Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

24 เมษายน 2556 CAT เตรียมทำแผนรับมือการเงิน!!! ลดรายจ่ายด้านบุคลากรลง หรือแปลงสินทรัพย์ที่มีอยู่มาเป็นค่าเช่า ( ผู้บริหารย้ำการเงินยังไม่วิกฤติ)


ประเด็นหลัก

สภาวะทางการเงินของ กสท ไม่ได้เข้าสู่ภาวะวิกฤติอย่างที่กังวล เพราะ กสท ยังมีรายได้ที่สม่ำเสมอ และเป็นรายได้จากการดำเนินงานของตัวเอง คือ บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ (ไอดีดี) และบริการสื่อสารข้อมูล (ดาต้า คอม) ซึ่งในแต่ละปีมีรายได้รวมกันมากกว่า 15,000 ล้านบาท ดังนั้น หาก กสท ปรับแผนลดรายจ่ายด้านบุคลากรลง หรือแปลงสินทรัพย์ที่มีอยู่มาเป็นค่าเช่าให้มากขึ้น กสท ก็น่าจะคงบัญชีผลประกอบการไม่ให้ติดลบได้

ในเบื้องต้น กสท จะได้ทำแผนรองรับ การบริหารกิจการ หลังสัญญาสัมปทานสิ้นสุด ด้วยวิธีการให้เอกชนเช่าโครงข่ายดำเนินการต่อเป็นระยะเวลา 1-2 ปี ซึ่งในช่วงนี้จะต้องถ่ายโอนความรู้ และการบริหารงานให้ กสท รวมถึงก็ต้องเจรจาหารือกับคู่สัญญาสัมปทาน เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งต้องเสนอให้บอร์ด กสท พิจารณาให้ความเห็นชอบ และนำเสนอกระทรวงไอซีทีเพื่อให้เห็นชอบแนวทางในการดำเนินการต่อไป” น.ท.สมพงษ์ กล่าว
____________________________






บอร์ดจี้ผู้บริหารกสททำแผน5ปี ฟื้นฟูองค์กร-ลดรายจ่ายบุคลากรปลอบฐานะองค์กรยังไม่วิกฤติ


น.ท.สมพงษ์ โพธิ์เกษม กรรมการ บริษัท กสท  โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสท ที่มีนายดุษฎี สินเจิมสิริ เป็นประธาน ได้มีการหารืออย่างเคร่งเครียดเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูองค์กรในอนาคต หรือภายหลังจากที่ไม่มีการรับรู้รายได้จากสัญญาสัมปทานของ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และ บริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี)ที่จะสิ้นสุดสัญญาลงในวันที่ 16 กันยายน 2556 ซึ่งบอร์ดได้ให้ฝ่ายบริหาร และ นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไปจัดทำแผนการดำเนินงาน รวมทั้งงบประมาณที่จะใช้ซึ่งจะเป็นแผนระยะยาว 5 ปี คือ ปี 2556-2560

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมบอร์ดยังไม่ได้สรุปในรายละเอียดแผนงานทั้งหมด จึงได้กำชับไปเร่งดำเนินการก่อนนำเสนอต่อบอร์ดอีกครั้ง จากนั้นจะนำเสนอ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) หากผ่านความเห็นชอบก็จะนำเข้าสู่ คณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (กนร.)ทันที ในเบื้องต้นประเมินว่าจะต้องแล้วเสร็จให้ได้ภายในเดือนเมษายน 2556 นี้

สภาวะทางการเงินของ กสท ไม่ได้เข้าสู่ภาวะวิกฤติอย่างที่กังวล เพราะ กสท ยังมีรายได้ที่สม่ำเสมอ และเป็นรายได้จากการดำเนินงานของตัวเอง คือ บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ (ไอดีดี) และบริการสื่อสารข้อมูล (ดาต้า คอม) ซึ่งในแต่ละปีมีรายได้รวมกันมากกว่า 15,000 ล้านบาท ดังนั้น หาก กสท ปรับแผนลดรายจ่ายด้านบุคลากรลง หรือแปลงสินทรัพย์ที่มีอยู่มาเป็นค่าเช่าให้มากขึ้น กสท ก็น่าจะคงบัญชีผลประกอบการไม่ให้ติดลบได้

ก่อนหน้านี้บอร์ดได้มีมติไปแล้วว่า ให้ฝ่ายบริหารติดตามการโอนทรัพย์สินตามสัญญาสัมปทานสร้าง-โอน-บริการ (บีทีโอ) ระหว่าง กสท กับ ทรูมูฟ และดีพีซี แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ฉะนั้นจึงสั่งการให้ฝ่ายบริหารทำหนังสือแจ้งไปยังทรูมูฟ และดีพีซี เพื่อให้ส่งมอบทรัพย์สินตามสัญญาสัมปทานให้แล้วเสร็จ

ในเบื้องต้น กสท จะได้ทำแผนรองรับ การบริหารกิจการ หลังสัญญาสัมปทานสิ้นสุด ด้วยวิธีการให้เอกชนเช่าโครงข่ายดำเนินการต่อเป็นระยะเวลา 1-2 ปี ซึ่งในช่วงนี้จะต้องถ่ายโอนความรู้ และการบริหารงานให้ กสท รวมถึงก็ต้องเจรจาหารือกับคู่สัญญาสัมปทาน เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งต้องเสนอให้บอร์ด กสท พิจารณาให้ความเห็นชอบ และนำเสนอกระทรวงไอซีทีเพื่อให้เห็นชอบแนวทางในการดำเนินการต่อไปน.ท.สมพงษ์ กล่าว

ส่วนการประชุมบอร์ด กสท ครั้งที่แล้วหรือเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2556 ได้มีการพิจารณาวาระลับการประเมินผลการดำเนินงานนายกิตติศักดิ์ ในฐานะกรรมการผู้จัดการใหญ่ ซึ่งบอร์ดได้ลงความเห็นว่าแผนงานที่กรรมการผู้จัดการใหญ่เสนอต่อบอร์ดยังไม่ครบถ้วน และครอบคลุม บอร์ดจึงมีมติให้ นายกิตติศักดิ์ไปปรับปรุงแผนการดำเนินงานมาใหม่ และให้เสนอต่อบอร์ดอีกครั้งใน 30 วัน จากนั้นบอร์ดจะพิจารณาลงคะแนนประเมินอีกครั้งหนึ่ง

http://www.naewna.com/business/49381

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.