชียขณะที่ในตลาดที่เพิ่งเริ่มนี้ยังไม่มีรายไหนโดดเด่นอย่างแท้จริง การเปิดตัวของ iflix ค่อนข้างน่าจับตาว่าจะมีอะไรมาดึงดูดได้มากกว่าเท่าที่มีทำกันอยู่หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ก่อนเปิดบริการจริง การทำการตลาดของ iflix ดูเหมือนคึกคักเป็นพิเศษ การให้ลงทะเบียนล่วงหน้าโดยใช้อีเมล์แอดเดรสเพียงอย่างเดียวเพื่อขอรับสิทธิทดลองดูฟรี 30 วัน หรือการเปิดช่องทางสื่อสารผ่านเฟซบุ๊กที่ดูเหมือนได้รับการตอบรับมากพอสมควร มีผู้กดไลก์มากกว่า 135,000 ราย ในช่วงเวลาสั้น ๆ
iflix เป็นบริการวิดีโอออนดีมานด์ที่มีหนัง การ์ตูน ซีรีส์ และรายการโชว์ต่าง ๆ ให้เลือกดูในระบบสมาชิก ตั้งราคาไว้ที่ 100 บาทต่อเดือน ให้เลือกดูได้ไม่จำกัด ผ่านอุปกรณ์ทุกประเภท ทั้งพีซี แท็บเลต หรือสมาร์ทโฟน ทั้งหมดไม่เกิน 5 เครื่อง และให้ดูได้พร้อมกันครั้งละไม่เกิน 2 เครื่อง
เป็นราคาที่ถือว่าถูก ไม่มีซับซ้อนให้ต้องคิดคำนวณอะไรกันมาก ที่เหลือเป็นเรื่องของการบริการและเนื้อหา ซึ่งหมายถึงบรรดาหนัง ซีรีส์ และรายการในตลาด ที่ยังไม่มีรายใดโดดเด่นมาก ราคาถือเป็นจุดดึงดูดได้ดี ขณะที่จุดสำคัญยังอยู่ที่เนื้อหาหรือพูดตรง ๆ ความสามารถในการเจรจาลิขสิทธิ์ให้ได้เรื่องหรือรายการที่โดดเด่นกว่า หรือเร็วกว่ามาได้ ความได้เปรียบของ iflix คงอยู่ที่มีตลาดนอกเหนือจากเมืองไทยอยู่ด้วย อาจทำให้มีพลังในการต่อรองหรือช่วงชิงลิขสิทธิ์ได้มากกว่า
จุดหนึ่งที่ iflix ดูเหมือนจะให้น้ำหนักเป็นพิเศษคือการดูผ่านสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์โมบาย ที่ตอกย้ำมาตั้งแต่การเปิดตัวบริษัทเมื่อต้นปีถึงจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนในภูมิภาคนี้ ว่ามีถึงกว่า 700 ล้านราย เมื่อเทียบเพียง 200 กว่าล้านรายในสหรัฐอเมริกา ดินแดนที่ Netfilx ประสบความสำเร็จสูงมาก
และเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ iflix โฟกัสก็เป็นตลาดที่มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนกว่า 250 ล้านราย โดยเป้าหมายของ iflix อยู่ที่ดึงมาให้ได้ 20 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 5-10 ปี หรือให้ได้สมาชิก 50 ล้าน ภายใน 10 ปี
เมื่อไม่กี่วันมานี้ในมาเลเซีย iflix ได้สัญญาแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับซัมซุงในการบันเดิล iflix เข้ากับ Samsung Galaxy Tab S2 ฟรีค่าสมาชิก 12 เดือน และ 6 เดือนสำหรับอุปกรณ์ตัวเด่นของซัมซุง กับ 3 เดือนฟรีสำหรับอุปกรณ์ซัมซุงทุกรุ่นที่เล่นวิดีโอสตรีมมิ่งได้ ส่วนในฟิลิปปินส์ก็เข้าไปทำสัญญาเอ็กซ์คลูซีฟกับผู้ให้บริการบรอดแบนด์รายใหญ่รายหนึ่งด้วย
อย่างน้อยนี่ก็เป็นกลยุทธ์ทางตรงในการเจาะถึงผู้ใช้อุปกรณ์โมบายในยุคที่เชื่อกันว่าคนหันเข้าหาคอนเทนต์บนอินเทอร์เน็ตผ่านโมบายมากกว่าพีซีที่เหลือเป็นหน้าที่ของคอนเทนต์ที่จะตรึงผู้ใช้บริการให้ต่ออายุสมาชิกแบบเสียเงินหลังครบกำหนดหรือไม่
ระหว่างที่Netflixผู้ให้บริการรายใหญ่ยักษ์ซึ่งเริ่มขยายตลาดไปในต่างประเทศได้ราว ๆ กว่า 50 ประเทศ แต่ยังเชื่องช้าในเอเชีย โดยเพิ่งจะประกาศดีเดย์ในญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกในเอเชียเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ และยังไม่เคยเห็นแผนการของ Netflix สำหรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่อย่างใด การเข้ามาของ iflix ถือเป็นจังหวะที่กำลังเหมาะ และน่าเกรงขามไม่น้อยสำหรับผู้ให้บริการประเภทเดียวกันในเมืองไทย
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1439795643
iflix เป็นบริการวิดีโอออนดีมานด์ที่มีหนัง การ์ตูน ซีรีส์ และรายการโชว์ต่าง ๆ ให้เลือกดูในระบบสมาชิก ตั้งราคาไว้ที่ 100 บาทต่อเดือน ให้เลือกดูได้ไม่จำกัด ผ่านอุปกรณ์ทุกประเภท ทั้งพีซี แท็บเลต หรือสมาร์ทโฟน ทั้งหมดไม่เกิน 5 เครื่อง และให้ดูได้พร้อมกันครั้งละไม่เกิน 2 เครื่อง
เป็นราคาที่ถือว่าถูก ไม่มีซับซ้อนให้ต้องคิดคำนวณอะไรกันมาก ที่เหลือเป็นเรื่องของการบริการและเนื้อหา ซึ่งหมายถึงบรรดาหนัง ซีรีส์ และรายการในตลาด ที่ยังไม่มีรายใดโดดเด่นมาก ราคาถือเป็นจุดดึงดูดได้ดี ขณะที่จุดสำคัญยังอยู่ที่เนื้อหาหรือพูดตรง ๆ ความสามารถในการเจรจาลิขสิทธิ์ให้ได้เรื่องหรือรายการที่โดดเด่นกว่า หรือเร็วกว่ามาได้ ความได้เปรียบของ iflix คงอยู่ที่มีตลาดนอกเหนือจากเมืองไทยอยู่ด้วย อาจทำให้มีพลังในการต่อรองหรือช่วงชิงลิขสิทธิ์ได้มากกว่า
จุดหนึ่งที่ iflix ดูเหมือนจะให้น้ำหนักเป็นพิเศษคือการดูผ่านสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์โมบาย ที่ตอกย้ำมาตั้งแต่การเปิดตัวบริษัทเมื่อต้นปีถึงจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนในภูมิภาคนี้ ว่ามีถึงกว่า 700 ล้านราย เมื่อเทียบเพียง 200 กว่าล้านรายในสหรัฐอเมริกา ดินแดนที่ Netfilx ประสบความสำเร็จสูงมาก
และเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ iflix โฟกัสก็เป็นตลาดที่มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนกว่า 250 ล้านราย โดยเป้าหมายของ iflix อยู่ที่ดึงมาให้ได้ 20 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 5-10 ปี หรือให้ได้สมาชิก 50 ล้าน ภายใน 10 ปี
_____________________________________________________
"iflix" เขย่าตลาด วีดิโอออนดีมานด์
คอลัมน์ IT.Talentz โดย siripong@kidtalentz.com
ภายในสิงหานี้จะเป็นเดือนที่ในไทยมีผู้ให้บริการวิดีโอออนดีมานด์รายใหม่เปิดเพิ่มอีกรายหนึ่งจากเดิมที่มีอยู่แล้ว5-6 ราย การแข่งขันย่อมจะเข้มข้นขึ้นตามเวลาและจำนวนผู้แข่งขัน ที่น่าสนใจคือ รายใหม่นี้ไม่ใช่เป็นบริษัทท้องถิ่น แต่ข้ามพรมแดนเข้ามาเปิดบริการ
iflix คือชื่อของผู้ให้บริการรายใหม่ที่ผู้ลงทุนหลักคือกลุ่ม Catcha ซึ่งมีฐานอยู่ในมาเลเซียและเพิ่งเริ่มเปิดให้บริการในมาเลเซียกับฟิลิปปินส์ไม่นานมานี้ ไทยเป็นประเทศที่สามที่จะเปิดให้บริการ
หมายมั่นว่าจะเป็น Netflix แห่งเอเชียขณะที่ในตลาดที่เพิ่งเริ่มนี้ยังไม่มีรายไหนโดดเด่นอย่างแท้จริง การเปิดตัวของ iflix ค่อนข้างน่าจับตาว่าจะมีอะไรมาดึงดูดได้มากกว่าเท่าที่มีทำกันอยู่หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ก่อนเปิดบริการจริง การทำการตลาดของ iflix ดูเหมือนคึกคักเป็นพิเศษ การให้ลงทะเบียนล่วงหน้าโดยใช้อีเมล์แอดเดรสเพียงอย่างเดียวเพื่อขอรับสิทธิทดลองดูฟรี 30 วัน หรือการเปิดช่องทางสื่อสารผ่านเฟซบุ๊กที่ดูเหมือนได้รับการตอบรับมากพอสมควร มีผู้กดไลก์มากกว่า 135,000 ราย ในช่วงเวลาสั้น ๆ
iflix เป็นบริการวิดีโอออนดีมานด์ที่มีหนัง การ์ตูน ซีรีส์ และรายการโชว์ต่าง ๆ ให้เลือกดูในระบบสมาชิก ตั้งราคาไว้ที่ 100 บาทต่อเดือน ให้เลือกดูได้ไม่จำกัด ผ่านอุปกรณ์ทุกประเภท ทั้งพีซี แท็บเลต หรือสมาร์ทโฟน ทั้งหมดไม่เกิน 5 เครื่อง และให้ดูได้พร้อมกันครั้งละไม่เกิน 2 เครื่อง
เป็นราคาที่ถือว่าถูก ไม่มีซับซ้อนให้ต้องคิดคำนวณอะไรกันมาก ที่เหลือเป็นเรื่องของการบริการและเนื้อหา ซึ่งหมายถึงบรรดาหนัง ซีรีส์ และรายการในตลาด ที่ยังไม่มีรายใดโดดเด่นมาก ราคาถือเป็นจุดดึงดูดได้ดี ขณะที่จุดสำคัญยังอยู่ที่เนื้อหาหรือพูดตรง ๆ ความสามารถในการเจรจาลิขสิทธิ์ให้ได้เรื่องหรือรายการที่โดดเด่นกว่า หรือเร็วกว่ามาได้ ความได้เปรียบของ iflix คงอยู่ที่มีตลาดนอกเหนือจากเมืองไทยอยู่ด้วย อาจทำให้มีพลังในการต่อรองหรือช่วงชิงลิขสิทธิ์ได้มากกว่า
จุดหนึ่งที่ iflix ดูเหมือนจะให้น้ำหนักเป็นพิเศษคือการดูผ่านสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์โมบาย ที่ตอกย้ำมาตั้งแต่การเปิดตัวบริษัทเมื่อต้นปีถึงจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนในภูมิภาคนี้ ว่ามีถึงกว่า 700 ล้านราย เมื่อเทียบเพียง 200 กว่าล้านรายในสหรัฐอเมริกา ดินแดนที่ Netfilx ประสบความสำเร็จสูงมาก
และเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ iflix โฟกัสก็เป็นตลาดที่มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนกว่า 250 ล้านราย โดยเป้าหมายของ iflix อยู่ที่ดึงมาให้ได้ 20 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 5-10 ปี หรือให้ได้สมาชิก 50 ล้าน ภายใน 10 ปี
เมื่อไม่กี่วันมานี้ในมาเลเซีย iflix ได้สัญญาแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับซัมซุงในการบันเดิล iflix เข้ากับ Samsung Galaxy Tab S2 ฟรีค่าสมาชิก 12 เดือน และ 6 เดือนสำหรับอุปกรณ์ตัวเด่นของซัมซุง กับ 3 เดือนฟรีสำหรับอุปกรณ์ซัมซุงทุกรุ่นที่เล่นวิดีโอสตรีมมิ่งได้ ส่วนในฟิลิปปินส์ก็เข้าไปทำสัญญาเอ็กซ์คลูซีฟกับผู้ให้บริการบรอดแบนด์รายใหญ่รายหนึ่งด้วย
อย่างน้อยนี่ก็เป็นกลยุทธ์ทางตรงในการเจาะถึงผู้ใช้อุปกรณ์โมบายในยุคที่เชื่อกันว่าคนหันเข้าหาคอนเทนต์บนอินเทอร์เน็ตผ่านโมบายมากกว่าพีซีที่เหลือเป็นหน้าที่ของคอนเทนต์ที่จะตรึงผู้ใช้บริการให้ต่ออายุสมาชิกแบบเสียเงินหลังครบกำหนดหรือไม่
ระหว่างที่Netflixผู้ให้บริการรายใหญ่ยักษ์ซึ่งเริ่มขยายตลาดไปในต่างประเทศได้ราว ๆ กว่า 50 ประเทศ แต่ยังเชื่องช้าในเอเชีย โดยเพิ่งจะประกาศดีเดย์ในญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกในเอเชียเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ และยังไม่เคยเห็นแผนการของ Netflix สำหรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่อย่างใด การเข้ามาของ iflix ถือเป็นจังหวะที่กำลังเหมาะ และน่าเกรงขามไม่น้อยสำหรับผู้ให้บริการประเภทเดียวกันในเมืองไทย
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1439795643
ไม่มีความคิดเห็น: