16 เมษายน 2556 (บทความ) หมัดต่อหมัด'ซัมซุง'ปะทะ'แอ๊ปเปิ้ล' // นวัตกรรมในตลาดสมาร์ทโฟนมาช้านานเริ่มสั่นคลอน
ประเด็นหลัก
แง้มหมัดต่อไป
แม้กาแล็กซี่ เอส 4 จะเป็นรุ่นไฮไลต์ของปีนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า "ซัมซุง" จะหยุดการพัฒนาสมาร์ทโฟนออกมารับมือกับแอ๊ปเปิ้ลเพียงเท่านี้ ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าเตรียมส่งหมัดเด็ดอีกรายการในชื่อว่า "กาแล็กซี่ เมกา (Galaxy Mega)" ออกมาเขย่าวงการในเร็วๆ นี้
สื่อท้องถิ่นในเกาหลีเผยข่าวชิ้นนี้ว่า สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวของซัมซุงมีขนาดจอที่ใหญ่ขึ้นไปอีกขั้น หรือราว 6.3 นิ้ว ซึ่งจัดว่าใกล้เคียงกับแทบเล็ตไซส์เล็กสุด แต่ก็ใหญ่ที่สุดในบรรดาจอมือถือ และคาดว่าจะใช้หน่วยประมวลผลแบบดูอัลคอร์เอ็กซ์ซี่นอส และกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
“นายซี วอนซอก” นักวิเคราะห์ โคเรีย อินเวสเมนท์ แอนด์ ซิเคียวริตี้ คาดการณ์ว่า ไตรมาสที่ 1 ซัมซุงจะมียอดขายสมาร์ทโฟน 68 ล้านเครื่อง ฟีเจอร์โฟน 104 ล้านเครื่อง ขณะที่ไตรมาสที่ 2 สมาร์ทโฟนจะเพิ่มเป็น 75 ล้านเครื่อง ฟีเจอร์โฟนเพิ่มเป็น 110 ล้านเครื่อง
อย่างไรก็ตาม แม้ยักษ์อิเล็กทรอนิกส์จากแดนโสมจะไม่เปิดเผยผลกำไรแบบแยกเป็นรายธุรกิจ แต่นักลงทุนกำลังจับตาดูสถานการณ์ธุรกิจโทรคมนาคมอย่างใกล้ชิด รวมถึงรอดูนโยบายว่าจะทำอย่างไรกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่เมื่อเร็วๆ นี้ผู้พิพากษาในรัฐแคลิฟอร์เนียสั่งปรับอีก 600 ล้านดอลลาร์ เพิ่มจากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ก่อนหน้านี้
เสี่ยงหลุดผู้นำนวัตกรรม
ฟาก “แอ๊ปเปิ้ล อิงค์” นอกจากออกมาตีขลุมคู่แข่งแล้ว สถานการณ์โดยรวมกำลังเปลี่ยนไปเป็นฝ่ายตั้งรับแทน ขณะเดียวกันภาพของการเป็นผู้นำทางนวัตกรรมในตลาดสมาร์ทโฟนมาช้านานเริ่มสั่นคลอน ขณะนี้ทั้งลูกค้าและนักลงทุนต่างคาดหวังว่าจะได้เห็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เผยโฉมออกมา
ข้อมูลบริษัทวิจัยไอดีซีระบุว่า ปี 2555 ไอโฟนมีส่วนแบ่งการตลาดเชิงยอดขายในตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก 19.1% ยอดจำหน่าย 135.9 ล้านเครื่อง ส่วนซัมซุงมี 30.3% ยอดจำหน่าย 215.8 ล้านเครื่อง โดยรวมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ชิงส่วนแบ่งไปแล้วกว่า 70% ทั้งมีโอกาสด้วยว่าปีนี้ไอแพดจะถูกแทบเล็ตแอนดรอยด์เข้ามาตีตื้น
รายงานข่าวกล่าวว่า ไทม์ไลน์ผลิตภัณฑ์ของแอ๊ปเปิ้ลนั้นค่อนข้างคลุมเครือ โดยบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องเปิดตัวไอโฟนใหม่อย่างน้อย 1 รุ่นในปีนี้ ทั้งมีกระแสข่าวออกมาด้วยว่ากำลังพัฒนาไอโฟนรุ่นที่ราคาไม่แพง รวมถึงเดินหน้าเต็มที่กับธุรกิจโทรทัศน์แต่ติดปัญหาปิดดีลกับผู้ให้บริการไม่ได้
“นายแวน เบเกอร์” นักวิเคราะห์ บริษัทวิจัยการ์ทเนอร์ ชี้ว่า การพัฒนาและปรับปรุงระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์โดยกูเกิล ทำให้มันกลายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งมากขึ้นของแอ๊ปเปิ้ลมากกว่าหลายปีก่อน ตัวอย่างเช่นการปรับปรุงมุมมองแบบ 3 มิติ และการปรับแต่งรูปลักษณ์ทำให้แอนดรอยด์ดูใหม่ ขณะที่แอ๊ปเปิ้ลใช้รูปแบบเดิมมากว่า 6 ปี
_____________________________________
หมัดต่อหมัด'ซัมซุง'ปะทะ'แอ๊ปเปิ้ล'
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วัดดีกรีความระอุ 2 คู่ชกอุตสาหกรรมไอที
"แอ๊ปเปิ้ล-ซัมซุง" เกมชิงเบอร์หนึ่งตลาดสมาร์ทโฟนโลก
สงครามชิงชัยบัลลังก์ 'สมาร์ทโฟน'
โลก ทวีความเข้มข้นมากขึ้นทุกขณะ โดย 2
ผู้เล่นที่ทรงพลังมากที่สุดอย่าง "แอ๊ปเปิ้ล" ในฐานะแชมป์เก่าที่ยังทรงอิทธิพลสูงสุดในตลาดไฮเอ็นด์
และ "ซัมซุง" ผู้ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด
ทั้งยังได้เปรียบแง่การผลิต การลงทุน สายผลิตภัณฑ์ และโดยเฉพาะราคา
ซึ่งจะเป็นตัวตัดเชือกว่า ใครจะอยู่ ใครจะไป หรือใครจะเบียดใครเป็นเบอร์ 1
ได้แบบเบ็ดเสร็จ...
ความเคลื่อนไหวในปีนี้ หมัดแรกเป็นของ
"ซัมซุง" ที่เข็น "กาแล็กซี่ เอส 4"
สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงลงสนามเมื่อกลางเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
แต่แอ๊ปเปิ้ลก็ไม่ปล่อยให้ซัมซุงชิงความโดดเด่นอยู่เพียงฝ่ายเดียว
ก่อนงานเริ่มเพียง 1 วัน "นายฟิล ชิลเลอร์" หัวหน้าฝ่ายการตลาดของแอ๊ปเปิ้ลก็ออกสื่อเพื่อเป็นข่าวในสื่อกระแสหลัก
หวังจะลดทอนความเด่นของงานซัมซุงลง
พร้อมๆ
กับย้ำแผนอีกครั้งหลังงานเปิดตัวครั้งสำคัญของซัมซุงเพียงวันเดียวด้วยการขึ้นเว็บเพจใหม่เขียนข้อความ
"Why iPhone" ซึ่งเป็นนัยยะที่ประกาศให้โลกรู้ว่าทำไมคนจำนวนมากถึงรักไอโฟนด้วยการบรรยายสรรพคุณพร้อมๆ
กับข่มขวัญคู่ต่อสู้อย่างซัมซุงไปในตัว
นอกจากนี้ยังยกรางวัล
"สมาร์ทโฟนที่ผู้บริโภคพึงพอใจมากที่สุด" ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 9
ที่ได้จากเจ.ดี.เพาเวอร์ แอนด์ แอสโซสิเอท
เพื่อโชว์ให้เห็นว่าไอโฟนเป็นสมาร์ทโฟนที่ดีทั้งหน้าตา คุณสมบัติ วัสดุ
และการใช้งานที่ง่ายตรงใจผู้บริโภคมากกว่า
รวมทั้งมีแอพพลิเคชั่นให้ดาวน์โหลดมากกว่า 8
แสนรายการ พร้อมจุดขายที่มีระบบป้องกันมัลแวร์ทำให้แอพพลิเคชั่นบนแอพ
สโตร์ปลอดภัยในการใช้งาน
แง้มหมัดต่อไป
แม้กาแล็กซี่ เอส 4 จะเป็นรุ่นไฮไลต์ของปีนี้
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า "ซัมซุง"
จะหยุดการพัฒนาสมาร์ทโฟนออกมารับมือกับแอ๊ปเปิ้ลเพียงเท่านี้
ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าเตรียมส่งหมัดเด็ดอีกรายการในชื่อว่า "กาแล็กซี่ เมกา (Galaxy
Mega)" ออกมาเขย่าวงการในเร็วๆ นี้
สื่อท้องถิ่นในเกาหลีเผยข่าวชิ้นนี้ว่า
สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวของซัมซุงมีขนาดจอที่ใหญ่ขึ้นไปอีกขั้น หรือราว 6.3 นิ้ว
ซึ่งจัดว่าใกล้เคียงกับแทบเล็ตไซส์เล็กสุด แต่ก็ใหญ่ที่สุดในบรรดาจอมือถือ
และคาดว่าจะใช้หน่วยประมวลผลแบบดูอัลคอร์เอ็กซ์ซี่นอส และกล้องหลังความละเอียด 8
ล้านพิกเซล
“นายซี วอนซอก” นักวิเคราะห์
โคเรีย อินเวสเมนท์ แอนด์ ซิเคียวริตี้ คาดการณ์ว่า ไตรมาสที่ 1
ซัมซุงจะมียอดขายสมาร์ทโฟน 68 ล้านเครื่อง ฟีเจอร์โฟน 104 ล้านเครื่อง
ขณะที่ไตรมาสที่ 2 สมาร์ทโฟนจะเพิ่มเป็น 75 ล้านเครื่อง ฟีเจอร์โฟนเพิ่มเป็น 110
ล้านเครื่อง
อย่างไรก็ตาม
แม้ยักษ์อิเล็กทรอนิกส์จากแดนโสมจะไม่เปิดเผยผลกำไรแบบแยกเป็นรายธุรกิจ
แต่นักลงทุนกำลังจับตาดูสถานการณ์ธุรกิจโทรคมนาคมอย่างใกล้ชิด
รวมถึงรอดูนโยบายว่าจะทำอย่างไรกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่เมื่อเร็วๆ
นี้ผู้พิพากษาในรัฐแคลิฟอร์เนียสั่งปรับอีก 600 ล้านดอลลาร์ เพิ่มจากกว่า 1
พันล้านดอลลาร์ ก่อนหน้านี้
แพ้ไฮเอนด์-ต้นทุนพุ่ง
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลประเมินว่า
ปีที่ผ่านมาแม้ซัมซุงสามารถแซงหน้าโนเกียขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดรวมโทรศัพท์มือถือ
พร้อมเบียดแอ๊ปเปิ้ลยึดเบอร์ 1 ในตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก
ทว่าหากเทียบกันแล้วแอ๊ปเปิ้ลกลับมีอัตรากำไรขั้นต้นมากกว่าซัมซุงถึง 2 เท่า
นักวิเคราะห์มองว่า
โมบายดีไวซ์เป็นกลุ่มสินค้าที่สร้างกำไรให้แก่ทั้ง 2 บริษัท
ฉะนั้นการเข้าไปเพิ่มโฟกัสในตลาดไฮเอนด์ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ซัมซุงรักษากำไรของธุรกิจโมบายเอาไว้ได้ท่ามกลางสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรง
“นายลี ซันแต” นักวิเคราะห์
เอ็นเอช อินเวสเมนท์ แอนด์ ซิเคียวรีตี้ส์ กล่าวว่า
ขณะนี้ซัมซุงยังตามหลังแอ๊ปเปิ้ลในกลุ่มสินค้าไฮเอนด์ซึ่งเป็นตลาดทำเงิน
แต่เป็นไปได้ที่สินค้าใหม่ปีนี้จะเข้ามาช่วยดึงให้สถานการณ์ดีขึ้น
เนื่องจากได้ปรับปรุงทั้งส่วนของฮาร์ดแวร์ และโดยเฉพาะการใช้งานฟีเจอร์
ซึ่งเคยเป็นจุดอ่อนของบริษัทมาก่อน
นักวิเคราะห์หลายรายเห็นตรงกันว่า
ความท้าทายเพียงหนึ่งเดียวที่ซัมซุงจำต้องเผชิญคือ
เตรียมรับมือกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุนที่จะส่งผลต่อราคาสินค้ารุ่นพรีเมียม
เช่นเดียวกับที่ “นายเวน
แลม” นักวิเคราะห์อาวุโส ไอเอชเอส ไอซัพพลาย
ซึ่งกล่าวไว้ว่า กาแล็กซี่ เอส 4 มาพร้อมการแสดงผลที่ดีกว่าเดิม
ดังนั้นควรสร้างกำไรในภาพรวมให้ได้มากขึ้นด้วย
แต่ทั้งนี้ต้นทุนที่ต้องเพิ่มอีกมากของรุ่นนี้มาจากทั้งจอทัชสกรีน ซีพียู
และเมโมรี่
เสี่ยงหลุดผู้นำนวัตกรรม
ฟาก “แอ๊ปเปิ้ล อิงค์” นอกจากออกมาตีขลุมคู่แข่งแล้ว
สถานการณ์โดยรวมกำลังเปลี่ยนไปเป็นฝ่ายตั้งรับแทน
ขณะเดียวกันภาพของการเป็นผู้นำทางนวัตกรรมในตลาดสมาร์ทโฟนมาช้านานเริ่มสั่นคลอน
ขณะนี้ทั้งลูกค้าและนักลงทุนต่างคาดหวังว่าจะได้เห็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เผยโฉมออกมา
ข้อมูลบริษัทวิจัยไอดีซีระบุว่า ปี 2555
ไอโฟนมีส่วนแบ่งการตลาดเชิงยอดขายในตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก 19.1% ยอดจำหน่าย 135.9
ล้านเครื่อง ส่วนซัมซุงมี 30.3% ยอดจำหน่าย 215.8 ล้านเครื่อง
โดยรวมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ชิงส่วนแบ่งไปแล้วกว่า 70%
ทั้งมีโอกาสด้วยว่าปีนี้ไอแพดจะถูกแทบเล็ตแอนดรอยด์เข้ามาตีตื้น
รายงานข่าวกล่าวว่า
ไทม์ไลน์ผลิตภัณฑ์ของแอ๊ปเปิ้ลนั้นค่อนข้างคลุมเครือ
โดยบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องเปิดตัวไอโฟนใหม่อย่างน้อย 1 รุ่นในปีนี้
ทั้งมีกระแสข่าวออกมาด้วยว่ากำลังพัฒนาไอโฟนรุ่นที่ราคาไม่แพง
รวมถึงเดินหน้าเต็มที่กับธุรกิจโทรทัศน์แต่ติดปัญหาปิดดีลกับผู้ให้บริการไม่ได้
“นายแวน เบเกอร์” นักวิเคราะห์
บริษัทวิจัยการ์ทเนอร์ ชี้ว่า
การพัฒนาและปรับปรุงระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์โดยกูเกิล
ทำให้มันกลายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งมากขึ้นของแอ๊ปเปิ้ลมากกว่าหลายปีก่อน
ตัวอย่างเช่นการปรับปรุงมุมมองแบบ 3 มิติ และการปรับแต่งรูปลักษณ์ทำให้แอนดรอยด์ดูใหม่
ขณะที่แอ๊ปเปิ้ลใช้รูปแบบเดิมมากว่า 6 ปี
ลุ้นไอโอเอส7-ไอโฟนใหม่
อย่างไรก็ตาม
คนทั้งในแวดวงและวงนอกอุตสาหกรรมไฮเทคกำลังรอลุ้นดูความเคลื่อนไหวที่เป็นรูปธรรมของแอ๊ปเปิ้ล
ในงานประชุมนักพัฒนาครั้งยิ่งใหญ่แห่งปีที่จะจัดขึ้นช่วงสัปดาห์ที่ 2
ของเดือนมิ.ย. หรือระหว่างวันที่ 10-14 มิ.ย. 2556 ณ เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐ
นักวิเคราะห์ต่างเพ่งเล็งว่า
ทิศทางของดีไวซ์รุ่นใหม่ ที่ไม่แน่ว่าอาจใช้โค้ดเนมว่า “ไอโฟน
5 เอส” หรืออื่นๆ จะเป็นอย่างไร
ด้านนักพัฒนารอการปรับโฉมของระบบปฏิบัติการไปสู่ไอโอเอส 7 พร้อมความเปลี่ยนแปลงของ
"สิริ" ฟีเจอร์แผนที่ และบริการรูปแบบใหม่ๆ เช่น ไอทูนส์ สตรีมมิ่ง
ที่แน่นอนที่สุดขณะนี้มีเพียงตั๋วเข้าร่วมงานราคาประมาณ
1,500 ดอลลาร์ ที่จะเปิดขายช่วงปลายเดือนเม.ย.น่าจะหมดเกลี้ยงภายใน 2
ชั่วโมงเช่นเคย
ใช้สงครามราคาชิงชัย
วอลล์สตรีทยังได้ประเมินถึงสาเหตุที่ทำให้ซัมซุงตีตื้นคู่แข่งอย่างแอ๊ปเปิ้ลมากระชั้นชิดและมีโอกาสแซงหน้าไปอีกว่า
ผู้ผลิตจากเกาหลีใต้รายนี้กระเป๋าหนัก ใช้ส่วนผสมทั้งด้านวิศวกรรม
แต้มต่อสายการผลิต และกิจกรรมทางการตลาดเต็มรูปแบบ
สร้างสมาร์ทโฟนที่สามารถต่อกรกับไอโฟนทั้งแง่การขายและรูปลักษณ์
นอกจากนี้ถึงนักวิเคราะห์หลายรายจะเห็นตรงกันว่าแง่นวัตกรรมการออกแบบและความสามารถซอฟต์แวร์ซัมซุงยังไม่อาจสู่กับแอ๊ปเปิ้ลได้
แต่มีความสามารถที่จะนำจุดแข็งของการเป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มาช่วยบริหารโครงสร้างราคาทำให้สินค้าราคาถูกลง
ปัจจุบันซัมซุงเป็นเจ้าของโรงงานผลิตหน้าจอ ชิพ
และชิ้นส่วนอื่นๆ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการทำราคาสินค้า ซึ่งบริษัทอื่นๆ ทำไม่ได้
ส่วนแอ๊ปเปิ้ลออกแบบผลิตภัณฑ์และบางเทคโนโลยีด้วยตัวเอง ทว่าต้องพึ่งพาคู่ค้าอื่นๆ
รวมถึงซัมซุงเพื่อผลิตไอโฟน
อีกประเด็นที่น่าสนใจ
คือซัมซุงทำในสิ่งที่แอ๊ปเปิ้ลไม่เคยทำมาก่อนคือมีสินค้าหลากหลายรุ่น ราคา
และขนาดหน้าจอ
ทั้งช่องวางตลาดระดับล่างและตลาดเกิดใหม่มีสินค้ากลุ่มฟีเจอร์โฟนและโทรศัพท์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการณ์วินโดว์สโฟนช่วยเติมเต็ม
เวลานี้ไม่เพียงแต่ลูกค้าที่หันมาให้ความสนใจ
กลุ่มนักพัฒนาแอพกำลังเบนเข็มการโฟกัสเข้ามามากขึ้นด้วย
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130415/500139/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%
94%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%8B%E0
%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%8B%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B
0%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B9%8A%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%
B8%A5.html
ไม่มีความคิดเห็น: