24 เมษายน 2556 CAT เตรียมทำแผนรับมือการเงิน!!! ลดรายจ่ายด้านบุคลากรลง หรือแปลงสินทรัพย์ที่มีอยู่มาเป็นค่าเช่า ( ผู้บริหารย้ำการเงินยังไม่วิกฤติ)
ประเด็นหลัก
“สภาวะทางการเงินของ กสท ไม่ได้เข้าสู่ภาวะวิกฤติอย่างที่กังวล เพราะ กสท ยังมีรายได้ที่สม่ำเสมอ และเป็นรายได้จากการดำเนินงานของตัวเอง คือ บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ (ไอดีดี) และบริการสื่อสารข้อมูล (ดาต้า คอม) ซึ่งในแต่ละปีมีรายได้รวมกันมากกว่า 15,000 ล้านบาท ดังนั้น หาก กสท ปรับแผนลดรายจ่ายด้านบุคลากรลง หรือแปลงสินทรัพย์ที่มีอยู่มาเป็นค่าเช่าให้มากขึ้น กสท ก็น่าจะคงบัญชีผลประกอบการไม่ให้ติดลบได้
“ในเบื้องต้น กสท จะได้ทำแผนรองรับ การบริหารกิจการ หลังสัญญาสัมปทานสิ้นสุด ด้วยวิธีการให้เอกชนเช่าโครงข่ายดำเนินการต่อเป็นระยะเวลา 1-2 ปี ซึ่งในช่วงนี้จะต้องถ่ายโอนความรู้ และการบริหารงานให้ กสท รวมถึงก็ต้องเจรจาหารือกับคู่สัญญาสัมปทาน เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งต้องเสนอให้บอร์ด กสท พิจารณาให้ความเห็นชอบ และนำเสนอกระทรวงไอซีทีเพื่อให้เห็นชอบแนวทางในการดำเนินการต่อไป” น.ท.สมพงษ์ กล่าว
____________________________
‘บอร์ด’จี้ผู้บริหาร‘กสท’ทำแผน5ปี
ฟื้นฟูองค์กร-ลดรายจ่ายบุคลากรปลอบฐานะองค์กรยังไม่วิกฤติ
น.ท.สมพงษ์ โพธิ์เกษม กรรมการ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสท
ที่มีนายดุษฎี สินเจิมสิริ เป็นประธาน ได้มีการหารืออย่างเคร่งเครียดเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูองค์กรในอนาคต
หรือภายหลังจากที่ไม่มีการรับรู้รายได้จากสัญญาสัมปทานของ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และ
บริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี)ที่จะสิ้นสุดสัญญาลงในวันที่ 16
กันยายน 2556 ซึ่งบอร์ดได้ให้ฝ่ายบริหาร และ นายกิตติศักดิ์
ศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไปจัดทำแผนการดำเนินงาน
รวมทั้งงบประมาณที่จะใช้ซึ่งจะเป็นแผนระยะยาว 5 ปี
คือ ปี 2556-2560
อย่างไรก็ตาม
ที่ประชุมบอร์ดยังไม่ได้สรุปในรายละเอียดแผนงานทั้งหมด
จึงได้กำชับไปเร่งดำเนินการก่อนนำเสนอต่อบอร์ดอีกครั้ง จากนั้นจะนำเสนอ
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) หากผ่านความเห็นชอบก็จะนำเข้าสู่
คณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (กนร.)ทันที
ในเบื้องต้นประเมินว่าจะต้องแล้วเสร็จให้ได้ภายในเดือนเมษายน 2556
นี้
“สภาวะทางการเงินของ กสท
ไม่ได้เข้าสู่ภาวะวิกฤติอย่างที่กังวล เพราะ กสท ยังมีรายได้ที่สม่ำเสมอ
และเป็นรายได้จากการดำเนินงานของตัวเอง คือ บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ (ไอดีดี)
และบริการสื่อสารข้อมูล (ดาต้า คอม) ซึ่งในแต่ละปีมีรายได้รวมกันมากกว่า 15,000
ล้านบาท ดังนั้น หาก กสท ปรับแผนลดรายจ่ายด้านบุคลากรลง
หรือแปลงสินทรัพย์ที่มีอยู่มาเป็นค่าเช่าให้มากขึ้น กสท
ก็น่าจะคงบัญชีผลประกอบการไม่ให้ติดลบได้
ก่อนหน้านี้บอร์ดได้มีมติไปแล้วว่า
ให้ฝ่ายบริหารติดตามการโอนทรัพย์สินตามสัญญาสัมปทานสร้าง-โอน-บริการ (บีทีโอ)
ระหว่าง กสท กับ ทรูมูฟ และดีพีซี แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
ฉะนั้นจึงสั่งการให้ฝ่ายบริหารทำหนังสือแจ้งไปยังทรูมูฟ และดีพีซี
เพื่อให้ส่งมอบทรัพย์สินตามสัญญาสัมปทานให้แล้วเสร็จ
“ในเบื้องต้น กสท จะได้ทำแผนรองรับ
การบริหารกิจการ หลังสัญญาสัมปทานสิ้นสุด
ด้วยวิธีการให้เอกชนเช่าโครงข่ายดำเนินการต่อเป็นระยะเวลา 1-2 ปี
ซึ่งในช่วงนี้จะต้องถ่ายโอนความรู้ และการบริหารงานให้ กสท
รวมถึงก็ต้องเจรจาหารือกับคู่สัญญาสัมปทาน เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ
ซึ่งต้องเสนอให้บอร์ด กสท พิจารณาให้ความเห็นชอบ
และนำเสนอกระทรวงไอซีทีเพื่อให้เห็นชอบแนวทางในการดำเนินการต่อไป” น.ท.สมพงษ์
กล่าว
ส่วนการประชุมบอร์ด กสท
ครั้งที่แล้วหรือเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2556
ได้มีการพิจารณาวาระลับการประเมินผลการดำเนินงานนายกิตติศักดิ์
ในฐานะกรรมการผู้จัดการใหญ่
ซึ่งบอร์ดได้ลงความเห็นว่าแผนงานที่กรรมการผู้จัดการใหญ่เสนอต่อบอร์ดยังไม่ครบถ้วน
และครอบคลุม บอร์ดจึงมีมติให้ นายกิตติศักดิ์ไปปรับปรุงแผนการดำเนินงานมาใหม่
และให้เสนอต่อบอร์ดอีกครั้งใน 30 วัน
จากนั้นบอร์ดจะพิจารณาลงคะแนนประเมินอีกครั้งหนึ่ง
http://www.naewna.com/business/49381
ไม่มีความคิดเห็น: