Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

16 เมษายน 2556 สงคราม3Gเริ่มแล้ว++ DTACสู้เรื่องคุณภาพ(คลื่นเหลือให้บริการ) AISเน้นราคาเท่าเดิมแต่การให้เพิ่ม TRUE ขอกระโดดไป 4G 2100 คู่ให้บริการ 3G


ประเด็นหลัก


DTAC

ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าดีแทคค่อนข้างเงียบไปสักนิด คงเป็นเพราะเราต้องเร่งทำงานหลังบ้านเยอะมาก ดีแทคเพิ่งผ่านกระบวนการปรับปรุงโครงข่าย (Network Swap) ทั่วประเทศไปเมื่อไม่นานมานี้ นั่นทำให้เครือข่ายของดีแทคทันสมัยที่สุด พร้อมต่อการให้บริการ 3 จีมากที่สุด และทำให้เรามีโอกาสได้เปรียบมากที่สุดด้วย
ปัจจุบัน ดีแทคให้บริการฐานลูกค้า 25 ล้านเลขหมาย บนคลื่นความถี่หลากหลายและเหลือเฟือ ได้แก่ คลื่น 1800 MHz เพื่อให้บริการ 2 จีด้วยสถานีฐานจำนวน 11,000 สถานี คลื่น 850 MHz เพื่อให้บริการ 3 จี จำนวน 5,500 สถานีฐาน และคลื่น 2.1 GHz ซึ่งเพิ่งทยอยติดตั้งเครือข่ายหลักร้อยสถานี ยึดตามความต้องการของลูกค้า โดยเฟสแรกมีเป้าหมายที่ 1,000 สถานีฐานก่อน






“ถ้าพิจารณาจากราคาค่าบริการ 3 จีปัจจุบันบนคลื่นความถี่เดิม (ดีแทคบนคลื่น 850 MHz ทรูมูฟเอชบนคลื่น 850 MHz และเอไอเอสบนคลื่น 900 MHz) แล้ว จะมีแค่ดีแทคกับทรูมูฟเอชเท่านั้นที่แข่งขันราคากัน บางทีเขาออกแพ็กเกจมา เราก็ออกตามเขา บางทีเขาก็ออกตามเรา ลอกกันไปมา ส่วนเอไอเอสไม่อยู่ในจุดที่จะสามารถเข้ามาร่วมแข่งขันราคาได้ เนื่องจากมีคลื่นจำกัด”






ปรัธนา ลีลพนัง
ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานบริการดิจิตอล
บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส

“ขณะนี้เอไอเอสเปิดให้บริการ 3 จีบนคลื่น 2.1 GHz เชิงพาณิชย์แล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่เป็นการให้บริการลูกค้าในกลุ่มจำกัดก่อนราว 200,000 เลขหมาย ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้จะได้รับประสบการณ์ 3 จีใหม่ของเอไอเอสที่มีประสิทธิ– ภาพมากขึ้น ความเร็วสูงขึ้นมากกว่า 1 เท่า รวมทั้งคุณภาพของสัญญาณเสียงด้วย”
ทั้งนี้ในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เอไอเอสได้ประกาศเชิญชวนลูกค้าที่สนใจใช้บริการ 3 จีใหม่เป็นกลุ่มแรกๆ ลงทะเบียนอัพเกรดบริการผ่านทางข้อความสั้นหรือเอสเอ็มเอส ซึ่งปรากฏมีลูกค้าแสดงความสนใจราว 700,000-800,000 ราย จากนั้นระบบได้ทำการสุ่มเลือกลูกค้า 200,000 รายแรกที่จะได้ใช้บริการ โดยต้องมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข 3 ประการ ได้แก่ มีเครื่องโทรศัพท์รองรับการใช้งาน 3 จีบนคลื่น 2.1 GHz, มีซิมรองรับการใช้งาน และอยู่ในพื้นที่ที่บริการครอบคลุม

ณ ปัจจุบัน เอไอเอสติดตั้งสถานีฐานบนคลื่น 3 จี 2.1 GHz เสร็จสิ้นแล้ว 3,600 สถานี และคาดว่าก่อนเปิดบริการเต็มรูปแบบในช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่จะถึง จะมีจำนวนสถานีฐานแตะ 3,800 สถานี และเดินหน้าสู่ 8,000 สถานีภายในสิ้นปีนี้ ส่วนสถานีฐานที่รองรับ 3 จีบนคลื่น 900 MHz เดิมนั้น มีอยู่ประมาณ  3,700 สถานี และสถานีฐาน 2 จี อีกราว 17,000 สถานี

โดย 3 จีเฟสแรกของเอไอเอส 3,600 สถานีนั้น จะให้บริการได้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล รวมทั้งหัวเมือง 18 จังหวัด และภายในสิ้นปีจะขยายเครือข่ายครอบคลุมหัวเมือง 77 จังหวัดทั่วประเทศ

ในส่วนของค่าบริการนั้น เนื่องจากยังเป็นบริการนำร่อง ลูกค้า 200,000 เลขหมายแรก จะถูกคิดค่าบริการตามแพ็กเกจที่เลือกอยู่เดิม แต่ได้ใช้บริการที่ดีขึ้น ความเร็วสูงขึ้น ส่วนแพ็กเกจใหม่นั้น จะเปิดตัวในช่วงที่เปิดบริการเต็มรูปแบบ ซึ่งผู้ให้บริการ 3 จีใหม่บนคลื่น 2.1 GHz ทุกราย ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของ กสทช.ที่กำหนดให้เก็บอัตราค่าบริการต่ำกว่าอัตราปัจจุบัน 15%

“ขณะนี้เรากำลังทำความเข้าใจกับ กสทช.ว่าอัตราค่าบริการที่ถูกกำหนดให้ต่ำกว่า 15% นั้น คิดจากราคาเฉลี่ยใด เพราะปัจจุบันโปรโมชั่นราคามือถือมีความหลากหลายมาก เฉพาะของเอไอเอสมีกว่า 2,000 รูปแบบ อย่างไรก็ตาม ที่สุดแล้วเราพร้อมที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการลดราคาในรูปแบบของการคิดราคาตามแพ็กเกจเดิม แต่ให้บริการที่เพิ่มขึ้น เช่นเดิมให้ปริมาณใช้งานที่ 100 MB เพิ่มเป็น 150 MB ก็ถือว่าเพิ่มปริมาณใช้งานให้ 15% เป็นต้น รวมทั้งการตั้งราคาแพ็กเกจใหม่ ซึ่งจะได้เห็นกันแน่ในช่วงการเปิดตัวเต็มรูปแบบ”





อติรุฒม์ โตทวีแสนสุข
กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจโมบายล์
บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

“วันนี้ทรูมูฟเอชคือเครือข่าย 3 จีที่ดีที่สุด ที่เรากล้าพูด เพราะขณะนี้เรามีเครือข่ายที่สมบูรณ์ที่สุด ครอบคลุมพื้นที่ 77 จังหวัด 928 อำเภอ 6,378 ตำบล 51,161 หมู่บ้าน ณ วันนี้ไม่มีใครที่มีเครือข่าย 3 จีครอบคลุมเท่าเราอีกแล้ว”

ปัจจุบันทรูมูฟเอชมีเครือข่าย 3 จีบนคลื่น 850 MHz ทั้งสิ้น 12,000 สถานีฐาน และกำลังติดตั้งเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง มีเป้าหมายขยับเป็น 13,000 สถานีฐานภายในสิ้นเดือน เม.ย. ส่วน 3 จีบนคลื่น 2.1 GHz นั้น มีเป้าหมายขยายให้ได้ 5,000 สถานีภายในสิ้นปี เมื่อรวมกันแล้วจะทำให้ทรูมูฟเอชมีสถานีฐาน 3 จีเพื่อให้บริการทั้งสิ้น 18,000 สถานีบน 2 คลื่นความถี่

และด้วยความที่ทรูมูฟเอช ลงทุนขยายเครือ-ข่าย 3 จีนำหน้าคู่แข่งไปได้มากโข จากการทำสัญญา 3 จีรูปแบบใหม่กับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด ในช่วงต้นปี 2554 การเปิดตัว 3 จีบนคลื่น 2.1 GHz อย่างเป็นทางการในวันที่ 8 พ.ค. อันเป็นวันเดียวกันกับดีแทคนั้น ไฮไลต์ของทรูมูฟเอชจึงไม่ได้อยู่ที่ 3 จีอย่างเช่นคู่แข่งรายอื่น แต่จะกระโดดข้ามไปสู่การให้บริการ 4 จี บนคลื่น 2.1 GHz เลยทีเดียว

“เนื่องจากเรามี 3 จีบนคลื่น 850 MHz ค่อนข้างครอบคลุมแล้ว เราจะใช้คลื่น 2.1 GHz ติดตั้ง 3 จีบางส่วนที่จำเป็น และเจียดคลื่นบางส่วนไปให้บริการ 4 จี มีเป้าหมายติดตั้งสถานีฐาน 4 จีทั้งสิ้น 2,000 สถานีภายในสิ้นปี เฟสแรกเน้นในเขตกรุงเทพมหานคร บริเวณชุมชน เช่น สยามสแควร์ สีลม สาทร ปทุมวัน และจึงขยายสู่หัวเมืองหลัก แหล่งท่องเที่ยว เช่น พัทยา ชะอำ หัวหิน รวมไปถึงจังหวัดใหญ่ๆ เช่น เชียง– ใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ โคราช ขอนแก่น เป็นต้น”

นั่นจะทำให้ทรูมูฟเอชกลายเป็นผู้ให้บริการที่เปิด 4 จีเชิงพาณิชย์รายแรก ถือเป็นสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่จะได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ในการใช้งานเครือข่ายความเร็วสูงก่อนใคร เพียงแค่มีอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน แม้ปัจจุบันมือถือที่รองรับการใช้งาน 4 จีบนคลื่น 2.1 GHz จะมีเพียงไม่กี่รุ่น อันได้แก่ ไอโฟน 5 ไอแพดมินิ ไอแพดเรติน่า โนเกียลูเมีย 920 เป็นต้น





















_______________________________



เช็กความพร้อมสมรภูมิ 3 จี ดีแทค-เอไอเอส-ทรูประกาศติดอาวุธ


การเปิดบริการมือถือ 3 จีเชิงพาณิชย์ บนคลื่น 2.1 GHz ที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดประมูลไปเมื่อเดือน ต.ค. 2555 ขยับใกล้ความจริงเข้ามาทุกขณะ หลัง 3 ค่ายมือถือผู้ชนะการประมูล ใช้เวลาช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาทยอยติดตั้งโครงข่าย เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการได้ ภายในไตรมาส 2 ของปี ตามเป้าหมายที่วางไว้




ล่าสุดราวต้นเดือน พ.ค. ผู้ให้บริการ 3 ค่ายมีแผนที่จะเปิดตัว 3 จี 2.1 GHz เชิงพาณิชย์โดยพร้อมเพรียงกัน นับเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันเต็มรูปแบบอีกครั้ง ขนาดเปิดตัวยังเลือกวันเดียวกัน เพราะไม่มีใครยอมน้อยหน้าใคร




“ทีมเศรษฐกิจ” ขอถือโอกาสนี้ ติดตามความพร้อมของ 3 ค่ายมือถือในการรับมือกับศึก 3 จีที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ ผ่านบทสัมภาษณ์ของพวกเขาเหล่านี้





ปกรณ์ พรรณเชษฐ์
ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด
บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค




“หลังสงกรานต์ ดีแทคจะเริ่มปล่อยโฆษณา 3 จีบนคลื่น 2.1 GHz ออกสู่สายตาประชาชน ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 พ.ค.นี้ ภาพลักษณ์ 3 จีใหม่ของเรายังเป็นความลับ บอกใบ้ได้แค่ว่าจะมีสีสัน ทันสมัยมากขึ้น เซ็กซี่ขึ้น จากเดิมที่จะดูเป็นคนดี เฟรนด์ลี่ หน่อมแน้ม เราเป็นเพื่อนประเภทที่ใครทุกข์ใจ จะเข้ามาหา แต่ถ้าอยู่ในงานปาร์ตี้ เราจะไม่ดึงดูดใจพอที่จะเรียกใครเข้ามาคุย”




ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าดีแทคค่อนข้างเงียบไปสักนิด คงเป็นเพราะเราต้องเร่งทำงานหลังบ้านเยอะมาก ดีแทคเพิ่งผ่านกระบวนการปรับปรุงโครงข่าย (Network Swap) ทั่วประเทศไปเมื่อไม่นานมานี้ นั่นทำให้เครือข่ายของดีแทคทันสมัยที่สุด พร้อมต่อการให้บริการ 3 จีมากที่สุด และทำให้เรามีโอกาสได้เปรียบมากที่สุดด้วย
ปัจจุบัน ดีแทคให้บริการฐานลูกค้า 25 ล้านเลขหมาย บนคลื่นความถี่หลากหลายและเหลือเฟือ ได้แก่ คลื่น 1800 MHz เพื่อให้บริการ 2 จีด้วยสถานีฐานจำนวน 11,000 สถานี คลื่น 850 MHz เพื่อให้บริการ 3 จี จำนวน 5,500 สถานีฐาน และคลื่น 2.1 GHz ซึ่งเพิ่งทยอยติดตั้งเครือข่ายหลักร้อยสถานี ยึดตามความต้องการของลูกค้า โดยเฟสแรกมีเป้าหมายที่ 1,000 สถานีฐานก่อน




“ความหลากหลายของคลื่นที่เรามี ถือเป็นจุดแข็งของดีแทคในยุคปัจจุบัน ถ้าเปรียบเครือข่ายเป็นถนน เราก็มีถนนวิ่งได้หลายเส้น บางเส้นใช้วิ่งในต่างจังหวัดดี บางเส้นใช้วิ่งในกรุงเทพฯดี เราเลือกใช้และเลือกให้บริการที่ดีที่สุดได้ จุดเด่นตรงนี้แข็งแรงมาก ความถี่ที่มีทั้งหมดทำให้เราค่อนข้างมั่นคง เราไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพ ต่างจากเอไอเอสซึ่งคงกดดันมาก นอกจากนั้นเรายังโชคดีที่อายุสัมปทานเหลืออีกหลายปี ยังใช้งานคลื่นได้อีกนานโดยไม่เดือดร้อน”




ส่วนอัตราค่าบริการ 3 จีบนคลื่น 2.1 GHz นั้น เชื่อว่าจะไม่ แตกต่างจากปัจจุบันเท่าไรนัก เพราะเมืองไทยยังไม่สามารถทำโปรโมชั่นโทร.ฟรี คิดเงินเฉพาะบริการข้อมูล (ดาต้า) ได้เหมือนในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากคนไทยยังนิยมใช้โทรศัพท์กันอยู่




“ถ้าพิจารณาจากราคาค่าบริการ 3 จีปัจจุบันบนคลื่นความถี่เดิม (ดีแทคบนคลื่น 850 MHz ทรูมูฟเอชบนคลื่น 850 MHz และเอไอเอสบนคลื่น 900 MHz) แล้ว จะมีแค่ดีแทคกับทรูมูฟเอชเท่านั้นที่แข่งขันราคากัน บางทีเขาออกแพ็กเกจมา เราก็ออกตามเขา บางทีเขาก็ออกตามเรา ลอกกันไปมา ส่วนเอไอเอสไม่อยู่ในจุดที่จะสามารถเข้ามาร่วมแข่งขันราคาได้ เนื่องจากมีคลื่นจำกัด”




