26 ตุลาคม 2555 SAMSUNG กำไรพุ่ง 91% กับ Galaxy โดย Galaxy S3 เพิ่มเป็น 18.8% ครองตำแหน่งอันดับ 1 ในตลาดโลกได้
ประเด็นหลัก
ซัมซุง (Samsung) ประกาศผลประกอบการช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนที่ผ่านมา ระบุว่ายอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนตระกูลแกแล็กซี่ (Galaxy) เติบโตก้าวกระโดดจนทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 6.5 ล้านล้านวอน (ราว 1.8 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 91% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเคยทำได้ที่ 3.44 ล้านล้านวอนเท่านั้น
กำไรสุทธิสถิติใหม่ของซัมซุงเกิดขึ้นในวันที่อัตราส่วนกำไรหรือมาร์จิ้นของสินค้าซัมซุงนั้นเพิ่มเป็น 18.8% ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนสูงที่สุดในช่วงที่ซัมซุงปฏิวัติตัวเองให้กลายเป็นบริษัทระดับโลกเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง Galaxy S3 ในเดือนพฤษภาคม จนทำให้ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนของซัมซุงช่วง 3 เดือนที่แล้วพุ่งกระฉูด
แม้ว่าซัมซุงจะไม่เปิดเผยตัวเลขยอดจัดส่งสมาร์ทโฟน แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าซัมซุงสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้มากกว่า 50 ล้านเครื่อง โดยเชื่อว่าซัมซุงสามารถครองตำแหน่งอันดับ 1 ในตลาดโลกได้ ขณะที่คู่แข่งอย่างแอปเปิลสามารถจำหน่ายไอโฟนได้ 27 ล้านเครื่องในช่วงเวลาเดียวกัน
____________________________________
ซัมซุงกำไรพุ่ง 91% อานิสงส์สมาร์ทโฟนแกแล็กซี่
ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนตระกูลแกแล็กซี่ (Galaxy) เติบโตก้าวกระโดดจนทำให้ซัมซุงมีกำไรสุทธิ 6.5 ล้านล้านวอน
ซัมซุง (Samsung) ประกาศผลประกอบการช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนที่ผ่านมา ระบุว่ายอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนตระกูลแกแล็กซี่ (Galaxy) เติบโตก้าวกระโดดจนทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 6.5 ล้านล้านวอน (ราว 1.8 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 91% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเคยทำได้ที่ 3.44 ล้านล้านวอนเท่านั้น
กำไรสุทธิสถิติใหม่ของซัมซุงเกิดขึ้นในวันที่อัตราส่วนกำไรหรือมาร์จิ้นของสินค้าซัมซุงนั้นเพิ่มเป็น 18.8% ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนสูงที่สุดในช่วงที่ซัมซุงปฏิวัติตัวเองให้กลายเป็นบริษัทระดับโลกเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง Galaxy S3 ในเดือนพฤษภาคม จนทำให้ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนของซัมซุงช่วง 3 เดือนที่แล้วพุ่งกระฉูด
แม้ว่าซัมซุงจะไม่เปิดเผยตัวเลขยอดจัดส่งสมาร์ทโฟน แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าซัมซุงสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้มากกว่า 50 ล้านเครื่อง โดยเชื่อว่าซัมซุงสามารถครองตำแหน่งอันดับ 1 ในตลาดโลกได้ ขณะที่คู่แข่งอย่างแอปเปิลสามารถจำหน่ายไอโฟนได้ 27 ล้านเครื่องในช่วงเวลาเดียวกัน
วันนี้ธุรกิจโทรคมนาคมสามารถทำกำไรให้ซัมซุงในสัดส่วนสูงถึง 69% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ทำได้ 62% โดยยังคงเป็นอันดับ 1 ใน 4 ธุรกิจของซัมซุงซึ่งยังมีแผนกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค (consumer electronic), แผนกชิป (chip) และอุปกรณ์หน้าจอ (display component) โดยแผนกหลังอยู่ในภาวะทรงตัวมานานก่อนจะเริ่มอาการดีขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมา
ซัมซุงระบุว่าตลอด 3 เดือน ธุรกิจโทรคมนาคมทำกำไรให้ซัมซุงราว 5.63 ล้านล้านวอน ซึ่งเพิ่มขึ้นเกินเท่าตัวเมื่อเทียบกับ 2.42 ล้านล้านวอนที่เคยทำได้ โดยตัวเลขกำไของซัมซุงทั้งบริษัท 6.5 ล้านล้านวอนนี้เกิดขึ้นบนรายรับรวม 52.2 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 26% จาก 41.3 ล้านล้านวอนในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
สำหรับธุรกิจชิป ซัมซุงได้รับผลกระทบจากภาวะราคาชิปตกต่ำและความต้องการชิปหน่วยความจำลดลง ทำให้รายได้จากการจำหน่ายชิปลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอัตราส่วนมาร์จิ้นในสินค้าชิปคอมพิวเตอร์ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมานั้นอยู่ที่ 13.2% เท่านั้น เทียบกับ 16.8% ที่เคยทำได้เมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ถือว่าดีขึ้นจาก 12.9% ที่เคยเป็นในช่วงต้นปี 2012
นอกจากนี้ ซัมซุงยังทำรายได้เพิ่มในธุรกิจจำหน่ายหน้าจอด้วย โดยสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้น 19% คิดเป็นมูลค่า 8.46 ล้านล้านวอน ทำอัตราส่วนมาร์จิ้นเพิ่มขึ้นเป็น 12.9% จากไตรมาสก่อนหน้าที่มีกำไรเพียง 9.1% เท่านั้น ขณะเดียวกัน ซัมซุงยังสามารถเพิ่มกำไรในสินค้ากลุ่ม consumer electronic เป็น 3.7% จากเดิมที่มีกำไรเพียง 1.6% ซึ่งแปลว่าการจำหน่ายสินค้าอย่างโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ กล้องดิจิตอล และอุปกรณ์เครื่องใช้อื่นๆนั้นทำรายได้ให้ซัมซุงมากขึ้น
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000131182
ซัมซุง (Samsung) ประกาศผลประกอบการช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนที่ผ่านมา ระบุว่ายอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนตระกูลแกแล็กซี่ (Galaxy) เติบโตก้าวกระโดดจนทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 6.5 ล้านล้านวอน (ราว 1.8 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 91% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเคยทำได้ที่ 3.44 ล้านล้านวอนเท่านั้น
กำไรสุทธิสถิติใหม่ของซัมซุงเกิดขึ้นในวันที่อัตราส่วนกำไรหรือมาร์จิ้นของสินค้าซัมซุงนั้นเพิ่มเป็น 18.8% ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนสูงที่สุดในช่วงที่ซัมซุงปฏิวัติตัวเองให้กลายเป็นบริษัทระดับโลกเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง Galaxy S3 ในเดือนพฤษภาคม จนทำให้ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนของซัมซุงช่วง 3 เดือนที่แล้วพุ่งกระฉูด
แม้ว่าซัมซุงจะไม่เปิดเผยตัวเลขยอดจัดส่งสมาร์ทโฟน แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าซัมซุงสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้มากกว่า 50 ล้านเครื่อง โดยเชื่อว่าซัมซุงสามารถครองตำแหน่งอันดับ 1 ในตลาดโลกได้ ขณะที่คู่แข่งอย่างแอปเปิลสามารถจำหน่ายไอโฟนได้ 27 ล้านเครื่องในช่วงเวลาเดียวกัน
____________________________________
ซัมซุงกำไรพุ่ง 91% อานิสงส์สมาร์ทโฟนแกแล็กซี่
ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนตระกูลแกแล็กซี่ (Galaxy) เติบโตก้าวกระโดดจนทำให้ซัมซุงมีกำไรสุทธิ 6.5 ล้านล้านวอน
ซัมซุง (Samsung) ประกาศผลประกอบการช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนที่ผ่านมา ระบุว่ายอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนตระกูลแกแล็กซี่ (Galaxy) เติบโตก้าวกระโดดจนทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 6.5 ล้านล้านวอน (ราว 1.8 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 91% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเคยทำได้ที่ 3.44 ล้านล้านวอนเท่านั้น
กำไรสุทธิสถิติใหม่ของซัมซุงเกิดขึ้นในวันที่อัตราส่วนกำไรหรือมาร์จิ้นของสินค้าซัมซุงนั้นเพิ่มเป็น 18.8% ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนสูงที่สุดในช่วงที่ซัมซุงปฏิวัติตัวเองให้กลายเป็นบริษัทระดับโลกเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง Galaxy S3 ในเดือนพฤษภาคม จนทำให้ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนของซัมซุงช่วง 3 เดือนที่แล้วพุ่งกระฉูด
แม้ว่าซัมซุงจะไม่เปิดเผยตัวเลขยอดจัดส่งสมาร์ทโฟน แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าซัมซุงสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้มากกว่า 50 ล้านเครื่อง โดยเชื่อว่าซัมซุงสามารถครองตำแหน่งอันดับ 1 ในตลาดโลกได้ ขณะที่คู่แข่งอย่างแอปเปิลสามารถจำหน่ายไอโฟนได้ 27 ล้านเครื่องในช่วงเวลาเดียวกัน
วันนี้ธุรกิจโทรคมนาคมสามารถทำกำไรให้ซัมซุงในสัดส่วนสูงถึง 69% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ทำได้ 62% โดยยังคงเป็นอันดับ 1 ใน 4 ธุรกิจของซัมซุงซึ่งยังมีแผนกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค (consumer electronic), แผนกชิป (chip) และอุปกรณ์หน้าจอ (display component) โดยแผนกหลังอยู่ในภาวะทรงตัวมานานก่อนจะเริ่มอาการดีขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมา
ซัมซุงระบุว่าตลอด 3 เดือน ธุรกิจโทรคมนาคมทำกำไรให้ซัมซุงราว 5.63 ล้านล้านวอน ซึ่งเพิ่มขึ้นเกินเท่าตัวเมื่อเทียบกับ 2.42 ล้านล้านวอนที่เคยทำได้ โดยตัวเลขกำไของซัมซุงทั้งบริษัท 6.5 ล้านล้านวอนนี้เกิดขึ้นบนรายรับรวม 52.2 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 26% จาก 41.3 ล้านล้านวอนในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
สำหรับธุรกิจชิป ซัมซุงได้รับผลกระทบจากภาวะราคาชิปตกต่ำและความต้องการชิปหน่วยความจำลดลง ทำให้รายได้จากการจำหน่ายชิปลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอัตราส่วนมาร์จิ้นในสินค้าชิปคอมพิวเตอร์ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมานั้นอยู่ที่ 13.2% เท่านั้น เทียบกับ 16.8% ที่เคยทำได้เมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ถือว่าดีขึ้นจาก 12.9% ที่เคยเป็นในช่วงต้นปี 2012
นอกจากนี้ ซัมซุงยังทำรายได้เพิ่มในธุรกิจจำหน่ายหน้าจอด้วย โดยสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้น 19% คิดเป็นมูลค่า 8.46 ล้านล้านวอน ทำอัตราส่วนมาร์จิ้นเพิ่มขึ้นเป็น 12.9% จากไตรมาสก่อนหน้าที่มีกำไรเพียง 9.1% เท่านั้น ขณะเดียวกัน ซัมซุงยังสามารถเพิ่มกำไรในสินค้ากลุ่ม consumer electronic เป็น 3.7% จากเดิมที่มีกำไรเพียง 1.6% ซึ่งแปลว่าการจำหน่ายสินค้าอย่างโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ กล้องดิจิตอล และอุปกรณ์เครื่องใช้อื่นๆนั้นทำรายได้ให้ซัมซุงมากขึ้น
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000131182
ไม่มีความคิดเห็น: