Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

20 มกราคม 2558 รักษาการรองเลขาธิการ กสทช.สมบัติ ระบุ เตรียมเก็บค่าธรรมเนียมกล่องดาวเทียมแบบขายขาด หลังตั้งบริษัทลูกขายกล่องเพราะรายได้มากกว่า 5 ล้านบาท จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 2%

ประเด็นหลัก

   นายสมบัติ ลีลาพตะ รักษาการรองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมกรรมการ กสท. เมื่อวันที่ 19 ม.ค.58 ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรายปี 4% สำหรับผู้ประกอบการที่จำหน่ายกล่องรับสัญญาณดาวเทียมแบบบอกรับสมาชิกแบบขายขาด ซึ่งไม่ได้เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. โดยคิดเป็นค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 2% ซึ่งคิดจากรายได้รวมจากการประกอบกิจการ หากมีรายได้มากกว่า 5 ล้านบาท จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 2% และถ้าไม่ถึง 5 ล้านบาท จ่ายค่าธรรมเนียม 1.5%
   



“ปัจจุบันมีผู้จำหน่ายกล่องดาวเทียม กล่องเคเบิล หลายราย เป็นบริษัทในเครือ หรือบริษัทลูกของผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดาวเทียม ทำให้รายได้ไม่เข้าบริษัทแม่ ถือเป็นการหลีกเลี่ยง และเอาเปรียบผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่ทำถูกต้อง เพราะฉะนั้นก็ต้องจัดระเบียบ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม และเป็นธรรมในการประกอบกิจการ ซึ่งจากการศึกษามูลค่าตลาดของกล่องทีวีดาวเทียมและกล่องเคเบิ้ลทีวี อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท”


_____________________________________________________


















กสท.เล็งเก็บค่าธรรมเนียมกล่องดาวเทียมแบบขายขาด



นายสมบัติ ลีลาพตะ รักษาการรองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.)

        บอร์ด กสท.ปิ๊งไอเดียเก็บเงินค่าธรรมเนียมกล่องดาวเทียมแบบขายขาดกับตัวแทนจำหน่าย อ้างสร้างความเท่าเทียมในกิจการกระจายเสียง หลังพบผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตเปิดบริษัทแยกออกมาเพื่อค้ากล่องโดยเฉพาะ ทำให้ กสท.เก็บค่าธรรมเนียมไม่ได้ตามรายได้ที่เกิดขึ้นจริง
     
       นายสมบัติ ลีลาพตะ รักษาการรองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมกรรมการ กสท. เมื่อวันที่ 19 ม.ค.58 ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรายปี 4% สำหรับผู้ประกอบการที่จำหน่ายกล่องรับสัญญาณดาวเทียมแบบบอกรับสมาชิกแบบขายขาด ซึ่งไม่ได้เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. โดยคิดเป็นค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 2% ซึ่งคิดจากรายได้รวมจากการประกอบกิจการ หากมีรายได้มากกว่า 5 ล้านบาท จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 2% และถ้าไม่ถึง 5 ล้านบาท จ่ายค่าธรรมเนียม 1.5%
     
       ส่วนอีก 2% จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้แก่กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ โดย กสท.เห็นว่า การมีรายได้จากการจำหน่ายกล่องถือเป็นส่วนที่มาจากการประกอบกิจการเช่นกัน ซึ่งจะต้องมีการจ่ายค่าธรรมเนียมรายปีเช่นเดียวกับการประกอบกิจการตามที่ได้ใบอนุญาต
     
       อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปในกรณีดังกล่าว เนื่องจากจะต้องศึกษารายละเอียดการจัดเก็บที่ชัดเจนว่า กสทช.จะใช้อำนาจใดในการสั่งการต่อผู้ประกอบการที่ไม่ได้รับอนุญาตได้บ้าง ดังนั้น จึงได้ให้สำนักงาน กสทช.ศึกษาแนวทางและรูปแบบการจัดเก็บค่าธรรมเนียมว่าควรเป็นรูปแบบใด และจะต้องออกมาเป็นประกาศเพื่อบังคับใช้ได้หรือไม่
     
       ทั้งนี้ ที่ผ่านมาผู้ประกอบการบางรายมีการจัดตั้งบริษัทลูกแยกออกมาเพื่อเป็นตัวแทนจำหน่าย กล่องดาวเทียม ทำให้การจัดเก็บรายได้ไม่เป็นไปตามความจริง ซึ่งหากมีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมจะทำให้เกิดความเท่าเทียมและความยุติธรรม กับผู้ประกอบการที่ไม่แยกออกมาตั้งบริษัทลูก และจ่ายค่าธรรมเนียมรายปีจะถูกต้องตามรายได้ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งมูลค่าตลาดรวมของกล่องดาวเทียมแบบบอกรับสมาชิกอยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท


http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000006986



_________________________________



กสท.จ่อเก็บค่าต๋งคนขายกล่องดาวเทียม


"สมบัติ" เผย บอร์ด กสท.จ่อเก็บค่าธรรมเนียมคนขายกล่องดาวเทียม เพื่อจัดระเบียบกิจการทีวีดาวเทียม



นายสมบัติ ลีลาพตะ รักษาการรองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ (กสท.) มีมติให้สำนักงานกสทช.ไปศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผู้ประกอบกิจการจำหน่ายกล่องดาวเทียม เนื่องจากมีปัจจุบันไม่สามารถจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้จำหน่ายกล่องดาวเทียมได้ เพราะมีการหลีกเลี่ยงกันในหลากหลายรูปแบบ ฉะนั้นตามหน้าที่กำกับดูแลของกสทช.ก็ต้องหามาตรการมากำกับดูแล เพื่อให้ทีวีดาวเทียมอยู่ได้ ซึ่งกสทช.ต้องกำหนดกฎเกณฑ์การจัดเก็บค่าธรรมเนียม เพื่อจัดระเบียบผู้จำหน่ายกล่องดาวเทียมทั้งประเทศ

สำหรับอัตราค่าธรรมเนียมนั้น ถ้ารายได้ไม่เกิน 5ล้านบาทต่อปี จัดเก็บ 1.5% ของรายได้ ถ้ารายได้เกิน 5 ล้านบาท จัดเก็บในอัตรา 2.0% ต่อปี และจ่ายเงินเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการ โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.)ในอัตรา2%ของรายได้

“ปัจจุบันมีผู้จำหน่ายกล่องดาวเทียม กล่องเคเบิล หลายราย เป็นบริษัทในเครือ หรือบริษัทลูกของผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดาวเทียม ทำให้รายได้ไม่เข้าบริษัทแม่ ถือเป็นการหลีกเลี่ยง และเอาเปรียบผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่ทำถูกต้อง เพราะฉะนั้นก็ต้องจัดระเบียบ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม และเป็นธรรมในการประกอบกิจการ ซึ่งจากการศึกษามูลค่าตลาดของกล่องทีวีดาวเทียมและกล่องเคเบิ้ลทีวี อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท”

นายสมบัติ กล่าวว่า นอกจากนี้ บอร์ดกสท. ยังมีมติ ให้สำนักงาน กสทช. ไปตรวจสอบรายชื่อของสถานีวิทยุ หรือวิทยุชุมชน ที่มีใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการกับทาง กสทช. แต่ไม่ได้นำอุปกรณ์ในการใช้ดำเนินการออกอากาศไปตรวจสอบมาตรฐานกับทาง กสทช. ภายใน 90 วัน ตามข้อกำหนดใน ประกาศ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ฉบับที่79 เรื่อง เงื่อนไขในการออกอากาศของสถานีวิทยุกระจายเสียงที่ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการ โดยให้ผู้ที่ยังไม่ดำเนินการตามประกาศ คสช. ฉบับดังกล่าว ยุติการดำเนินการออกอากาศทันทีจนกว่าจะได้รับอนุญาตจากทาง คสช. และหากพบว่าหลังให้ยุติออกอากาศแล้วยังมีการฝ่าฝืนผู้ประกอบการรายดังกล่าว จะโดนเพิกถอนใบอนุญาตทันที


http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20150119/629603/กสท.จ่อเก็บค่าต๋งคนขายกล่องดาวเทียม.html

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.