ดังนั้น ในช่วงเริ่มต้นของการให้บริการ 3 จีบนคลื่น 2.1 GHz จะไม่มีอะไรฮือฮา การกำหนดราคาคงทำตามเงื่อนไขของ กสทช.และเกาะกลุ่มกันไป เพราะในปีนี้สิ่งที่ทุกค่ายโฟกัส จะอยู่ที่การรักษาฐานลูกค้า ดูแลลูกบ้านที่มีอยู่เป็นหลักไว้ก่อน โดยปัจจุบันดีแทคมีลูกค้า 3 จีอยู่ที่ 3 ล้านเลขหมาย ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 10 ล้านเลขหมายในสิ้นปี
แต่ตั้งแต่ต้นปีหน้า เมื่อการลงทุนเครือข่ายเพียบพร้อมมากขึ้น เชื่อว่าทุกคนจะเริ่มมองไปที่โอกาสในการฉกลูกบ้านของคนอื่นมาเป็นของตน สงครามแย่งชิงลูกค้าจะเริ่มขึ้น ด้วยการใช้กลยุทธ์ด้านราคา




นอกจากนั้น ดีแทคยังเตรียมวางจำหน่ายมือถือ 3 จีที่รองรับคลื่นความถี่ 850 MHz ในราคาต่ำกว่าเครื่องละ 5,000 บาทเพื่อเป็นทางเลือกแก่ลูกค้าด้วย เนื่องจากปัจจุบันมือถือ 3 จีที่รองรับคลื่น 850 MHz ในตลาด ยังมีราคาค่อนข้างสูง ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่ทรูมูฟเอช ซึ่งให้บริการ 3 จีบนคลื่น 850 MHz เช่นกัน กำลังดำเนินการอยู่ แต่ราคาเครื่องของดีแทคอาจสูงกว่าของทรูมูฟเอช เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพ




“นับจากนี้ เราจะไม่นิ่งอีกต่อไปแล้ว เราเชื่อว่าจะทำให้ลูกค้าของเราตื่นเต้นได้ เราจะเดินหน้าให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการขยายเครือข่ายเพื่อยืนยันว่าดีแทคพร้อมแล้ว หากทรูมูฟเอชบอกว่าเขาเป็น 3 จีที่ดีที่สุด เอไอเอสบอกว่าเขาเป็นเครือข่ายที่ดีที่สุด ดีแทคก็จะขอเป็นเครือข่าย 3 จีที่ใหม่กว่า เพื่อมอบประสบการณ์ดีๆให้กับลูกค้า (Customer Experience) เพราะเราเชื่อว่าลูกค้ายังจะให้โอกาสเรา เหมือนกับที่เคยให้มาโดยตลอด”.




ปรัธนา ลีลพนัง
ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานบริการดิจิตอล
บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส

“ขณะนี้เอไอเอสเปิดให้บริการ 3 จีบนคลื่น 2.1 GHz เชิงพาณิชย์แล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่เป็นการให้บริการลูกค้าในกลุ่มจำกัดก่อนราว 200,000 เลขหมาย ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้จะได้รับประสบการณ์ 3 จีใหม่ของเอไอเอสที่มีประสิทธิ– ภาพมากขึ้น ความเร็วสูงขึ้นมากกว่า 1 เท่า รวมทั้งคุณภาพของสัญญาณเสียงด้วย”
ทั้งนี้ในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เอไอเอสได้ประกาศเชิญชวนลูกค้าที่สนใจใช้บริการ 3 จีใหม่เป็นกลุ่มแรกๆ ลงทะเบียนอัพเกรดบริการผ่านทางข้อความสั้นหรือเอสเอ็มเอส ซึ่งปรากฏมีลูกค้าแสดงความสนใจราว 700,000-800,000 ราย จากนั้นระบบได้ทำการสุ่มเลือกลูกค้า 200,000 รายแรกที่จะได้ใช้บริการ โดยต้องมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข 3 ประการ ได้แก่ มีเครื่องโทรศัพท์รองรับการใช้งาน 3 จีบนคลื่น 2.1 GHz, มีซิมรองรับการใช้งาน และอยู่ในพื้นที่ที่บริการครอบคลุม

ณ ปัจจุบัน เอไอเอสติดตั้งสถานีฐานบนคลื่น 3 จี 2.1 GHz เสร็จสิ้นแล้ว 3,600 สถานี และคาดว่าก่อนเปิดบริการเต็มรูปแบบในช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่จะถึง จะมีจำนวนสถานีฐานแตะ 3,800 สถานี และเดินหน้าสู่ 8,000 สถานีภายในสิ้นปีนี้ ส่วนสถานีฐานที่รองรับ 3 จีบนคลื่น 900 MHz เดิมนั้น มีอยู่ประมาณ  3,700 สถานี และสถานีฐาน 2 จี อีกราว 17,000 สถานี

โดย 3 จีเฟสแรกของเอไอเอส 3,600 สถานีนั้น จะให้บริการได้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล รวมทั้งหัวเมือง 18 จังหวัด และภายในสิ้นปีจะขยายเครือข่ายครอบคลุมหัวเมือง 77 จังหวัดทั่วประเทศ

ในส่วนของค่าบริการนั้น เนื่องจากยังเป็นบริการนำร่อง ลูกค้า 200,000 เลขหมายแรก จะถูกคิดค่าบริการตามแพ็กเกจที่เลือกอยู่เดิม แต่ได้ใช้บริการที่ดีขึ้น ความเร็วสูงขึ้น ส่วนแพ็กเกจใหม่นั้น จะเปิดตัวในช่วงที่เปิดบริการเต็มรูปแบบ ซึ่งผู้ให้บริการ 3 จีใหม่บนคลื่น 2.1 GHz ทุกราย ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของ กสทช.ที่กำหนดให้เก็บอัตราค่าบริการต่ำกว่าอัตราปัจจุบัน 15%

“ขณะนี้เรากำลังทำความเข้าใจกับ กสทช.ว่าอัตราค่าบริการที่ถูกกำหนดให้ต่ำกว่า 15% นั้น คิดจากราคาเฉลี่ยใด เพราะปัจจุบันโปรโมชั่นราคามือถือมีความหลากหลายมาก เฉพาะของเอไอเอสมีกว่า 2,000 รูปแบบ อย่างไรก็ตาม ที่สุดแล้วเราพร้อมที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการลดราคาในรูปแบบของการคิดราคาตามแพ็กเกจเดิม แต่ให้บริการที่เพิ่มขึ้น เช่นเดิมให้ปริมาณใช้งานที่ 100 MB เพิ่มเป็น 150 MB ก็ถือว่าเพิ่มปริมาณใช้งานให้ 15% เป็นต้น รวมทั้งการตั้งราคาแพ็กเกจใหม่ ซึ่งจะได้เห็นกันแน่ในช่วงการเปิดตัวเต็มรูปแบบ”

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันด้านราคาจะยังไม่เห็นภาพชัดเจนในระยะแรกของการให้บริการ แต่เชื่อว่าภายในต้นปีหน้า การแข่งขันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เพราะในส่วนของเอไอเอส หากเครือข่ายยังไม่พร้อม ก็ยังจะไม่สามารถทำราคาแข่งขันเพื่อดึงดูดลูกค้าได้เต็มที่ เขายังยอมรับด้วยว่า เอไอเอสอาจต้องใช้เวลาอีกราว 2 ปี ในการไล่ตามทรูมูฟเอช ซึ่งขยายเครือข่ายครอบคลุมกว่าได้ทัน

“ที่ผ่านมา เอไอเอสมีคลื่นไม่พอต่อการให้บริการลูกค้า 38 ล้านเลขหมาย เราจึงไม่สามารถทำตลาด 3 จีได้มากนัก จนกระทั่งการประมูลคลื่นความถี่ 2.1 GHz เสร็จสิ้น เราจึงได้มีโอกาสลืมตาอ้าปาก”

ทั้งนี้ ก่อนการประมูลใบอนุญาต 3 จี เอไอเอสต้องเผชิญกับความยากลำบากในการให้บริการบนคลื่นความถี่ที่มีจำกัด โดยต้องเจียดคลื่น 900 MHz จำนวน 5 MHz แบ่งมาให้บริการ 3 จี ทำให้คุณภาพย่ำแย่ ทั้งเสียงและการส่งข้อมูล ขณะที่คู่แข่งอย่างทรูมูฟเอชนั้น ได้คลื่น 850 MHz จำนวน 15 MHz มาให้บริการ 3 จีจากการทำสัญญาธุรกิจรูปแบบใหม่กับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด ตั้งแต่ต้นปี 2554 และเร่งขยายเครือข่ายตั้งแต่นั้นมา ส่วนดีแทคนั้น ครอบครองคลื่นเหลือเฟือและมากพอ ที่จะให้บริการที่ดีได้

“ช่วงนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นนาทีทองของคู่แข่ง ซึ่งมีข้อได้เปรียบเราอยู่มาก แต่หลังจากนี้ เมื่อเอไอเอสพร้อมมากขึ้น อะไร อะไรคงไม่สะดวกเหมือนเคย ผมเชื่อมั่น
ในทีมงานและมาตรฐานบริการของเรา”.




อติรุฒม์ โตทวีแสนสุข
กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจโมบายล์
บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

“วันนี้ทรูมูฟเอชคือเครือข่าย 3 จีที่ดีที่สุด ที่เรากล้าพูด เพราะขณะนี้เรามีเครือข่ายที่สมบูรณ์ที่สุด ครอบคลุมพื้นที่ 77 จังหวัด 928 อำเภอ 6,378 ตำบล 51,161 หมู่บ้าน ณ วันนี้ไม่มีใครที่มีเครือข่าย 3 จีครอบคลุมเท่าเราอีกแล้ว”

ปัจจุบันทรูมูฟเอชมีเครือข่าย 3 จีบนคลื่น 850 MHz ทั้งสิ้น 12,000 สถานีฐาน และกำลังติดตั้งเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง มีเป้าหมายขยับเป็น 13,000 สถานีฐานภายในสิ้นเดือน เม.ย. ส่วน 3 จีบนคลื่น 2.1 GHz นั้น มีเป้าหมายขยายให้ได้ 5,000 สถานีภายในสิ้นปี เมื่อรวมกันแล้วจะทำให้ทรูมูฟเอชมีสถานีฐาน 3 จีเพื่อให้บริการทั้งสิ้น 18,000 สถานีบน 2 คลื่นความถี่

และด้วยความที่ทรูมูฟเอช ลงทุนขยายเครือ-ข่าย 3 จีนำหน้าคู่แข่งไปได้มากโข จากการทำสัญญา 3 จีรูปแบบใหม่กับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด ในช่วงต้นปี 2554 การเปิดตัว 3 จีบนคลื่น 2.1 GHz อย่างเป็นทางการในวันที่ 8 พ.ค. อันเป็นวันเดียวกันกับดีแทคนั้น ไฮไลต์ของทรูมูฟเอชจึงไม่ได้อยู่ที่ 3 จีอย่างเช่นคู่แข่งรายอื่น แต่จะกระโดดข้ามไปสู่การให้บริการ 4 จี บนคลื่น 2.1 GHz เลยทีเดียว

“เนื่องจากเรามี 3 จีบนคลื่น 850 MHz ค่อนข้างครอบคลุมแล้ว เราจะใช้คลื่น 2.1 GHz ติดตั้ง 3 จีบางส่วนที่จำเป็น และเจียดคลื่นบางส่วนไปให้บริการ 4 จี มีเป้าหมายติดตั้งสถานีฐาน 4 จีทั้งสิ้น 2,000 สถานีภายในสิ้นปี เฟสแรกเน้นในเขตกรุงเทพมหานคร บริเวณชุมชน เช่น สยามสแควร์ สีลม สาทร ปทุมวัน และจึงขยายสู่หัวเมืองหลัก แหล่งท่องเที่ยว เช่น พัทยา ชะอำ หัวหิน รวมไปถึงจังหวัดใหญ่ๆ เช่น เชียง– ใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ โคราช ขอนแก่น เป็นต้น”

นั่นจะทำให้ทรูมูฟเอชกลายเป็นผู้ให้บริการที่เปิด 4 จีเชิงพาณิชย์รายแรก ถือเป็นสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่จะได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ในการใช้งานเครือข่ายความเร็วสูงก่อนใคร เพียงแค่มีอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน แม้ปัจจุบันมือถือที่รองรับการใช้งาน 4 จีบนคลื่น 2.1 GHz จะมีเพียงไม่กี่รุ่น อันได้แก่ ไอโฟน 5 ไอแพดมินิ ไอแพดเรติน่า โนเกียลูเมีย 920 เป็นต้น

“เราเคยประกาศไว้ตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมาแล้วว่า เรามีแผนจะเปิดบริการ 4 จี และล่าสุดได้คิวเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 พ.ค.ที่จะถึง โดยเบื้องต้นลูกค้าที่ต้องการใช้บริการ 4 จีจะต้องสมัครแพ็กเกจ 4 จีเป็นการเฉพาะ แต่ราคายังเปิดเผยไม่ได้ ต้องรอวันที่ 8 พ.ค.”

“ผมคาดหวังว่า บริการ 4 จีของทรูมูฟเอช จะช่วยสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าในระดับบน ซึ่งพร้อมที่จะเลือกใช้บริการที่ให้ประโยชน์สูงสุด อีกทั้งเป็นการตอกย้ำความเป็นเครือข่าย 3 จีที่ดีที่สุดของทรูมูฟเอช ด้วยการให้บริการ 4 จีที่ดีที่สุดก่อนใครด้วย”

ส่วนการแข่งขันด้านราคานั้น จะเกิดขึ้นหลังจากเครือข่ายมีความพร้อมมากกว่านี้ ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ ในราวสิ้นปีนี้ถึงต้นปีหน้า อย่างไรก็ตาม อาจกล่าวได้ว่าขณะนี้ ทรูมูฟเอชถือเป็นผู้นำในการกำหนดราคา เปิดตัวแพ็กเกจใหม่ๆ บุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รายอื่นถือเป็นผู้ตาม

ปัจจุบัน ทรูมูฟเอชมีลูกค้า 3 จีอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านเลขหมาย ลูกค้า 2 จีที่ให้บริการบนคลื่น 1800 MHz อยู่ราว 18 ล้านเลขหมาย แต่การเติบโตของลูกค้า 3 จี ไม่ถือว่าเป็นไปตามเป้า โดย ณ สิ้นปีที่ผ่านมา ตั้งเป้าไว้ 4 ล้านเลขหมาย ทำได้จริงที่ 2.8 ล้านเลขหมาย ส่วนปีนี้ตั้งเป้าไว้ 6 ล้านเลขหมาย

สาเหตุที่ทำให้ยอดไม่เป็นไปตามเป้า เป็นเพราะมีเลขหมายไม่พอขายในช่วงปลายปีที่แล้ว นอกจากนั้นยังเพิ่งเปิดขายซิมระบบบัตรเติมเงิน (พรีเพด) เมื่อปลายเดือน ม.ค.ด้วย ก่อนหน้านี้ขายเฉพาะระบบจดทะเบียน (โพสต์เพด) เท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ยอดขายไม่ค่อยเดิน แต่รายได้เติบโตดี เพราะลูกค้าที่ได้มาเป็นลูกค้าที่ใช้งานจริง จ่ายเงินจริง

“หากถามว่าการเป็นเครือข่าย 3 จีที่ดีที่สุด ทำให้เราถึงจุดสูงสุดหรือยัง คำตอบคือยังครับ ดูจากจำนวนลูกค้า เห็นชัดๆว่าเรายังเป็นที่ 3 อยู่ และหากจะดูที่การพัฒนาโครงข่าย เราก็ยังหยุดไม่ได้ เราไม่สามารถหยุดพัฒนาได้ แต่ผมเชื่อว่าใน 3–5 ปีจากนี้ เราจะถึงยุคที่มั่นใจได้ว่าเราสมบูรณ์แบบ”.



ทีมเศรษฐกิจ
http://m.thairath.co.th/content/eco/338946



ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.