Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

06 สิงหาคม 2556 อุปกรณ์เสริมปีนี้ซบเซาอย่างแรง!!! ทั้งฟิล์มกันรอย เคสคลุมเครื่อง หูฟัง ปรับกำไรลง ชี้ไร้สีสันทางการตลาดพบสต๊อกสินค้าจำนวนมาก เมื่อสุดท้ายขายไม่หมด


ประเด็นหลัก


นายพรรธสพล พันธ์เมธีสกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีแมช คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าของอุปกรณ์เสริมไอที "วอกซ์" และหมึกพิมพ์ทดแทน เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรก สภาพเศรษฐกิจไม่ดีนัก ทำให้บริษัทปรับเป้ารายได้ในกลุ่มอุปกรณ์เสริม ที่เดิมตั้งไว้ 400 ล้านบาท หรือ 40% ของรายได้รวมเหลือ 200-300 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้รวมลดลงเช่นกันเหลือ 600-800 ล้านบาท มีสัดส่วนจากหมึกพิมพ์ทดแทน ภายใต้แบรนด์โคแม็กซ์, ฟรีเจ็ท และอื่น ๆ กว่า 50%, ตลาดต่างประเทศ 10% ที่เหลือเป็นอุปกรณ์เสริม



นอกจากนี้ ยังเพิ่มสินค้าใหม่ "ฟิล์มกันรอย" ตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยลงทุนสั่งซื้อเครื่องตัดฟิล์มให้เข้ากับโทรศัพท์มือถือแต่ละยี่ห้อ ผลิตได้ 1 แสนใบ/วัน จึงเป็นแหล่งรายได้เสริม ทำให้มีอุปกรณ์เสริมครบถ้วนมากขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากคู่ค้า แม้ตลาดฟิล์มจะมีเจ้าตลาดอยู่เดิม มูลค่าตลาดอุปกรณ์เสริม แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คืออุปกรณ์เสริมสินค้าไอที มีมูลค่าประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท เติบโตค่อนข้างน้อย ตามสภาพตลาดคอมพิวเตอร์ที่ซบเซาลง ส่วนอุปกรณ์เสริมโทรศัพท์มือถือ มีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท เป็นเคส 50% ฟิล์ม 24% ที่เหลือเป็นสินค้าอุปกรณ์ต่อพ่วง เช่น สายเชื่อมคอมพิวเตอร์ และพาวเวอร์แบงก์ ขณะที่มูลค่าตลาดหมึกพิมพ์ มีกว่า 20,000 ล้านบาท เป็นหมึกพิมพ์แบรนด์คอมพิวเตอร์ 65% และหมึกพิมพ์ทดแทน 35% มีคู่แข่งกว่า 300 ยี่ห้อ


นายพรรธสพลกล่าวว่า บริษัทยังรักษาส่วนแบ่งตลาดหมึกทดแทนไว้ที่ 70% เติบโตปีละ 10% ทุกปี เพราะเป็นสินค้าจำเป็นในองค์กรต่าง ๆ รวมถึงการใช้งานตามบ้าน และเมื่อเทียบราคากับแบรนด์เครื่องพิมพ์ ถูกกว่ากันมากกว่าครึ่ง

ด้านนายสรศักดิ์ วงศ์ชินศรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจนเนอเรชั่นเอส จำกัด ตัวแทนจำหน่ายหูฟัง "เซนไฮเซอร์" และอุปกรณ์เสริมแบรนด์ Gosh เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา ตลาดสมาร์ทโฟนเติบโตเร็วมาก ทำให้อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เช่น เคส และพาวเวอร์แบงก์ ได้รับอานิสงส์ไปด้วย กระตุ้นให้มีผู้นำเข้าสินค้ารายใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก แต่ปีนี้กระแสไม่ได้คึกคักเหมือนปีก่อน เนื่องจากทั้งไอโฟน 5 และแกแล็คซี่ เอส 4 ไม่กระตุ้นความสนใจผู้บริโภคมากนัก ทำให้หน้าใหม่ที่คาดหวังว่าจะขายได้มาก สต๊อกสินค้าจำนวนมาก เมื่อสุดท้ายขายไม่หมด จึงมีการลดราคา ปัจจุบันเหลือรายใหญ่เพียง 5 ราย ที่มีเงินหมุนเวียน 40-50 ล้านบาท/ปี เป็นกลุ่มที่นำเข้าอุปกรณ์เสริมที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง



















______________________________________





ตลาดอุปกรณ์เสริมครึ่งปีแรกแผ่ว ดัมพ์ราคาสู้กำลังซื้อฝืด"ซีแมช"ลดเป้ารายได้ลง50%


กำลังซื้อฝืดฉุดตลาดอุปกรณ์เสริม "สมาร์ทดีไวซ์" ไม่สดใส "ซีแมช" ปรับเป้ารายได้ครึ่งปีหลังลงเกือบครึ่ง ยอมรับกลยุทธ์ดัมพ์ราคาสู้สินค้าจีน ยิ่งทำยิ่งเหนื่อย ดึง "ฟิล์มกันรอย" เสริมยอดขาย ฟาก "เจนเนอเรชั่นเอส" โฟกัสลูกค้ากระเป๋าหนัก เตรียมขนอุปกรณ์เสริมซีรีส์ใหม่ทยอยลงตลาด ก.ย.นี้ ชี้ตลาดรวมไม่คึกคักเท่าปีที่แล้ว บีบรายเล็กดัมพ์ราคาหนีตายอุตลุด

นายพรรธสพล พันธ์เมธีสกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีแมช คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าของอุปกรณ์เสริมไอที "วอกซ์" และหมึกพิมพ์ทดแทน เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรก สภาพเศรษฐกิจไม่ดีนัก ทำให้บริษัทปรับเป้ารายได้ในกลุ่มอุปกรณ์เสริม ที่เดิมตั้งไว้ 400 ล้านบาท หรือ 40% ของรายได้รวมเหลือ 200-300 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้รวมลดลงเช่นกันเหลือ 600-800 ล้านบาท มีสัดส่วนจากหมึกพิมพ์ทดแทน ภายใต้แบรนด์โคแม็กซ์, ฟรีเจ็ท และอื่น ๆ กว่า 50%, ตลาดต่างประเทศ 10% ที่เหลือเป็นอุปกรณ์เสริม

"อุปกรณ์เสริมไม่ได้เป็นสินค้าจำเป็น จึงได้รับผลกระทบเมื่อเศรษฐกิจไม่ดี แต่หมึกพิมพ์ทดแทนไม่กระทบนัก การปรับเป้ารายได้จึงต้องทำ เพราะไปไม่ถึงที่ตั้งไว้ แต่มั่นใจว่าปีหน้าถึงแน่นอน เพราะต้องการเข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นอกจากกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงแล้ว ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์เสริมยังต้องแข่งกับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ รวมถึงสินค้าราคาถูกจากจีนด้วย ทั้งที่ตลาดมือถือเติบโตขึ้นมาก ขณะที่ตลาดอุปกรณ์เสริมครึ่งปีแรกหดตัวลงเล็กน้อย รวมเข้ากับการที่บริษัทปรับกลยุทธ์ด้วยการลดราคาลงเกือบครึ่ง ทำให้ต้องขายมากขึ้น 2-3 เท่า จึงต้องปรับเป้ารายได้ลง 10-15% แต่ส่วนแบ่งการตลาดยังคงเดิมที่ 10%"



ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ และผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือมากขึ้น เช่น นำเคสไปจำหน่ายร่วมกัน หรือมีสินค้าที่ทำเฉพาะรุ่นกับบางแบรนด์ เป็นต้น รวมถึงเพิ่มลวดลายอุปกรณ์เสริมใหม่ ๆ มากขึ้น ทั้งโดยการซื้อไลเซนส์จากต่างประเทศ และจ้างศิลปินไทยวาดภาพลงบนสินค้า

นอกจากนี้ ยังเพิ่มสินค้าใหม่ "ฟิล์มกันรอย" ตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยลงทุนสั่งซื้อเครื่องตัดฟิล์มให้เข้ากับโทรศัพท์มือถือแต่ละยี่ห้อ ผลิตได้ 1 แสนใบ/วัน จึงเป็นแหล่งรายได้เสริม ทำให้มีอุปกรณ์เสริมครบถ้วนมากขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากคู่ค้า แม้ตลาดฟิล์มจะมีเจ้าตลาดอยู่เดิม มูลค่าตลาดอุปกรณ์เสริม แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คืออุปกรณ์เสริมสินค้าไอที มีมูลค่าประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท เติบโตค่อนข้างน้อย ตามสภาพตลาดคอมพิวเตอร์ที่ซบเซาลง ส่วนอุปกรณ์เสริมโทรศัพท์มือถือ มีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท เป็นเคส 50% ฟิล์ม 24% ที่เหลือเป็นสินค้าอุปกรณ์ต่อพ่วง เช่น สายเชื่อมคอมพิวเตอร์ และพาวเวอร์แบงก์ ขณะที่มูลค่าตลาดหมึกพิมพ์ มีกว่า 20,000 ล้านบาท เป็นหมึกพิมพ์แบรนด์คอมพิวเตอร์ 65% และหมึกพิมพ์ทดแทน 35% มีคู่แข่งกว่า 300 ยี่ห้อ

สำหรับธุรกิจในต่างประเทศ บริษัทเน้นจำหน่าย "Know How" หรือสูตรการผลิตน้ำหมึก และเทคนิคการวางระบบโรงงานผลิต ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 15 ประเทศ เช่น รัสเซีย ส่วนอุปกรณ์เสริมเน้นไปออกงานแสดงสินค้าเป็นหลัก พร้อมกับตั้งดิสทริบิวเตอร์ในแต่ละประเทศ ขณะนี้มีกว่า 30 ประเทศ นำสินค้าของบริษัทไปวางจำหน่าย เช่น แถบตะวันออกกลาง และละตินอเมริกา เป็นต้น

นายพรรธสพลกล่าวว่า บริษัทยังรักษาส่วนแบ่งตลาดหมึกทดแทนไว้ที่ 70% เติบโตปีละ 10% ทุกปี เพราะเป็นสินค้าจำเป็นในองค์กรต่าง ๆ รวมถึงการใช้งานตามบ้าน และเมื่อเทียบราคากับแบรนด์เครื่องพิมพ์ ถูกกว่ากันมากกว่าครึ่ง

ด้านนายสรศักดิ์ วงศ์ชินศรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจนเนอเรชั่นเอส จำกัด ตัวแทนจำหน่ายหูฟัง "เซนไฮเซอร์" และอุปกรณ์เสริมแบรนด์ Gosh เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา ตลาดสมาร์ทโฟนเติบโตเร็วมาก ทำให้อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เช่น เคส และพาวเวอร์แบงก์ ได้รับอานิสงส์ไปด้วย กระตุ้นให้มีผู้นำเข้าสินค้ารายใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก แต่ปีนี้กระแสไม่ได้คึกคักเหมือนปีก่อน เนื่องจากทั้งไอโฟน 5 และแกแล็คซี่ เอส 4 ไม่กระตุ้นความสนใจผู้บริโภคมากนัก ทำให้หน้าใหม่ที่คาดหวังว่าจะขายได้มาก สต๊อกสินค้าจำนวนมาก เมื่อสุดท้ายขายไม่หมด จึงมีการลดราคา ปัจจุบันเหลือรายใหญ่เพียง 5 ราย ที่มีเงินหมุนเวียน 40-50 ล้านบาท/ปี เป็นกลุ่มที่นำเข้าอุปกรณ์เสริมที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง

สำหรับบริษัทปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 100 ล้านบาท โตกว่าปีที่แล้วเท่าตัว จากยอดขายหูฟังเซนไฮเซอร์, อุปกรณ์เสริมแบรนด์ Gosh และปากกาสไตลัส Adonit มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน และในเดือน ก.ย.นี้จะนำอุปกรณ์เสริม Gosh! ซีรีส์ใหม่เข้ามาทำตลาด เช่น เคส ไอโฟน 5 ที่มีพาวเวอร์แบงก์ในตัว, พาวเวอร์แบงก์ที่รับประกันการปล่อยกระแสไฟ รวมถึง Appcessory หรืออุปกรณ์เสริมที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชั่น บนสมาร์ทโฟนได้โดยตรง


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1375707537

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.