Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

09 กันยายน 2557 กสทช.นที ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการเผยแพร่การถ่ายทอดเอเชี่ยนเกม ด้วยว่า กสท.มีมติให้เชิญ บริษัท ทรูวิชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (ช่อง 3) ผู้ให้บริการทีวีดิจิตอล และ บริษัท ไทยทีวีพูล จำกัด มาหารือร่วมกันในวันที่ 10 ก.ย. อีกครั้งหนึ่ง

ประเด็นหลัก


     นอกจากนี้ พ.อ.นที ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการเผยแพร่การถ่ายทอดเอเชี่ยนเกม ด้วยว่า กสท.มีมติให้เชิญ บริษัท ทรูวิชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (ช่อง 3) ผู้ให้บริการทีวีดิจิตอล และ บริษัท ไทยทีวีพูล จำกัด มาหารือร่วมกันในวันที่ 10 ก.ย. อีกครั้งหนึ่ง


______________________________




กสท.แจ้งเคเบิล-ดาวเทียม งดออกอากาศช่อง 3

       กสท.มีมติให้ส่งหนังสือเตือนผู้ให้บริการโครงข่ายเคเบิล-ดาวเทียม จอดำช่อง 3 ภายใน 15 วันนับจากที่ได้รับจดหมายอย่างเป็นทางการ หากฝ่าฝืนจะถูกถอนใบอนุญาต ด้านเลขาธิการ กสทช.เปิดช่องผู้ให้บริการสามารถส่งเรื่องอุทธรณ์มายังกสทช.พิจารณาอีกครั้งหนึ่งวันที่ 17 ก.ย. ด้านสุภิญญา ลั่นเล็งฟ้องกลับช่อง 3 ฐานขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
     
       พ.ต.โกเมศ ประทีปทอง ผู้อำนวยการกลุ่มงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า มติที่ประชุมบอร์ด กสท. เมื่อวันที่ 8 ก.ย. มีมติให้ส่งจดหมายถึงผู้ให้บริการโครงข่ายทั้งในระบบเคเบิล และดาวเทียมให้งดออกอากาศช่อง 3 ระบบอนาล็อก โดยให้เวลา 15 วันนับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการ หากยังฝ่าฝืนจะมีโทษตั้งแต่ ปรับ พักใบอนุญาต และถอนใบอนุญาต ตามลำดับ โดยผู้ให้บริการโครงข่ายต้องทำอักษรวิ่งแจ้งเหตุผลให้ประชาชนทราบด้วย
     
       ขณะที่ พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.ในฐานะประธานกสท. ไม่ได้ออกมาแถลงข่าวถึงมติของที่ประชุมบอร์ดกสท.เหมือนทุกครั้ง เพราะบอร์ดมีมติให้ พ.ต.โกเมศ ออกมาแถลงข่าวแทน ได้ออกมาให้ความเห็นส่วนตัวว่า คาดว่าหนังสือแจ้งเตือนถึงผู้ให้บริการโครงข่ายจะถึงผู้รับภายใน 7 วัน ส่วนกรณีที่ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (ช่อง 3) ได้นำแผนงานการแก้ปัญหามายื่นต่อคณะกรรมการ กสท. ในเวลาที่ กสท.เลิกประชุมแล้ว นั้น กสท.ก็จะนำแผนดังกล่าวมาพิจารณาภายหลังโดยเร็วที่สุด
     
       “ผมมีจุดยืนชัดเจน ผมไม่ต้องการให้มีผลกระทบ ในส่วนความเห็นผม ผมมีความเห็นของผม ผมว่ากระบวนการปกครองมีความยืดหยุ่น หลักการและเป้าหมายในการแก้ปัญหาอาจจะไม่ต่างกันแต่กระบวนการอาจต่างกัน ผมเป็นคนประนีประนอมไม่อยากให้ใครเกิดปัญหา ตราบใดที่มีวิธีการอื่น ผมก็จะหาวิธีการอื่นก่อน โดยต้องไม่ส่งผลกระทบต่อใคร เราต้องรับฟังความคิดเห็นรอบด้าน เพราะประเด็นโต้แย้งในข้อกฎหมายยังไม่เป็นที่ยุติ ส่วนผู้ให้บริการโครงข่ายจะยื่นฟ้องก็เป็นสิทธิของแต่ละคน แต่นี่ก็เป็นเพียงความเห็นแย้ง เป็นเพียงความเห็นส่วนหนึ่งไม่สำคัญเท่ากับมติของ กสท. ซึ่ง กสท.เรามีความเห็นแตกต่างกันเสมอแต่ไม่แตกแยก”
     
       ส่วนกรณีที่มีการเสนอข่าวสารผ่านสื่อมวลชนว่า การประชุม กสท. นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา ล่ม เนื่องจาก ตนเองและพ.อ.ต.ทวีศักดิ์ งามสง่า ไม่เข้าร่วมประชุมนั้น ขอชี้แจงว่าในวันดังกล่าวไม่มีการกำหนดให้มีการประชุม จึงไม่มีเหตุผลของการประชุมล่ม ซึ่งข้อเท็จจริงคือมีการร้องขอจาก กสท.บางคน เพื่อให้มีการหารือนอกรอบของ กสท.ในวันเวลาดังกล่าว จึงได้สั่งการให้ กสทช. เชิญ กสท.ทุกคนมาหารือนอกรอบก่อนมีการประชุมวาระปกติในวันที่ 8 ก.ย.แต่เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของกรรมการบางคนและได้แจ้งให้สำนักสื่อสารองค์กรบอกว่ามีการประชุมซึ่งตนเองได้แจ้งให้แก้ไขแล้วแต่ไม่ได้รับการแก้ไข
     
       ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. กล่าวว่า หากผู้ให้บริการโครงข่ายได้รับจดหมายแจ้งเตือน ยังไม่จำเป็นต้องยื่นฟ้องแต่สามารถทำเรื่องอุทธรณ์มายัง กสทช.ได้ จากนั้น กสทช.จะนำเรื่องอุทธรณ์เข้าประชุมเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่งในการประชุมบอร์ดวันที่ 17 ก.ย.
     
       ขณะที่นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. กล่าวว่า การฟ้องของช่อง 3 ในช่วงเช้าก่อนที่จะมีการประชุมบอร์ด กสท. นั้น สะท้อนถึงเจตนาที่พยายามขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่หรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นกำลังให้เจ้าหน้าที่กฎหมายพิจารณาและอาจจะฟ้องกลับทางอาญากับช่อง 3

กสท.แจ้งเคเบิล-ดาวเทียม งดออกอากาศช่อง 3
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช.

       ***ยืนยันแจกคูปองตามกำหนดเดิม
     
       นอกจากนี้ นายฐากร ยังได้ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องการแจกคูปองเงินสดส่วนลดสำหรับแลกอุปกรณ์รับชมทีวีระบบดิจิตอลสำหรับภาคพื้นดิน ว่า ตามที่มีข่าวว่า คูปองจะแจกไม่ได้เพราะมีการระบุเลขประจำตัวประชาชนลงในคูปองอาจเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือไม่นั้น ทาง กสทช.ได้ปรึกษากับอธิบดีกรมการปกครองแล้ว ซึ่งได้ทางออกสำหรับการแก้ปัญหาคือ จะไม่พิมพ์เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และชื่อเจ้าของบ้านลงบนคูปอง แต่จะเปลี่ยนเป็นการพิมพ์เลขประจำบ้าน 11 หลัก พร้อมบ้านเลขที่แทน ซึ่งรหัสดังกล่าวจะสามารถตรวจสอบได้ว่าเจ้าของบ้านเป็นใคร
     
       นอกจากนี้จากการตรวจสอบฐานข้อมูลจำนวนครัวเรือน ณ วันที่ 8 ก.ย. พบว่าจากจำนวนครัวเรือนทั้งหมด 23.8 ล้านครัวเรือนนั้น กสทช.จะแจกคูปองให้เฉพาะครัวเรือนที่ทะเบียนบ้านมีชื่อเจ้าบ้านเท่านั้น ซึ่งพบว่า มีเพียง 14.1 ล้านครัวเรือน เท่านั้น ที่เหลือเป็นครัวเรือนที่มีบ้าน แต่ไม่มีเจ้าบ้าน และไม่มีผู้อยู่อาศัย จำนวน 7.3 ล้านครัวเรือน และเป็นบ้านที่ไม่มีเจ้าบ้านแต่มีผู้อยู่อาศัย 2.4 ล้านครัวเรือน
     
       ส่วนเรื่องการพิมพ์คูปองนั้น ทางกองสลากได้ให้คำตอบทางวาจาแล้วว่าไม่สามารถพิมพ์เสร็จ โดย กสทช.ต้องหาเอกชนมารับงานแทน ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการต้องเสนอราคาที่ไม่แพงกว่างบประมาณเดิม ดังนั้นขอยืนยันว่าการแจกคูปองยังสามารถดำเนินการได้ตามกำหนดการเดิมหรืออาจจะเร็วกว่าวันที่ 15 ต.ค. ด้วยการส่งออกทางไปรษณีย์
     
       ***ยังไม่ฟันธงเรื่องแพร่ภาพเอเชี่ยนเกม
     
       นอกจากนี้ พ.อ.นที ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการเผยแพร่การถ่ายทอดเอเชี่ยนเกม ด้วยว่า กสท.มีมติให้เชิญ บริษัท ทรูวิชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (ช่อง 3) ผู้ให้บริการทีวีดิจิตอล และ บริษัท ไทยทีวีพูล จำกัด มาหารือร่วมกันในวันที่ 10 ก.ย. อีกครั้งหนึ่ง
     


http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000103101&Keyword=%A1%CA%B7

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.