2 เมษายน 2556 TRUE H และ สมิติเวช พัฒนาแอพเชื่อมโยงสุขภาพบนสมาร์ทโฟน ดูแลคนไข้แบบเรียลไทม์
ประเด็นหลัก
วันนี้(2เม.ย.) ที่สยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ แพทย์หญิงสมสิริ สกลสัตยาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือโรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอช เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับทรู พัฒนา แอพพลิเคชั่น สมิติเวช คอนเน็ต บาย ทรูมูฟเอช และ บีเอ็นเอช คอนเน็ต บาย ทรูมูฟเอช ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับสุขภาพบนสมาร์ทโฟน ให้คนไข้สามารถติดต่อแพทย์และพยาบาลได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านเทคโนโลยี 3 จี โดยมีเมนูผู้ช่วยส่วนตัว ที่เป็นเสมือนเลขาฯด้านสุขภาพซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่พยาบาลของโรงพยาบาลคอยตอบทุกคำถามเรื่องสุขภาพ และมีเมนูโทรฉุกเฉินหาคนใกล้ชิด เช่น สามี ภรรยา และลูก ฯลฯ มีเตือนวันและเวลาที่นัดหมายกับแพทย์ และเมนูกดโทรฉุกเฉินเรียกรถพยาบาล ซึ่งจะแสดงสถานที่ที่คนไข้อยู่และต้องการความช่วยเหลือแบบเรียลไทม์ ถือเป็นโรงพยาบาลแรกในอาเซียนที่นำแอพพลิเคชั่นมาให้บริการ
_____________________________________________
เปิดแอพฯเพื่อสุขภาพครั้งแรกในอาเซียน
ทรูมูฟเอช จับมือ สมิติเวช พัฒนาแอพเชื่อมโยงสุขภาพบนสมาร์ทโฟน ให้คนไข้ได้รับข้อมูลและบริการแบบเรียลไทม์ ถือเป็นครั้งแรกในอาเซียน
วันนี้(2เม.ย.) ที่สยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ แพทย์หญิงสมสิริ สกลสัตยาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือโรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอช เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับทรู พัฒนา แอพพลิเคชั่น สมิติเวช คอนเน็ต บาย ทรูมูฟเอช และ บีเอ็นเอช คอนเน็ต บาย ทรูมูฟเอช ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับสุขภาพบนสมาร์ทโฟน ให้คนไข้สามารถติดต่อแพทย์และพยาบาลได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านเทคโนโลยี 3 จี โดยมีเมนูผู้ช่วยส่วนตัว ที่เป็นเสมือนเลขาฯด้านสุขภาพซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่พยาบาลของโรงพยาบาลคอยตอบทุกคำถามเรื่องสุขภาพ และมีเมนูโทรฉุกเฉินหาคนใกล้ชิด เช่น สามี ภรรยา และลูก ฯลฯ มีเตือนวันและเวลาที่นัดหมายกับแพทย์ และเมนูกดโทรฉุกเฉินเรียกรถพยาบาล ซึ่งจะแสดงสถานที่ที่คนไข้อยู่และต้องการความช่วยเหลือแบบเรียลไทม์ ถือเป็นโรงพยาบาลแรกในอาเซียนที่นำแอพพลิเคชั่นมาให้บริการ
“ได้ใช้งบประมาณลงทุนพัฒนาประมาณ 3 ล้านบาท ถือเป็นการให้บริการคนไข้ของโรงพยาบาลเสมือนได้อยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญตลอด 24 ชั่วโมง ใน 7 วัน โดยเมื่อคนไข้ดาวน์โหลดมาใช้งานจะได้รับชื่อและรหัสผ่านเพื่อเข้าใช้งาน ซึ่งจะมีฐานข้อมูลและประวัติคนไข้เชื่อมโยงกับแอพพลิเคชั่น โดยภายในปีนี้คาดว่าจะมีคนไข้ของโรงพยาบาลใช้งานจำนวน 5,000 ราย และเตรียมขยายเฟสที่สองพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อดูแลกลุ่มคนไข้เฉพาะโรคที่ต้องเข้าถึงข้อมูลและได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด อาทิ คนไข้โรคไต เบาหวาน และหัวใจ ฯลฯ โดยปัจจุบันคนไข้ของโรงพยาบาล 60% เป็นคนไทย และอีก 40% เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งก็สามารถใช้แอพพลิเคชั่นนี้ได้เพราะรองรับทั้งภาษาไทยและอังกฤษ”
ด้าน น.ส.มนสินี นาคปนันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ และผู้จัดการทั่วไป ทรูไลฟ์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แอพพลิเคชั่นทั้งสองพัฒนาขึ้นโดยทรูแอพ เซ็นเตอร์ รองรับทั้งระบบปฎิบิการแอนดรอยด์ และไอโอเอส ในอนาคตเตรียมอัพเกรดให้มีวิดีโอ และมัลติมีเดียเพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาทรูแอพ เซ็นเตอร์ได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นแล้วกว่า 200 แอพพลิเคชั่น หลังเปิดตัวมาได้ประมาณ 4 ปี โดยมีทั้งแอพพลิเคชั่นที่รับจ้างพัฒนาให้องค์กรต่างๆ รวมถึงแอพพลิเคชั่นที่พัฒนาเพื่อใช้กับโทรศัพท์มือถือของทรูมูฟเอชเอง โดยแอพพลิเคชั่นประเภทบันเทิงจะที่ได้รับความนิยมในการดาวน์โหลดมากที่สุด
http://www.dailynews.co.th/technology/194824
ไม่มีความคิดเห็น: