25 พฤศจิกายน 2557 HTC.นันทิภัคค์ โล่งอก!! สมาร์ทโฟนในระดับราคากลางๆ Desire 816 ได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดี ( เตรียมวางจำหน่าย HTC Desire Eye ช่วยดันยอดปลายปี )
ประเด็นหลัก
น.ส.นันทิภัคค์ บุนนาค ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท เอชทีซี (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ทางเอชทีซีได้เตรียมวางจำหน่าย HTC Desire Eye ที่ชูจุดเด่นมาพร้อมกล้องหน้าและกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช ตัวเครื่องกันน้ำโดยไม่ต้องปิดพอร์ตยูเอสบี และที่สำคัญตัวเครื่องรองรับการใช้งาน 4G ในระดับราคาหมื่นกลางๆ พร้อมกับรุ่นน้องอย่าง Desire 820s Desire 816g และ Desire 520 ที่จะทยอยวางจำหน่ายภายในวันที่ 20 ธ.ค.57
“การกลับมาทำตลาดในรอบนี้ของเอชทีซี เกิดขึ้นหลังจากที่นำประสบการณ์ในการจำหน่ายสมาร์ทโฟนในระดับราคากลางๆ อย่าง Desire 816 และได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดี ทำให้มองว่ายังมีช่องว่างในตลาดดังกล่าวอยู่ และถือเป็นตลาดที่กำลังมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดสมาร์ทโฟน”
______________________________
เอชทีซี หวัง “Desire Eye” ช่วยดันยอดปลายปี
หลังจากนโยบายหลักของเอชทีซี ที่เปลี่ยนมาเน้นการจำหน่ายสมาร์ทโฟนราคาคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพ ส่งผลให้หลังจากมีการวางจำหน่าย Desire 816 และ One E8 ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา เริ่มทำให้เอชทีซีกลับมามีที่ยืนในตลาดสมาร์ทโฟน และล่าสุด เตรียมปล่อยหมัดเด็ด “Desire Eye” เริ่มทำตลาด 3 ธ.ค.57 พร้อมรุ่นน้องในตระกูล Desire ที่จะเริ่มทยอยวางจำหน่ายตามมา
น.ส.นันทิภัคค์ บุนนาค ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท เอชทีซี (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ทางเอชทีซีได้เตรียมวางจำหน่าย HTC Desire Eye ที่ชูจุดเด่นมาพร้อมกล้องหน้าและกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช ตัวเครื่องกันน้ำโดยไม่ต้องปิดพอร์ตยูเอสบี และที่สำคัญตัวเครื่องรองรับการใช้งาน 4G ในระดับราคาหมื่นกลางๆ พร้อมกับรุ่นน้องอย่าง Desire 820s Desire 816g และ Desire 520 ที่จะทยอยวางจำหน่ายภายในวันที่ 20 ธ.ค.57
“การกลับมาทำตลาดในรอบนี้ของเอชทีซี เกิดขึ้นหลังจากที่นำประสบการณ์ในการจำหน่ายสมาร์ทโฟนในระดับราคากลางๆ อย่าง Desire 816 และได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดี ทำให้มองว่ายังมีช่องว่างในตลาดดังกล่าวอยู่ และถือเป็นตลาดที่กำลังมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดสมาร์ทโฟน”
อย่างไรก็ตาม ไลน์สินค้าของเอชทีซีในปัจจุบัน ยังแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ สมาร์ทโฟนในตระกูล HTC One ที่จะเน้นความเป็นพรีเมียมของวัสดุ และตระกูล Desire ที่เน้นไปที่ประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่คุ้มค่า อย่างไรก็ตาม เอชทีซี ประเทศไทย ยืนยันแล้วว่าจะไม่มีการนำ HTC Butterfly 2 เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทย
ขณะที่ในตลาดของ Action Camera เอชทีซี จะมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นกล้องขนาดเล็กพกพาง่าย แต่ไม่มีหน้าจอแสดงผลอย่าง HTC Re เข้ามาทำตลาดด้วยในอนาคต โดยชูจุดเด่นอยู่ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เอชทีซี ด้วยแอปพลิเคชัน Re เพื่อใช้ซิงก์ภาพที่ถ่ายจากกล้อง Re รวมถึงใช้เป็นหน้าจอแสดงผลภาพได้ด้วย
สำหรับ HTC Re จะเป็นกล้องสำหรับใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ที่ไม่ต้องการเสียเวลาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป และจะพลาดช่วงเวลาที่สำคัญไป โดยตัวกล้องมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ให้มุมมองกว้างถึง 146 องศา และจะมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมอย่างขาตั้งไว้ใช้คู่กับจักรยาน ติดกระเป๋า กันน้ำ รวมถึงอุปกรณ์เสริมไว้ใช้ในการถ่ายภาพแบบ Time Lapse
นอกจากนี้ ยังมีการแนะนำความสามารถพิเศษของ “Eye Experience” ที่จะเพิ่มความสามารถในการใช้งานกล้องให้มีฟังก์ชันที่ครบถ้วนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโหมดการถ่ายภาพ Selfie แบบอัตโนมัติ การสั่งถ่ายภาพด้วยเสียง ลูกเล่นวิดีโอคอลที่จะตามโฟกัสที่ใบหน้าตลอดเวลา และแบ่งหน้าจอให้กลายเป็นสนทนาแบบกลุ่ม
ยังมีความสามารถในการบันทึกภาพกล้องหน้า และหลังพร้อมกัน (Split Capture) ตัดต่อภาพด้วยตัวเอง (Crop me in) การนำใบหน้า 2 บุคคลมารวมกัน (Face Fusion) โหมดหน้าเนียน (Live Makeup) และถ่ายภาพต่อเนื่อง 4 ภาพติด (Photo booth)
โดยผู้ที่ใช้งานเอชทีซีในรุ่น HTC One M8 HTC One E8 HTC One M7 และ HTC One Mini พร้อมกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่จะทยอยวางจำหน่าย จะได้ความสามารถในการใช้งาน Eye Experiemce ด้วยเช่นเดียวกัน
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000135783
น.ส.นันทิภัคค์ บุนนาค ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท เอชทีซี (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ทางเอชทีซีได้เตรียมวางจำหน่าย HTC Desire Eye ที่ชูจุดเด่นมาพร้อมกล้องหน้าและกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช ตัวเครื่องกันน้ำโดยไม่ต้องปิดพอร์ตยูเอสบี และที่สำคัญตัวเครื่องรองรับการใช้งาน 4G ในระดับราคาหมื่นกลางๆ พร้อมกับรุ่นน้องอย่าง Desire 820s Desire 816g และ Desire 520 ที่จะทยอยวางจำหน่ายภายในวันที่ 20 ธ.ค.57
“การกลับมาทำตลาดในรอบนี้ของเอชทีซี เกิดขึ้นหลังจากที่นำประสบการณ์ในการจำหน่ายสมาร์ทโฟนในระดับราคากลางๆ อย่าง Desire 816 และได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดี ทำให้มองว่ายังมีช่องว่างในตลาดดังกล่าวอยู่ และถือเป็นตลาดที่กำลังมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดสมาร์ทโฟน”
______________________________
เอชทีซี หวัง “Desire Eye” ช่วยดันยอดปลายปี
หลังจากนโยบายหลักของเอชทีซี ที่เปลี่ยนมาเน้นการจำหน่ายสมาร์ทโฟนราคาคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพ ส่งผลให้หลังจากมีการวางจำหน่าย Desire 816 และ One E8 ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา เริ่มทำให้เอชทีซีกลับมามีที่ยืนในตลาดสมาร์ทโฟน และล่าสุด เตรียมปล่อยหมัดเด็ด “Desire Eye” เริ่มทำตลาด 3 ธ.ค.57 พร้อมรุ่นน้องในตระกูล Desire ที่จะเริ่มทยอยวางจำหน่ายตามมา
น.ส.นันทิภัคค์ บุนนาค ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท เอชทีซี (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ทางเอชทีซีได้เตรียมวางจำหน่าย HTC Desire Eye ที่ชูจุดเด่นมาพร้อมกล้องหน้าและกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช ตัวเครื่องกันน้ำโดยไม่ต้องปิดพอร์ตยูเอสบี และที่สำคัญตัวเครื่องรองรับการใช้งาน 4G ในระดับราคาหมื่นกลางๆ พร้อมกับรุ่นน้องอย่าง Desire 820s Desire 816g และ Desire 520 ที่จะทยอยวางจำหน่ายภายในวันที่ 20 ธ.ค.57
“การกลับมาทำตลาดในรอบนี้ของเอชทีซี เกิดขึ้นหลังจากที่นำประสบการณ์ในการจำหน่ายสมาร์ทโฟนในระดับราคากลางๆ อย่าง Desire 816 และได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดี ทำให้มองว่ายังมีช่องว่างในตลาดดังกล่าวอยู่ และถือเป็นตลาดที่กำลังมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดสมาร์ทโฟน”
อย่างไรก็ตาม ไลน์สินค้าของเอชทีซีในปัจจุบัน ยังแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ สมาร์ทโฟนในตระกูล HTC One ที่จะเน้นความเป็นพรีเมียมของวัสดุ และตระกูล Desire ที่เน้นไปที่ประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่คุ้มค่า อย่างไรก็ตาม เอชทีซี ประเทศไทย ยืนยันแล้วว่าจะไม่มีการนำ HTC Butterfly 2 เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทย
ขณะที่ในตลาดของ Action Camera เอชทีซี จะมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นกล้องขนาดเล็กพกพาง่าย แต่ไม่มีหน้าจอแสดงผลอย่าง HTC Re เข้ามาทำตลาดด้วยในอนาคต โดยชูจุดเด่นอยู่ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เอชทีซี ด้วยแอปพลิเคชัน Re เพื่อใช้ซิงก์ภาพที่ถ่ายจากกล้อง Re รวมถึงใช้เป็นหน้าจอแสดงผลภาพได้ด้วย
สำหรับ HTC Re จะเป็นกล้องสำหรับใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ที่ไม่ต้องการเสียเวลาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป และจะพลาดช่วงเวลาที่สำคัญไป โดยตัวกล้องมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ให้มุมมองกว้างถึง 146 องศา และจะมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมอย่างขาตั้งไว้ใช้คู่กับจักรยาน ติดกระเป๋า กันน้ำ รวมถึงอุปกรณ์เสริมไว้ใช้ในการถ่ายภาพแบบ Time Lapse
นอกจากนี้ ยังมีการแนะนำความสามารถพิเศษของ “Eye Experience” ที่จะเพิ่มความสามารถในการใช้งานกล้องให้มีฟังก์ชันที่ครบถ้วนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโหมดการถ่ายภาพ Selfie แบบอัตโนมัติ การสั่งถ่ายภาพด้วยเสียง ลูกเล่นวิดีโอคอลที่จะตามโฟกัสที่ใบหน้าตลอดเวลา และแบ่งหน้าจอให้กลายเป็นสนทนาแบบกลุ่ม
ยังมีความสามารถในการบันทึกภาพกล้องหน้า และหลังพร้อมกัน (Split Capture) ตัดต่อภาพด้วยตัวเอง (Crop me in) การนำใบหน้า 2 บุคคลมารวมกัน (Face Fusion) โหมดหน้าเนียน (Live Makeup) และถ่ายภาพต่อเนื่อง 4 ภาพติด (Photo booth)
โดยผู้ที่ใช้งานเอชทีซีในรุ่น HTC One M8 HTC One E8 HTC One M7 และ HTC One Mini พร้อมกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่จะทยอยวางจำหน่าย จะได้ความสามารถในการใช้งาน Eye Experiemce ด้วยเช่นเดียวกัน
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000135783
ไม่มีความคิดเห็น: