Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

15 ธันวาคม 2557 VOICE TV.เมฆินทร์ ระบุปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่ของวอยซ์ทีวีเลือกเสพข่าวจากช่องทางสมาร์ทโฟนมากขึ้นกว่า 70% จากเดิมที่มีผู้ชมในอดีตจะเลือกเสพข่าวจากจอพีซีกว่า 90%

ประเด็นหลัก

    นายเมฆินทร์  ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงทิศทางตลาดทีวีดิจิตอลว่า จะแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น  โดยในส่วนของบริษัทได้วางแผนทิศทางกลยุทธ์ 3 แนวทาง ได้แก่ 1. ให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ 2.เน้นการพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพและเพิ่มความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น 3.ยกระดับคุณภาพช่องเพื่อเรียกเรตติ้ง เป็นต้น นอกจากการพัฒนาแบรนด์ คอนเทนต์ ให้มีประสิทธิภาพแล้ว บริษัทจะยังเพิ่มช่องทางต่างๆในการขยายฐานผู้ชมให้เพิ่มขึ้น เช่น แอพพลิเคชัน และกิจกรรมอีเวนต์ เป็นต้น
    "ปัจจุบันพฤติกรรมผู้ชมนิยมรับชมโทรทัศน์รูปแบบมัลติสกรีนเป็นส่วนใหญ่ หรือดูคอนเทนต์จากหลายจอ เช่น จอสมาร์ทโฟน โทรทัศน์  คอมพิวเตอร์ เป็นต้นในเวลาเดียวกัน ดังนั้นในปีหน้าบริษัทจึงเน้นให้ความสำคัญกับกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น เนื่องจากในช่วงเวลาที่ผ่านมาบริษัทได้ทำการสำรวจพบว่าปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่ของวอยซ์ทีวีเลือกเสพข่าวจากช่องทางสมาร์ทโฟนมากขึ้นกว่า 70%  จากเดิมที่มีผู้ชมในอดีตจะเลือกเสพข่าวจากจอพีซีกว่า 90% ซึ่งทิศทางการเติบโตของผู้ชมดังกล่าวส่งผลให้บริษัทต้องให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้ชมคนเมือง"



______________________________







ขีดเส้นตายช่อง9/กรมประชาฯ



 กสท. เตรียมลงดาบช่อง 9 กรมประชาสัมพันธ์ ผู้ให้บริการโครงข่าย เหตุติดตั้งล่าช้า เผยให้เวลาต่ออายุอีก 60 วันหากไม่ดำเนินการ ต้องจ่ายค่าปรับ 2 หมื่นบาทต่อวัน ก่อนถอนใบอนุญาต แนะผู้ได้รับผลกระทบ อาจใช้สิทธิเรียกร้องความเสียหายได้ ขณะที่ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลยังเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง "วอยซ์ทีวี" เตรียมทุ่มงบกว่า 600 ล้านหวังเจาะทุกช่องทางทั้ง On air - Online - On ground  ด้าน"ทีวีธันเดอร์" เล็งเข้าตลาด MAI  ระดมทุนต่อยอด
    ผศ.ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ผศ.ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ผศ.ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการที่ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลร้องเรียนต่อกสท. ถึงกรณีที่การติดตั้งสถานีฐานโครงข่ายทีวีดิจิตอลมีความล่าช้า ทำให้ไม่สามารถให้บริการในการออกอากาศทีวีดิจิตอลตามที่กสท. กำหนดนั้น โดยพบว่าผู้ประกอบการสถานีโครงข่ายที่ดำเนินการล่าช้ามี 2 ราย ได้แก่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และกรมประชาสัมพันธ์ นั้น
    ที่ประชุมกสท. เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา มีมติว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการสถานีโครงข่ายเร่งดำเนินการติดตั้งสถานีโครงข่ายให้แล้วเสร็จ เพื่อให้สามารถให้บริการผู้เช่าโครงข่ายได้ คณะกรรมการจึงมีมติให้ผู้ประกอบการสถานีโครงข่ายต้องดำเนินการติดตั้งโครงข่ายพร้อมให้บริการภายใน 60 วัน หากไม่สามารถดำเนินการได้จะต้องถูกปรับเป็นเงินจำนวน 2 หมื่นบาทต่อวัน  และหากยังไม่สามารถดำเนินการได้อีกจะถูกยึดใบอนุญาตในที่สุด เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายอื่นที่สนใจเข้ามาดำเนินการแทน
    นอกจากนี้ที่ประชุมกสท.ยังมอบหมายให้สำนักงานกสทช. แจงผู้ใช้บริการโครงข่ายของอสมท และกรมประชาสัมพันธ์ทราบว่า  กรณีที่ผู้ใช้บริการได้รับความเสียหายจากการปฏิบัติผิดเงื่อนไขดังกล่าว อาจใช้สิทธิเรียกร้องความเสียหายตามสัญญาได้  ทั้งยังได้กำชับให้อสมท และกรมประชาสัมพันธ์ ทำการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคทราบถึงสาเหตุของความล่าช้าด้วย
    อย่างไรก็ดี หลังการออกอากาศทีวีดิจิตอลพบว่า ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลมีแผนลงทุนอย่างต่อเนื่อง  โดยในเรื่องดังกล่าวนายเมฆินทร์  เพ็ชรพลาย  กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด กล่าวว่า ในปีหน้า บริษัทเตรียมใช้งบลงทุนราว 600 ล้านบาท ในการลงทุนด้านคอนเทนต์และอุปกรณ์ โดยมุ่งเน้นการ Engage กับผู้ชมทั้งในแง่ของ On air , Online และ On ground เนื่องจากบริษัทมองว่าในอนาคตคอนเทนต์ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสามารถเรียกเรตติ้งผู้ชมให้เข้ามาได้
    อีกทั้งในต้นปีหน้าบริษัทได้วางแผนปรับผังรายการช่องใหม่ โดยจะเน้นรายการที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เช่น รายการคลับจ็อบเบอร์(Club Jobber) และรายการยู ดีเบต(U DEBATE) เป็นต้น เพื่อขยายฐานกลุ่มผู้ชมรุ่นใหม่เพิ่มเข้ามา ขณะที่กลุ่มเป้าหมายหลักของช่องวอยซ์ทีวี ยังคงเป็นกลุ่มเออร์เบิร์น(คนเมือง)
    ทั้งนี้นายเมฆินทร์ เพิ่งเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา  โดยจะทำหน้าที่บริหารช่องวอยซ์ ทีวี ซึ่งในทิศทางการดำเนินธุรกิจต่อจากนี้จะเร่งขับเคลื่อนเรื่องการปฏิบัติการขององค์กรให้สอดรับกับนโยบายและเป้าหมายที่วางไว้ เน้นการพัฒนาและขยายผลจากความสำเร็จที่ผ่านมา  ขณะเดียวกันจะกำหนดนโยบาย ทิศทางและกลยุทธ์ต่างๆให้สอดคล้องกับสถานการณ์และแนวโน้มของผู้ชมในปัจจุบัน
    นายเมฆินทร์  ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงทิศทางตลาดทีวีดิจิตอลว่า จะแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น  โดยในส่วนของบริษัทได้วางแผนทิศทางกลยุทธ์ 3 แนวทาง ได้แก่ 1. ให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ 2.เน้นการพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพและเพิ่มความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น 3.ยกระดับคุณภาพช่องเพื่อเรียกเรตติ้ง เป็นต้น นอกจากการพัฒนาแบรนด์ คอนเทนต์ ให้มีประสิทธิภาพแล้ว บริษัทจะยังเพิ่มช่องทางต่างๆในการขยายฐานผู้ชมให้เพิ่มขึ้น เช่น แอพพลิเคชัน และกิจกรรมอีเวนต์ เป็นต้น
    "ปัจจุบันพฤติกรรมผู้ชมนิยมรับชมโทรทัศน์รูปแบบมัลติสกรีนเป็นส่วนใหญ่ หรือดูคอนเทนต์จากหลายจอ เช่น จอสมาร์ทโฟน โทรทัศน์  คอมพิวเตอร์ เป็นต้นในเวลาเดียวกัน ดังนั้นในปีหน้าบริษัทจึงเน้นให้ความสำคัญกับกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น เนื่องจากในช่วงเวลาที่ผ่านมาบริษัทได้ทำการสำรวจพบว่าปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่ของวอยซ์ทีวีเลือกเสพข่าวจากช่องทางสมาร์ทโฟนมากขึ้นกว่า 70%  จากเดิมที่มีผู้ชมในอดีตจะเลือกเสพข่าวจากจอพีซีกว่า 90% ซึ่งทิศทางการเติบโตของผู้ชมดังกล่าวส่งผลให้บริษัทต้องให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้ชมคนเมือง"
    อีกทั้งในอดีตที่ผ่านมา ก่อนการประมูลบริษัทคาดการณ์ผิดว่าจะมีผู้เล่นคอนเทนต์ข่าวเพียงไม่กี่รายแต่ในปัจจุบันช่องทีวีดิจิตอลเกือบทั้งหมดได้เข้ามาเล่นคอนเทนต์ข่าวจำนวนมาก ส่งผลให้บริษัทต้องเร่งปรับตัว และเดินหน้าให้เร็วมากขึ้น ดังนั้นบริษัทจึงได้นำจุดแข็งที่มีอยู่ในเรื่องของรายการวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็น มาสร้างความแตกต่างจากช่องอื่น อีกทั้งในอนาคตบริษัทอาจจะมีแผนร่วมมือกับพาร์ตเนอร์รายเล็ก จนถึงรายใหญ่ในวงการธุรกิจอีเวนต์ และเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร
    ด้านนางภัทรภร  วรรณภิญโญ  ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด ผู้ผลิตคอนเทนต์ให้กับทีวีดิจิตอล อาทิ ช่อง 3 , ไทยรัฐทีวี , โมโน 29 ฯลฯ กล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทวางงบลงทุนกว่า 300ล้านบาทในการผลิตคอนเทนต์ และสร้างสตูดิโอแห่งใหม่ ย่านรามคำแหงอีก 1 แห่งเพื่อรองรับการผลิตคอนเทนต์ที่เพิ่มมากขึ้น โดยในปัจจุบันบริษัทได้รับจ้างผลิตรายการให้ช่องต่างๆจำนวนมาก ได้แก่ช่อง 3 , ไทยรัฐทีวี ,โมโน 29 และพีพีทีวี เป็นต้น ส่วนในปีหน้าบริษัทมีแนวโน้มผลิตรายการให้กับช่องทีวีดิจิตอลน้องใหม่อีก 2-3 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจา
    ทีวีธันเดอร์มีสัดส่วนรายได้จาก 3 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย รายได้จากโฆษณาประมาณ 85%  รายได้จากการให้บริการ 14% และรายได้จากการบริหารงานศิลปินประมาณ 1% ขณะเดียวกันในภาพรวมบริษัทในปีที่ผ่านมามีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 600ล้านบาท ขณะที่ในครึ่งปีแรกของปีนี้ค่อนข้างชะลอตัวเนื่องจากได้รับผลกระทบเรื่องการเมือง และเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับธุรกิจหลายประเภท
    "บริษัทอยู่ในระหว่างการเตรียมแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อยื่นคำขออนุญาตต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) และเตรียมความพร้อมในการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ในช่วงสิ้นปีนี้เนื่องจากบริษัทมองว่าการเป็นบริษัทจดทะเบียนจะช่วยสร้างให้บริษัทเป็นองค์กรผู้ผลิตคอนเทนต์ชั้นนำและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลอีกทั้งในอนาคตบริษัทเชื่อว่าการมาของทีวีดิจิตอลจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทเติบโตโดยเฉพาะในกลุ่มรายได้ของการผลิตรายการที่ในปีหน้าจะเติบโตกว่า 12-15%"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=257315:9&catid=107:2009-02-08-11-34-25&Itemid=456#.VIxCyYtAeuw

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.