Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

13 พฤษภาคม 2556 สุริยะใส กตะศิลา เตรียมฟ้อง กสทช. ต่อศาลปกครอง 10.00 น.(พรุ่งนี้) (กรณี 3G ขัดต่อเจตนารมณ์ใบอนุญาติลดราคา และ มาตรฐาน345 kbps)( เช่นกรณีของ AIS ยังเป็นการเลี่ยงบาลีหนีประกาศ กสทช.แทนที่จะลดราคาลง 15% แต่ดันไปเพิ่มปริมาณ)


ประเด็นหลัก



       นอกจากนี้ กรณีของ AIS ยังเป็นการเลี่ยงบาลีหนีประกาศ กสทช.แทนที่จะลดราคาลง 15% แต่ดันไปเพิ่มปริมาณ แต่ราคายังเป็นราคาเดิม ซึ่งถึงว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตที่ กสทช.ประกาศไว้
   
       ผู้ประสานงานกลุ่มกรีนเผยอีกว่า ในกรณีนี้ กสทช.โดยเฉพาะบอร์ดฝั่ง กทค.จะต้องดำเนินการกับผู้ประกอบการอย่างตรงไปตรงมา ตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม ปี 2544 หาก กทค.ไม่สามารถสั่งเอกชนให้ปรับราคาบริหารลง 15% ก็จะถูกร้องกล่าวโทษต่อ ป.ป.ช.ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างแน่นอน กฎหมายให้อำนาจ กทค.ชัดเจนและเป็นรูปธรรมขนาดนี้ แต่ที่ผ่านมา กทค.กลับอะลุ่มอล่วยและไม่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เฉกเช่นกรณีการห้ามกำหนดวันหมดอายุโทรศัพท์บัตรเติมเงิน ที่เอกชนไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่ง กทค.และก็กำลังปล่อยให้เรื่องเงียบหายไป
   
       นายสุริยะใสระบุทิ้งท้ายว่า ซึ่งกลุ่มกรีนกำลังรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อยื่นข้อมูลเพิ่มเติมให้ศาลปกครอง เพราะก่อนหน้านี้ศาลปกครองได้รับฟ้องที่กลุ่มกรีนและเครือข่ายยื่นฟ้องว่าการประมูล 3G ไม่ชอบด้วยกฎหมายและขาดความโปร่งใส และในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น ตัวแทนกลุ่มกรีนจะเข้ายื่นเรื่อง ต่อ กสทช.ให้ดำเนินการกับเอแกชนทั้งกรณี 3G และกรณีการกำหนดวันหมดอายุบัตรเติมเงินที่ยังไม่มีผลในทางปฏิบัติ




นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบ พบว่า ทั้ง 3 ค่าย กำหนดแพกเกจจำกัดความเร็วในการรับส่งข้อมูลหลังจากใช้งาน 3จี ความเร็วสูงสุดหมดลง ที่ 64kbps/128kbps และ 256 kbps ตามลำดับ  ซึ่งความเร็วดังกล่าวเป็นแค่ความเร็วสูงสุดของ 2จี เท่านั้น ทั้งที่ควรจะเป็น 345 kbps ตามเจตนารมณ์ของ ประกาศ กสทช.เรื่อง มาตรฐานการให้บริการโทรคมนาคมประเภทข้อมูลสำหรับโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ นอกจากนี้ กรณีของเอไอเอสยังเป็นการเลี่ยงบาลีหนีประกาศ กสทช.แทนที่จะ ลดราคาลง 15% แต่กลับเพิ่มปริมาณ แต่ราคายังเป็นราคาเดิมซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตที่ กสทช. ประกาศไว้"




ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ มองว่า กสทช.ควรดำเนินการกับผู้ประกอบการอย่างตรงไปตรงมา ตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 หาก กทค.ไม่สามารถสั่งเอกชนให้ปรับราคาบริหารลง 15% ก็จะถูกร้องกล่าวโทษต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างแน่นอน ขณะที่ กฎหมายให้อำนาจ กทค. ไว้ชัดเจน แต่ที่ผ่านมา กทค. กลับไม่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เหมือนที่เกิดปัญหากับเรื่อง การห้ามกำหนดวันหมดอายุโทรศัพท์ระบบเติมเงิน ที่เอกชนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง และ กทค. ปล่อยให้เรื่องดังกล่าวเงียบไป ขณะที่ล่าสุด กลุ่มกรีนยังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล เพื่อยื่นต่อศาลปกครองเพิ่มเติมกรณี 3จี

ต่อมา นายฐากร ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว (@TakornNBTC) ว่า ผมต้องขอขอบคุณๆ สุริยะใส กตะศิลา เป็นอย่างยิ่งที่จะมาร่วมกับสำนักงาน กสทช. ในการตรวจสอบผู้ประกอบการในเรื่องราคาค่าบริการ 3G ใหม่และบัตรเติมเงิน ผมขอเรียนยืนยันว่าบอร์ด กทค. สำนักงาน กสทช. กลุ่มกรีน มีเจตนารมณ์สอดคล้องกันอย่างแน่นอนในการที่จะคุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชนครับ






______________________________________







“ยะใส” ขู่ กทค.เจอละเว้นฯ ปล่อยค่ายมือถือเลี่ยงบาลีความเร็ว 3G เอาเปรียบ ปชช.


ผู้ประสานกลุ่มกรีน จี้ กทค.รักษากฎหมายและสัญญาประชาคม เอาจริงค่าบริการ 3G ต้องลดลง 15% ระบุเอกชนกำลังเลี่ยงบาหลีเอาเปรียบผู้บริโภค ไม่ลดราคาจริง เหมือนเคสกำหนดวันหมดอายุบัตรเติมเงิน เตือน กทค.อาจผิดข้อหาละเว้นฯ เตรียมยื่นข้อมูลให้ศาลปกครองเพิ่ม พร้อมเข้ายื่นหนังสือต่อ กสทช.พรุ่งนี้เช้า
     
       วันนี้ (13 พ.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน เผยว่า ในขณะนี้ประชาชนกำลังวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. โดยเฉพาะในฝั่งของบอร์ด กทค.หรือคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในการให้บริการ 3G
     
       นายสุริยะใสเผยต่อว่า ประชาชนกำลังสับสนกับเงื่อนไขแนบท้ายในการออกใบอนุญาตประกอบกิจการ 3G ที่ กทค.กำหนดว่าเอกชนผู้ประกอบการทั้ง 3 ราย ต้องลดค่าบริการที่เป็นตัวเงินทุกแพกเกจลง 15% แต่เท่าที่ติดตามเพกเกจต่างๆ ของผู้ประกอบการที่เริ่มทำการตลาดกันบ้างแล้วนั้น กำลังตั้งแง่เลี่ยงบาลีหรือพยายามที่จะไม่ปฏิบัติตามประกาศของ กสทช. ซึ่งเป็นการเอาเปรียบประชาชนในฐานะผู้บริโภค เพราะแพกเกจทั้ง 3 ค่ายยังคงจำกัดความเร็วในการรับส่งข้อมูลหลังจากใช้งาน 3G ความเร็ว สูงสุดหมดลง (FUP) ที่ 64kbps, 128kbps และ 256kbps ตามลำดับในความแพงของแพกเกจนั้นๆ ซึ่งความเร็วขนาดนี้มันเป็นแค่ความเร็วสุงสุดของ 2G เท่านั้น ทั้งที่ควรจะเป็น 345 kbps ตามเจตนารมณ์ของประกาศ กสทช.เรื่องมาตรฐานการให้บริการโทรคมนาคมประเภทข้อมูลสำหรับโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่
     
       นอกจากนี้ กรณีของ AIS ยังเป็นการเลี่ยงบาลีหนีประกาศ กสทช.แทนที่จะลดราคาลง 15% แต่ดันไปเพิ่มปริมาณ แต่ราคายังเป็นราคาเดิม ซึ่งถึงว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตที่ กสทช.ประกาศไว้
     
       ผู้ประสานงานกลุ่มกรีนเผยอีกว่า ในกรณีนี้ กสทช.โดยเฉพาะบอร์ดฝั่ง กทค.จะต้องดำเนินการกับผู้ประกอบการอย่างตรงไปตรงมา ตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม ปี 2544 หาก กทค.ไม่สามารถสั่งเอกชนให้ปรับราคาบริหารลง 15% ก็จะถูกร้องกล่าวโทษต่อ ป.ป.ช.ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างแน่นอน กฎหมายให้อำนาจ กทค.ชัดเจนและเป็นรูปธรรมขนาดนี้ แต่ที่ผ่านมา กทค.กลับอะลุ่มอล่วยและไม่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เฉกเช่นกรณีการห้ามกำหนดวันหมดอายุโทรศัพท์บัตรเติมเงิน ที่เอกชนไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่ง กทค.และก็กำลังปล่อยให้เรื่องเงียบหายไป
     
       นายสุริยะใสระบุทิ้งท้ายว่า ซึ่งกลุ่มกรีนกำลังรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อยื่นข้อมูลเพิ่มเติมให้ศาลปกครอง เพราะก่อนหน้านี้ศาลปกครองได้รับฟ้องที่กลุ่มกรีนและเครือข่ายยื่นฟ้องว่าการประมูล 3G ไม่ชอบด้วยกฎหมายและขาดความโปร่งใส และในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น ตัวแทนกลุ่มกรีนจะเข้ายื่นเรื่อง ต่อ กสทช.ให้ดำเนินการกับเอแกชนทั้งกรณี 3G และกรณีการกำหนดวันหมดอายุบัตรเติมเงินที่ยังไม่มีผลในทางปฏิบัติ


http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000057248&Keyword=3g

_______________________________________________________



กลุ่มกรีนยื่นหนังสือ กสทช. จี้ตรวจสอบเอกชนเปิด 3จี พรุ่งนี้



ตัวแทนกลุ่มกรีนยื่นหนังสือต่อเลขาฯ กสทช. ตรวจสอบ 3 ค่ายมือถือเปิดให้บริการ 3จี วันหมดอายุบัตรเติมเงิน พรุ่งนี้ เวลา 10.00 น. สำนักงาน กสทช....


เมื่อวันที่ 13 พ.ค. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) เวลา 10.00 น. ตัวแทนกลุ่มกรีนจะเข้ายื่นเรื่องต่อ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อให้มีมาตรการตรวจสอบเอกชน ที่เปิดให้บริการ 3จี และกรณีการกำหนดวันหมดอายุบัตรเติมเงิน ที่ยังไม่มีผลในทางปฏิบัติ ทั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่า เป็นความรับผิดชอบโดยตรงของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) กสทช.


ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน และอยู่ในความสนใจของประชาชน คือ เงื่อนไขแนบท้ายการออกใบอนุญาตประกอบกิจการ 3จี ที่ กทค.กำหนดว่า ผู้ประกอบการทั้ง 3 ราย ต้องลดค่าใช้บริการลง 15% จากอัตราปัจจุบัน แต่เท่าที่ตรวจสอบจากการติดตามแพ็กเกจต่างๆ ของผู้ประกอบการ ซึ่งเริ่มทำการตลาดแล้ว พบว่ามีความพยายามไม่ปฏิบัติตามประกาศของ กสทช. ซึ่งเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค



นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบ พบว่า ทั้ง 3 ค่าย กำหนดแพกเกจจำกัดความเร็วในการรับส่งข้อมูลหลังจากใช้งาน 3จี ความเร็วสูงสุดหมดลง ที่ 64kbps/128kbps และ 256 kbps ตามลำดับ  ซึ่งความเร็วดังกล่าวเป็นแค่ความเร็วสูงสุดของ 2จี เท่านั้น ทั้งที่ควรจะเป็น 345 kbps ตามเจตนารมณ์ของ ประกาศ กสทช.เรื่อง มาตรฐานการให้บริการโทรคมนาคมประเภทข้อมูลสำหรับโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ นอกจากนี้ กรณีของเอไอเอสยังเป็นการเลี่ยงบาลีหนีประกาศ กสทช.แทนที่จะ ลดราคาลง 15% แต่กลับเพิ่มปริมาณ แต่ราคายังเป็นราคาเดิมซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตที่ กสทช. ประกาศไว้"




ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ มองว่า กสทช.ควรดำเนินการกับผู้ประกอบการอย่างตรงไปตรงมา ตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 หาก กทค.ไม่สามารถสั่งเอกชนให้ปรับราคาบริหารลง 15% ก็จะถูกร้องกล่าวโทษต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างแน่นอน ขณะที่ กฎหมายให้อำนาจ กทค. ไว้ชัดเจน แต่ที่ผ่านมา กทค. กลับไม่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เหมือนที่เกิดปัญหากับเรื่อง การห้ามกำหนดวันหมดอายุโทรศัพท์ระบบเติมเงิน ที่เอกชนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง และ กทค. ปล่อยให้เรื่องดังกล่าวเงียบไป ขณะที่ล่าสุด กลุ่มกรีนยังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล เพื่อยื่นต่อศาลปกครองเพิ่มเติมกรณี 3จี

ต่อมา นายฐากร ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว (@TakornNBTC) ว่า ผมต้องขอขอบคุณๆ สุริยะใส กตะศิลา เป็นอย่างยิ่งที่จะมาร่วมกับสำนักงาน กสทช. ในการตรวจสอบผู้ประกอบการในเรื่องราคาค่าบริการ 3G ใหม่และบัตรเติมเงิน ผมขอเรียนยืนยันว่าบอร์ด กทค. สำนักงาน กสทช. กลุ่มกรีน มีเจตนารมณ์สอดคล้องกันอย่างแน่นอนในการที่จะคุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชนครับ







โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/344591

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.