Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

15 มกราคม 2558 เมเจอร์ ระบุ ปี 2557 เอ็มแชนเนล เปิดรายได้ที่ 200 ล้านบาท ส่วนอีกช่องคือ “บูมเมอแรง” เป็นช่องการ์ตูนนานาชาติ จับกลุ่มเด็กอายุ 4-15 ปี ซึ่งทำให้มีข้อจำกัดในการลงโฆษณาหลายตัว แต่ปีที่ผ่านมายังคงมีรายได้สูงถึง 80 ล้านบาทจากเป้าที่วางไว้ 60 ล้านบาท ส่งผลให้ปีก่อนปิดรายได้รวมที่ 280 ล้านบาท

ประเด็นหลัก


     
       ในส่วนของบริษัทฯ ปัจจุบันมีอยู่ 2 ช่อง คือ “เอ็มแชนเนล” เป็นช่องภาพยนตร์จับกลุ่มแมส ปีที่ผ่านมารายได้โฆษณาต่ำกว่าเป้าจากสภาพการเมืองและเศรษฐกิจ แต่มีรายได้จากการขายคอนเทนต์ให้ช่องทีวีดิจิตอลเข้ามาช่วย จึงทำให้ปี 2557 ปิดรายได้ที่ 200 ล้านบาท ส่วนอีกช่องคือ “บูมเมอแรง” เป็นช่องการ์ตูนนานาชาติ จับกลุ่มเด็กอายุ 4-15 ปี ซึ่งทำให้มีข้อจำกัดในการลงโฆษณาหลายตัว แต่ปีที่ผ่านมายังคงมีรายได้สูงถึง 80 ล้านบาทจากเป้าที่วางไว้ 60 ล้านบาท ส่งผลให้ปีก่อนปิดรายได้รวมที่ 280 ล้านบาท
     


_____________________________________________________

















“เมเจอร์” กำงบฯ 3 พันล้านบาทลุยเทกโอเวอร์ทีวีดิจิตอล


ASTVผู้จัดการรายวัน - “เมเจอร์” ซุ่มเตรียมเสียบลุยทีวีดิจิตอลหากช่องไหนไปไม่รอด คาดใช้ทุนกว่า 3,000 ล้านบาท ล่าสุดในนาม “เอ็มเทิร์นเนอร์” เดินหน้าผลิตรายการเด็กและครอบครัวลง “ช่อง 3 แฟมิลี่” ใน 2 เดือนข้างหน้า มองทีวีดาวเทียมยังเติบโตได้ดี ปีนี้อัดงบลงทุนอีก 300-400 ล้านบาท เพิ่ม “Toonami” ปิดช่องว่างผู้ชมอายุ 15 ปีขึ้นไป มั่นใจทั้งปีส่งรายได้รวมแตะ 400 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 280 ล้านบาท
     
       นายสยามรัศมิ์ เลาหสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ กันตนา บรอดแคสติ้ง จำกัด เจ้าของช่อง “เอ็มแชนเนล” (M Channel) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความสนใจในการเข้าไปลงทุนในแพลตฟอร์มทีวีดิจิตอล ทั้งในส่วนการขายคอนเทนต์ภาพยนตร์และการรับจ้างผลิตคอนเทนต์ที่ล่าสุดได้มีการพูดคุยกับ “ช่อง 3 แฟมิลี่” ภายใต้ บริษัท เอ็ม เทิร์นเนอร์ จำกัด จะเข้ามาร่วมผลิตรายการในช่วงไพรม์ไทม์ตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป ในสล็อตทุกวันจันทร์-ศุกร์ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายใน 1- 2 เดือนหลังจากนี้
     
       “ที่สำคัญบริษัทฯ ยังได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าไปลงทุนในแพลตฟอร์มทีวีดิจิตอลด้วย ทั้งในรูปแบบของการจับมือกับพันธมิตรและประมูลใหม่หากมีบางช่องที่ส่งคืนคลื่น โดยมองว่าความเป็นไปได้ที่จะลงทุนครั้งนี้มีสูงถึง 30-40% จากช่องทั้งหมด ซึ่งหากมีการลงทุนจริงแล้วจะต้องมีการศึกษาในรายละเอียดเชิงลึกมากขึ้นและเน้นช่องที่อิงกับความถนัดของทางกลุ่มเมเจอร์เป็นหลัก ซึ่งอาจจะเป็นการนำคอนเทนต์ไปลงในช่อง หรือนำทั้งช่องที่มีเรตติ้งดีไปทั้งช่อง ภายใต้งบลงทุนที่คาดว่าจะต้องมีไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนดังกล่าวไม่ได้อยู่ในระยะอันใกล้นี้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับเวลา ความพร้อม และสถานการณ์ที่มั่นคงของอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลเสียก่อน”
     
       นายสยามรัศมิ์กล่าวต่อว่า ภาพรวมของธุรกิจทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีเป็นธุรกิจที่ครองส่วนแบ่งผู้ชมกว่า 70% ของอุตสาหกรรมทีวีรวมทั้งหมด ขณะที่ทีวีดิจิตอลจะเข้ามาเสริมในส่วน 30% ที่เหลือ และจากการเกิดของทีวีดิจิตอลทำให้เกิดการแข่งขันมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของคุณภาพและคอนเทนต์ ส่งผลให้ช่องทีวีดาวเทียมบางช่องต้องปิดตัวลง โดยเฉพาะช่องที่เน้นขายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ในอนาคตเชื่อว่าจะยังมีการปิดตัวลงอีกมาก สุดท้ายจะเหลืออยู่เฉพาะช่องที่ดีและสามารถแข่งขันได้จริง
     
       “ผมมั่นใจว่าทีวีดาวเทียมยังไปได้ดีอยู่เพราะครองฐานผู้ชมเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งยังมีเรตติ้งใกล้เคียงกับทีวีดิจิตอลในปัจจุบันขณะที่ราคาโฆษณาถูกกว่า ยิ่งทีวีดิจิตอลมีความพร้อมและมีเรตติ้งผู้ชมดีขึ้นและมีการขยับราคาโฆษณาเกิดขึ้น ทีวีดาวเทียมก็จะมีโอกาสในการปรับราคาโฆษณาขึ้นตามเช่นกัน เนื่องจากพบว่าขณะที่เอเยนซีโฆษณาจะตัดงบโฆษณาของทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีในช่องที่อยู่ต่ำกว่าท็อป 5 ลงมาไปลองใช้ในทีวีดิจิตอล ขณะที่กลุ่มช่องที่อยู่ในระดับท็อป 3-5 ยังเป็นกลุ่มที่เอเยนซียังพร้อมใช้งบลงโฆษณาอย่างต่อเนื่อง”
     
       ในส่วนของบริษัทฯ ปัจจุบันมีอยู่ 2 ช่อง คือ “เอ็มแชนเนล” เป็นช่องภาพยนตร์จับกลุ่มแมส ปีที่ผ่านมารายได้โฆษณาต่ำกว่าเป้าจากสภาพการเมืองและเศรษฐกิจ แต่มีรายได้จากการขายคอนเทนต์ให้ช่องทีวีดิจิตอลเข้ามาช่วย จึงทำให้ปี 2557 ปิดรายได้ที่ 200 ล้านบาท ส่วนอีกช่องคือ “บูมเมอแรง” เป็นช่องการ์ตูนนานาชาติ จับกลุ่มเด็กอายุ 4-15 ปี ซึ่งทำให้มีข้อจำกัดในการลงโฆษณาหลายตัว แต่ปีที่ผ่านมายังคงมีรายได้สูงถึง 80 ล้านบาทจากเป้าที่วางไว้ 60 ล้านบาท ส่งผลให้ปีก่อนปิดรายได้รวมที่ 280 ล้านบาท
     
       บริษัทฯ พร้อมใช้งบลงทุนในปี 2558 รวมกว่า 300-400 ล้านบาท ในการเพิ่มศักยภาพการแพร่ภาพของทั้ง 2 ช่องให้มีความคมชัดเทียบเท่าระบบ HD เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการทำให้ทั้ง 2 ช่องยังคงอยู่ในระดับท็อป 3-5 ในกลุ่มทีวีดาวเทียมที่เอเยนซียังคงใช้ลงโฆษณาต่อไป โดยที่ปีนี้ยังมีการปรับราคาโฆษณาขึ้นอีกประมาณ 2 เท่า หรืออยู่ที่เรตนาทีละ 20,000 บาท
     
       ล่าสุดได้ร่วมมือกับ บริษัท เทิร์นเนอร์ บรอดแคสติ้ง ซิสเต็มส์ เอเชีย แปซิฟิค อิงค์ จำกัด ภายใต้บริษัท เอ็ม เทิร์นเนอร์ จำกัด เปิดตัวช่องการ์ตูนอีก 1 ช่องคือ “ทูนามิ” (Toonami) เป็นช่องบันเทิงรวมการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่จากทั่วโลกมาไว้รวมกัน เช่น Ben 10, Justice League Unlimited, Teen Titans, Transformers Prime, Wolverine and the X-Men และ Batman เป็นต้น จับกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไปจนถึงผู้ใหญ่ ถือเป็นช่องที่เข้ามาจับกลุ่มเป้าหมายที่ว่างอยู่ รวมถึงรองรับโฆษณาบางตัวที่ไม่สามารถลงช่องเด็กได้ สิ้นปีนี้เชื่อว่าจะทำรายได้อยู่ที่ 60 ล้านบาท พร้อมส่งรายได้รวมทั้งปีนี้อยู่ที่ 400 ล้านบาท

http://manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9580000005233

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.