13 กันยายน 2558 รายงานข่าวแจ้งว่า ในเครือข่ายทรูมูฟบนคลื่น 1800 MHz มีลูกค้าเหลืออยู่ 1.95 แสนราย และยังคงเร่งดึงลูกค้าย้ายมายังทรูมูฟ เอช บนคลื่น 850 และ 2100 MHz ด้วยการจำหน่ายสมาร์ทโฟนราคาถูกและมีแพ็กเกจราคาพิเศษ
ประเด็นหลัก
รายงานข่าวแจ้งว่า ในเครือข่ายทรูมูฟบนคลื่น 1800 MHz มีลูกค้าเหลืออยู่ 1.95 แสนราย และยังคงเร่งดึงลูกค้าย้ายมายังทรูมูฟ เอช บนคลื่น 850 และ 2100 MHz ด้วยการจำหน่ายสมาร์ทโฟนราคาถูกและมีแพ็กเกจราคาพิเศษ
______________________________________________
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
หลังชิงธงนำเป็นผู้ให้บริการ 3G และ 4G (ในแง่การมีบริการก่อนใคร) มาได้ ก็ดูเหมือนว่ากลุ่มทรูจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะใช้ความได้เปรียบนี้เป็นจุดขายจุดแข็งในการทำตลาด ล่าสุดขยับจัดทัพงานบริการทั้งด่านหน้าและหลัง ตั้งแต่การปรับคอนเซ็ปต์ทรูช็อปใหม่ให้ทันสมัยขึ้น ทั้งด้วยการขยายพื้นที่ร้าน, เปลี่ยนชุดยูนิฟอร์มพนักงาน, เพิ่มตู้คีออสก์รับชำระค่าบริการ รวมถึงงานบริการหลังการขายอย่างบริการคอลเซ็นเตอร์ด้วย
จะว่าไปการปรับคอนเซ็ปต์ช็อปครั้งนี้ ช่างคล้ายคลึงกับ "เอไอเอส" ที่กำลังทยอยปรับโฉมช็อปใหม่เพื่อให้เข้ากับยุทธศาสตร์ธุรกิจที่มุ่งไปสู่การเป็นผู้ให้บริการ "ดิจิทัล" ครบวงจร โดยเพิ่มโซน "ดิจิทัลไลฟ์"
"คาร์ล กูเดียร์" หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านบริการลูกค้า บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า หลังปรับรูปแบบหน้าร้านทรูช็อปให้ตอบสนองยุทธศาสตร์ธุรกิจ "คอนเวอร์เจนซ์" โดยจะให้คำปรึกษา จำหน่ายสินค้า และบริการต่าง ๆ ของกลุ่มทรู ทำให้จำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้ในปีนี้ต้องลงทุนขยายหน้าร้านกว่า 400 แห่ง ให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการ เพราะปัจจุบันบางสาขาไม่สามารถบริการได้ทั่วถึง เช่น มีคิวชำระเงินยาวเกิน เป็นต้น
"ทรูช็อปทุกแห่งทำ 3 อย่าง คือ ชำระค่าบริการ, ขายสินค้า และให้บริการหลังการขาย เทียบกันแล้ว 95% ที่เข้ามาจะมาชำระค่าบริการ ส่วนที่เหลือคือซื้อสินค้า และรับบริการหลังการขายเท่า ๆ กัน บริษัทจึงต้องแก้ปัญหาด้วยการลงทุนขยายพื้นที่สาขาเดิมให้รองรับคนได้มากขึ้น รวมถึงเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ช็อปให้สมาร์ทขึ้นด้วยการใส่เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้าไป และจะมีสินค้าที่จำหน่ายมากกว่าแค่โทรศัพท์มือถือ และแก็ดเจตด้วย"
โดยทรูช็อปคอนเซ็ปต์ใหม่จะเป็น "true Smart Store" แห่งแรก อยู่ที่ห้างสรรพสินค้าเอ็มควอเทียร์ ก่อนจะทยอยปรับเปลี่ยนหน้าร้านอีกกว่า 200 แห่ง ซึ่งหน้าร้านรูปแบบใหม่จะแตกต่างจากเดิม ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ Smart Experience, Smart Community, Smart Living และ Smart Look เช่น ลงทุน 10 ล้านบาท กับบริการคิวชำระเงินอัจฉริยะ เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทยังร่วมมือกับ "ยูนิโคล่" แบรนด์สินค้าแฟชั่นจากประเทศญี่ปุ่น ในการออกแบบเครื่องแบบพนักงานขายใหม่กว่า 5,000 คนด้วย
ปัจจุบันทรูช็อปมีกว่า 400 สาขา แบ่งเป็นร้าน Hi-end ขนาดใหญ่กว่าปกติ และมีทรูคอฟฟี่ภายในร้านราว 10 แห่ง, สาขาปกติ 250 แห่ง, ทรู มินิ ที่อยู่ในไฮเปอร์เทรด 80 สาขา และทรู สเตชั่น ร้านขนาดเล็กในต่างจังหวัด 80 แห่ง เกือบทั้งหมดเป็นร้านที่บริษัทบริหารเอง มีไม่ถึง 10% บริหารโดยแฟรนไชส์ เพราะต้องการควบคุมคุณภาพบริการ และปีนี้ขยายเพิ่ม 25% จากปีที่แล้วมี 350 สาขา
สำหรับตู้คีออสก์ หรือตู้ชำระค่าบริการ จากเมื่อ 2-3 ปีก่อนไม่ค่อยมีคนใช้บริการ และได้รับการตอบสนองจากลูกค้าในเชิงลบ เพราะตู้ไม่ทอนเงิน และมีความยุ่งยากในการใช้งาน ทำให้มีการชำระค่าบริการเพียง 5% ของการชำระทั้งหมด แต่ปัจจุบันมีการใช้งานมากขึ้นถึง 63% เพราะผู้บริโภคเริ่มเรียนรู้เทคโนโลยีและเชื่อใจเรื่องความปลอดภัยของระบบ จึงจะติดตั้งตู้คีออสก์เพิ่มจาก 1,300 ตู้ เป็น 2,000 ตู้ในปีนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และช่วยให้การบริหารจัดการภายในร้านง่ายขึ้นด้วย
นายคาร์ลกล่าวต่อว่า บริการคอลเซ็นเตอร์มีการใช้งานมากขึ้นเช่นกัน แม้ส่วนใหญ่จะสอบถามเรื่องย้ายค่ายเบอร์เดิม แต่จะขยายบริการเพิ่มเติมด้วย เพราะหากคอลเซ็นเตอร์แก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ ลูกค้าก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปรับบริการที่ร้าน
รายงานข่าวแจ้งว่า ในเครือข่ายทรูมูฟบนคลื่น 1800 MHz มีลูกค้าเหลืออยู่ 1.95 แสนราย และยังคงเร่งดึงลูกค้าย้ายมายังทรูมูฟ เอช บนคลื่น 850 และ 2100 MHz ด้วยการจำหน่ายสมาร์ทโฟนราคาถูกและมีแพ็กเกจราคาพิเศษ
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1440642338
ไม่มีความคิดเห็น: