Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

03 มิถุนายน 2556 (แก้ CAT TRUEผ่านไป335วันแล้ว) กสทช.เร่งแก้ปัญหาเบื้องต้น BFTK รับใบอนุญาตแบบที่ 2 // ศุภชัย CEO ชี้ ไม่เห็นด้วยหาก BFKT เป็นเพียงบริษัทเดียวที่ถูกบังคับให้ปฏิบัติตามกฎใหม่ เพราะ หัวเหว่ย ก็ทำเหมือนกัน



ประเด็นหลัก


   อนึ่ง ร่างประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) 2 ฉบับที่สำนักงาน กสทช.เสนอให้บอร์ด กทค.พิจารณาเพื่อมาปิดรูรั่วของกฎหมายภายหลังกรณี BFKT ใช้ช่องโหว่ดังกล่าวในการประกอบกิจการที่ผ่านมาโดยไม่ต้องมีใบอนุญาต ประกอบด้วย 1. ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง กำหนดลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ... โดยจะยกเลิกประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เรื่องกำหนดลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคมเดิม

   
       เนื่องจากประกาศฉบับเก่าไม่มีข้อกฎหมายที่ระบุว่า ‘การให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโทรคมนาคม (Telecommunications Facility) หรือการให้บริการเช่าใช้เครื่องโทรคมนาคม อุปกรณ์โทรคมนาคม หรือสื่อนำสัญญาณแก่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมเพื่อนำไปให้บริการโทรคมนาคม ถือเป็นลักษณะของกิจการโทรคมนาคมที่มีโครงข่ายโทรคมนาคม’
   
       ขณะที่ร่างประกาศที่ 2 คือร่างประกาศ กสทช. เรื่อง ลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคมที่ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. .... และให้ยกเลิกประกาศ กทช.เดิม เรื่องลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคมที่ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม
   
       เพราะร่างประกาศฉบับใหม่ระบุเอาไว้ชัดเจนว่า การประกอบกิจการโทรคมนาคมที่มีโครงข่าย หรือไม่มีโครงข่ายโทรคมนาคมเป็นของตนเองเพื่อให้เช่าใช้ที่มีลักษณะการให้บริการ คือ “การให้บริการโทรคมนาคมโดยการให้เช่าใช้เครื่องโทรคมนาคม อุปกรณ์โทรคมนาคม หรือสื่อนำสัญญาณ แก่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมเพื่อนำไปให้บริการโทรคมนาคม” ถือเป็นการประกอบกิจการลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคมที่ต้องขอรับใบอนุญาตแบบที่ 2 จาก กสทช.เพื่อการประกอบกิจการดังกล่าว
   
       โดยในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโทรคมนาคม หรือการให้เช่าใช้เครื่องโทรคมนาคม อุปกรณ์โทรคมนาคม หรือสื่อนำสัญญาณ แก่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมเพื่อนำไปให้บริการโทรคมนาคม เช่น โครงสร้างพื้นฐาน เช่น อาคาร เสา ระบบสายและท่อ, ศูนย์ข้อมูล (DATA CENTER), การให้บริการเช่าใช้เครื่องโทรคมนาคม อุปกรณ์โทรคมนาคม เช่นเครื่องหรืออุปกรณ์ควบคุมสถานีฐาน, เครื่องหรืออุปกรณ์ชุมสาย, เครื่องหรืออุปกรณ์ในการควบคุมการใช้งานของผู้ใช้บริการหรือสื่อนำสัญญาณ เช่นสายทองแดง, สายเคเบิลใยแก้วนำแสง
   
       โดยผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่เข้าข่ายลักษณะข้างต้นจะต้องเข้ามาขอรับใบอนุญาตประเภทที่ 2 ภายใน 60 วันนับแต่ประกาศมีผลบังคับใช้ ซึ่งระหว่างนั้นสามารถดำเนินการกิจการได้ตามปกติ ในขณะที่ผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมอยู่แล้วให้สามารถใช้สิทธิเดิมไปจนกว่าใบอนุญาตดังกล่าวจะสิ้นสุดลง


   
       นพ.ประวิทย์กล่าวว่า ถึงแม้ร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ขึ้นมาแต่ก็เชื่อว่าไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยจากกรณีที่เกิดขึ้นไปแล้วเพราะคงไม่มีเอกชนรายใดจะยอมให้ตัวเองต้องเสียรายได้เพิ่มถึง 5% จากการเข้ามาขอใบอนุญาตประเภทที่ 2 แน่นอน เพราะหากถือใบอนุญาตประเภทที่ 2 ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมประกอบกิจการรายปี 2% และค่าธรรมเนียมกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (USO) อีก 2.75% ทั้งที่มติก็ระบุว่าไม่เข้าข่ายเป็นผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม
   
       อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวผู้ประกอบการที่จะโดนหางเลขหรือลูกหลงไปด้วยคือบริษัทที่มีการเปิดให้เช่าเครื่องโทรคมนาคม และอุปกรณ์โทรคมนาคมมากกว่าหนึ่งราย (เวนเดอร์) เพราะต้องเข้ามารายงานตัวเพื่อขอรับใบอนุญาตประเภทที่ 2 โดยไม่มีทางเลือก ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่ต้องมีใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจแต่อย่างใด
   
       ส่วนกรณีบอร์ด กทค.จะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่าตอบยากเพราะกฎหมายระบุว่าการประกอบกิจการโทรคมนาคมหมายถึงการประกอบกิจการในลักษณะที่เป็นผู้ให้บริการด้านกิจการโทรคมนาคมแก่บุคคลอื่นทั่วไป ขณะที่กรณี BFKT เป็นเพียงกิจการโทรคมนาคม และเป็นเพียงผู้ดำเนินการตามสัญญาเช่าระหว่าง BFKT กับบริษัท กสท โทรคมนาคม เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นการให้เช่าเพียงรายเดียวจึงไม่ขัดต่อกฎหมาย ดังนั้น BFKT อาจจะไม่เข้ามาขอใบอนุญาตประเภทที่ 2 ก็เป็นได้
   
       ด้านนายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทข้ามชาติจำนวนไม่น้อยล้วนดำเนินธุรกิจโทรคมนาคมโดยให้บริการเฉพาะอุปกรณ์เครือข่ายและบริการบำรุงรักษาแก่โอเปอเรเตอร์ จึงไม่เห็นด้วยหาก BFKT เป็นเพียงบริษัทเดียวที่ถูกบังคับให้ปฏิบัติตามกฎใหม่
   
       ‘อย่างหัวเหว่ย เป็นเวนเดอร์รายหนึ่งที่ทำธุรกิจลักษณะเดียวกับ BFKTด้วยการให้บริการอุปกรณ์และดูแลรักษาระบบให้เฉพาะคู่สัญญาแบบเฉพาะเจาะจง ถามว่าบริษัทเหล่านี้ต้องขอรับใบอนุญาตหรือไม่’
   
       อย่างไรก็ตาม ศุภชัยยอมรับว่า การขอใบอนุญาตหรือไลเซนส์จะทำให้ BFKT มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น แต่เหตุผลนี้ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้ไม่เห็นด้วยกับร่างหลักเกณฑ์ใหม่นี้
   
       อนึ่ง ร่างประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) 2 ฉบับที่สำนักงาน กสทช.เสนอให้บอร์ด กทค.พิจารณาเพื่อมาปิดรูรั่วของกฎหมายภายหลังกรณี BFKT ใช้ช่องโหว่ดังกล่าวในการประกอบกิจการที่ผ่านมาโดยไม่ต้องมีใบอนุญาต ประกอบด้วย 1. ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง กำหนดลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ... โดยจะยกเลิกประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เรื่องกำหนดลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคมเดิม
   
       เนื่องจากประกาศฉบับเก่าไม่มีข้อกฎหมายที่ระบุว่า ‘การให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโทรคมนาคม (Telecommunications Facility) หรือการให้บริการเช่าใช้เครื่องโทรคมนาคม อุปกรณ์โทรคมนาคม หรือสื่อนำสัญญาณแก่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมเพื่อนำไปให้บริการโทรคมนาคม ถือเป็นลักษณะของกิจการโทรคมนาคมที่มีโครงข่ายโทรคมนาคม’
   
       ขณะที่ร่างประกาศที่ 2 คือร่างประกาศ กสทช. เรื่อง ลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคมที่ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. .... และให้ยกเลิกประกาศ กทช.เดิม เรื่องลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคมที่ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม
   
       เพราะร่างประกาศฉบับใหม่ระบุเอาไว้ชัดเจนว่า การประกอบกิจการโทรคมนาคมที่มีโครงข่าย หรือไม่มีโครงข่ายโทรคมนาคมเป็นของตนเองเพื่อให้เช่าใช้ที่มีลักษณะการให้บริการ คือ “การให้บริการโทรคมนาคมโดยการให้เช่าใช้เครื่องโทรคมนาคม อุปกรณ์โทรคมนาคม หรือสื่อนำสัญญาณ แก่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมเพื่อนำไปให้บริการโทรคมนาคม” ถือเป็นการประกอบกิจการลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคมที่ต้องขอรับใบอนุญาตแบบที่ 2 จาก กสทช.เพื่อการประกอบกิจการดังกล่าว
   
       โดยในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโทรคมนาคม หรือการให้เช่าใช้เครื่องโทรคมนาคม อุปกรณ์โทรคมนาคม หรือสื่อนำสัญญาณ แก่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมเพื่อนำไปให้บริการโทรคมนาคม เช่น โครงสร้างพื้นฐาน เช่น อาคาร เสา ระบบสายและท่อ, ศูนย์ข้อมูล (DATA CENTER), การให้บริการเช่าใช้เครื่องโทรคมนาคม อุปกรณ์โทรคมนาคม เช่นเครื่องหรืออุปกรณ์ควบคุมสถานีฐาน, เครื่องหรืออุปกรณ์ชุมสาย, เครื่องหรืออุปกรณ์ในการควบคุมการใช้งานของผู้ใช้บริการหรือสื่อนำสัญญาณ เช่นสายทองแดง, สายเคเบิลใยแก้วนำแสง
   
       โดยผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่เข้าข่ายลักษณะข้างต้นจะต้องเข้ามาขอรับใบอนุญาตประเภทที่ 2 ภายใน 60 วันนับแต่ประกาศมีผลบังคับใช้ ซึ่งระหว่างนั้นสามารถดำเนินการกิจการได้ตามปกติ ในขณะที่ผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมอยู่แล้วให้สามารถใช้สิทธิเดิมไปจนกว่าใบอนุญาตดังกล่าวจะสิ้นสุดลง



______________________________________






กสทช.กระชับพื้นที่ BFKT



       บอร์ด กทค.เตรียมพิจารณา 2 ร่างหลักเกณฑ์เกี่ยวกับลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคมที่ต้องขอรับใบอนุญาต หลัง BFKT สร้างปัญหาอาศัยช่องว่างกฎหมายในเรื่องเช่าอุปกรณ์โทรคมนาคม‘เศรษฐพงค์’ ย้ำต้องเอา BFKT เข้าระบบและสร้างกรอบเพื่อไม่ให้เกิดพฤติกรรมเอาอย่างเลียนแบบทำให้อุตสาหกรรมป่วน ด้าน ‘ศุภชัย’ถามเลือกปฏิบัติต่อ BFKT รายเดียวหรือไม่
     
       พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช.และประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) กล่าวว่า คณะทำงานได้ดำเนินการร่างกฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับการกำหนดลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคมที่จะต้องมาขอรับใบอนุญาตจาก กสทช.เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าบอร์ด กทค.จะพิจารณาในเดือน มิ.ย.นี้
     
       ‘กสทช.จะต้องนำ BFKT เข้ามาในระบบภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. รวมทั้งบริษัทอื่นที่ต้องการทำธุรกิจในลักษณะเช่นเดียวกัน ซึ่งน่าจะเป็นใบอนุญาตประเภท 2 ที่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 2% และค่า USO 2.75%’
     
       การดำเนินการครั้งนี้ของ กสทช.เกิดขึ้นเพราะสัญญาการให้บริการโทรศัพท์มือถือรูปแบบใหม่ HSPA ความถี่ 850 MHz ระหว่างบริษัท กสท โทรคมนาคม กับกลุ่มทรู ถูกตรวจสอบวงกว้างว่าดำเนินการไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากไม่ได้มีการทำสัญญาอย่างตรงไปตรงมาแต่อาศัยช่องว่างของกฎหมาย ยืนยันตามที่เลขาธิการ กสทช.ได้ระบุก่อนหน้านี้ว่าเป็นการหลีกเลี่ยงกฎหมายแต่ไม่ผิดกฎหมาย เนื่องจากอาศัยบริษัท BFKT เป็นคนสร้างโครงข่ายให้ กสท เช่าเพื่อนำมาขายส่งบริการให้บริษัท เรียลมูฟ ขายต่อบริการอีกทอดหนึ่ง โดยบอร์ด กทค.มีมติ 4 ต่อ 1 เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมาว่าBFKT เป็นแค่บริษัททำธุรกิจโทรคมนาคม ไม่ใช่ประกอบกิจการโทรคมนาคม จึงไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาต
     
       ความยุ่งยากที่ตามมาหลังจากนั้นคือ ถึงแม้ไม่สามารถเอาผิดตามกฎหมายที่มีอยู่ได้ แต่เพื่อไม่ให้เกิดพฤติกรรมเอาอย่างจนทำให้เกิดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคม ทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม รวมทั้งให้พวกหัวหมอที่เห็นประโยชน์ประเทศชาติสำคัญเพียงน้อยนิดอาศัยช่องว่างของกฎหมายมาสร้างแต้มต่อ กสทช.จำเป็นต้องร่างกฎเกณฑ์ใหม่ขึ้นมาเพื่อกำกับดูแล จัดระบบให้เข้าที่เข้าทาง
     
       ด้าน นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า หลังจากบอร์ด กทค.มีมติ 4 ต่อ 1 เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2556 ว่า BFKT ไม่เข้าข่ายขัดกฎหมายมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 จึงไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตในการประกอบกิจการโทรคมนาคม แต่ได้สั่งให้สำนักงาน กสทช.กลับไปเร่งดำเนินการยกร่างหลักเกณฑ์ที่จะกำกับดูแลในกิจการโทรคมนาคม เพื่อให้การดำเนินกิจการให้เช่าเครื่อง และอุปกรณ์วิทยุคมนาคมเพื่อให้บริการโทรศัพท์มือถือในลักษณะดังกล่าวของบุคคลใดๆ เข้ามาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช.
     
       ทั้งนี้ ล่าสุดร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวสำนักงาน กสทช.ได้ร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในเบื้องต้นสำนักงานได้ส่งให้บอร์ด กทค.ตรวจสอบ และพิจารณาก่อนนำเข้าบอร์ดเพื่อมีมติเห็นชอบ และนำไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
     
       สำหรับสาระสำคัญในร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวนั้นระบุว่า แม้ผู้ประกอบการให้เช่าเครื่องโทรคมนาคม และอุปกรณ์โทรคมนาคมหรือสื่อนำสัญญาณแก่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมเพื่อนำไปให้บริการโทรคมนาคม จะต้องขอรับใบอนุญาตประเภทที่ 2 จาก กสทช.
     
       ‘อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวเชื่อว่า BFKT คงฉลาดพอที่จะไม่เข้ามาขอใบอนุญาตประเภทที่ 2 แน่นอน เนื่องจากปัญหาซ่อนอยู่ตรงคำวินิจฉัยของบอร์ด กทค.ที่ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่า BFKT ไม่เข้าข่ายผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม เนื่องจากเป็นการให้เช่าเฉพาะเพียงรายเดียว ดังนั้นจะเข้ามาขอใบอนุญาตเพื่ออะไร’
     
       นพ.ประวิทย์กล่าวว่า ถึงแม้ร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ขึ้นมาแต่ก็เชื่อว่าไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยจากกรณีที่เกิดขึ้นไปแล้วเพราะคงไม่มีเอกชนรายใดจะยอมให้ตัวเองต้องเสียรายได้เพิ่มถึง 5% จากการเข้ามาขอใบอนุญาตประเภทที่ 2 แน่นอน เพราะหากถือใบอนุญาตประเภทที่ 2 ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมประกอบกิจการรายปี 2% และค่าธรรมเนียมกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (USO) อีก 2.75% ทั้งที่มติก็ระบุว่าไม่เข้าข่ายเป็นผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม
     
       อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวผู้ประกอบการที่จะโดนหางเลขหรือลูกหลงไปด้วยคือบริษัทที่มีการเปิดให้เช่าเครื่องโทรคมนาคม และอุปกรณ์โทรคมนาคมมากกว่าหนึ่งราย (เวนเดอร์) เพราะต้องเข้ามารายงานตัวเพื่อขอรับใบอนุญาตประเภทที่ 2 โดยไม่มีทางเลือก ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่ต้องมีใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจแต่อย่างใด
     
       ส่วนกรณีบอร์ด กทค.จะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่าตอบยากเพราะกฎหมายระบุว่าการประกอบกิจการโทรคมนาคมหมายถึงการประกอบกิจการในลักษณะที่เป็นผู้ให้บริการด้านกิจการโทรคมนาคมแก่บุคคลอื่นทั่วไป ขณะที่กรณี BFKT เป็นเพียงกิจการโทรคมนาคม และเป็นเพียงผู้ดำเนินการตามสัญญาเช่าระหว่าง BFKT กับบริษัท กสท โทรคมนาคม เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นการให้เช่าเพียงรายเดียวจึงไม่ขัดต่อกฎหมาย ดังนั้น BFKT อาจจะไม่เข้ามาขอใบอนุญาตประเภทที่ 2 ก็เป็นได้
     
       ด้านนายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทข้ามชาติจำนวนไม่น้อยล้วนดำเนินธุรกิจโทรคมนาคมโดยให้บริการเฉพาะอุปกรณ์เครือข่ายและบริการบำรุงรักษาแก่โอเปอเรเตอร์ จึงไม่เห็นด้วยหาก BFKT เป็นเพียงบริษัทเดียวที่ถูกบังคับให้ปฏิบัติตามกฎใหม่
     
       ‘อย่างหัวเหว่ย เป็นเวนเดอร์รายหนึ่งที่ทำธุรกิจลักษณะเดียวกับ BFKTด้วยการให้บริการอุปกรณ์และดูแลรักษาระบบให้เฉพาะคู่สัญญาแบบเฉพาะเจาะจง ถามว่าบริษัทเหล่านี้ต้องขอรับใบอนุญาตหรือไม่’
     
       อย่างไรก็ตาม ศุภชัยยอมรับว่า การขอใบอนุญาตหรือไลเซนส์จะทำให้ BFKT มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น แต่เหตุผลนี้ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้ไม่เห็นด้วยกับร่างหลักเกณฑ์ใหม่นี้
     
       อนึ่ง ร่างประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) 2 ฉบับที่สำนักงาน กสทช.เสนอให้บอร์ด กทค.พิจารณาเพื่อมาปิดรูรั่วของกฎหมายภายหลังกรณี BFKT ใช้ช่องโหว่ดังกล่าวในการประกอบกิจการที่ผ่านมาโดยไม่ต้องมีใบอนุญาต ประกอบด้วย 1. ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง กำหนดลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ... โดยจะยกเลิกประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เรื่องกำหนดลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคมเดิม
     
       เนื่องจากประกาศฉบับเก่าไม่มีข้อกฎหมายที่ระบุว่า ‘การให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโทรคมนาคม (Telecommunications Facility) หรือการให้บริการเช่าใช้เครื่องโทรคมนาคม อุปกรณ์โทรคมนาคม หรือสื่อนำสัญญาณแก่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมเพื่อนำไปให้บริการโทรคมนาคม ถือเป็นลักษณะของกิจการโทรคมนาคมที่มีโครงข่ายโทรคมนาคม’
     
       ขณะที่ร่างประกาศที่ 2 คือร่างประกาศ กสทช. เรื่อง ลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคมที่ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. .... และให้ยกเลิกประกาศ กทช.เดิม เรื่องลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคมที่ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม
     
       เพราะร่างประกาศฉบับใหม่ระบุเอาไว้ชัดเจนว่า การประกอบกิจการโทรคมนาคมที่มีโครงข่าย หรือไม่มีโครงข่ายโทรคมนาคมเป็นของตนเองเพื่อให้เช่าใช้ที่มีลักษณะการให้บริการ คือ “การให้บริการโทรคมนาคมโดยการให้เช่าใช้เครื่องโทรคมนาคม อุปกรณ์โทรคมนาคม หรือสื่อนำสัญญาณ แก่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมเพื่อนำไปให้บริการโทรคมนาคม” ถือเป็นการประกอบกิจการลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคมที่ต้องขอรับใบอนุญาตแบบที่ 2 จาก กสทช.เพื่อการประกอบกิจการดังกล่าว
     
       โดยในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโทรคมนาคม หรือการให้เช่าใช้เครื่องโทรคมนาคม อุปกรณ์โทรคมนาคม หรือสื่อนำสัญญาณ แก่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมเพื่อนำไปให้บริการโทรคมนาคม เช่น โครงสร้างพื้นฐาน เช่น อาคาร เสา ระบบสายและท่อ, ศูนย์ข้อมูล (DATA CENTER), การให้บริการเช่าใช้เครื่องโทรคมนาคม อุปกรณ์โทรคมนาคม เช่นเครื่องหรืออุปกรณ์ควบคุมสถานีฐาน, เครื่องหรืออุปกรณ์ชุมสาย, เครื่องหรืออุปกรณ์ในการควบคุมการใช้งานของผู้ใช้บริการหรือสื่อนำสัญญาณ เช่นสายทองแดง, สายเคเบิลใยแก้วนำแสง
     
       โดยผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่เข้าข่ายลักษณะข้างต้นจะต้องเข้ามาขอรับใบอนุญาตประเภทที่ 2 ภายใน 60 วันนับแต่ประกาศมีผลบังคับใช้ ซึ่งระหว่างนั้นสามารถดำเนินการกิจการได้ตามปกติ ในขณะที่ผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมอยู่แล้วให้สามารถใช้สิทธิเดิมไปจนกว่าใบอนุญาตดังกล่าวจะสิ้นสุดลง

http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000066308

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.